ความชุกและลักษณะของผู้ป่วยโรคเรื้อรังที่ควรได้รับการเยี่ยมบ้าน: กรณีศึกษาศูนย์สุขภาพชุมชนโรงพยาบาล ยางตลาด อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์
Main Article Content
Abstract
บทคัดย่อ
บทนำ: ความเจ็บป่วยเรื้อรังเป็นปัญหาสุขภาพที่สำคัญของประเทศประเทศไทย ซึ่งคาดว่าโรคไม่ติดต่อที่จะเป็นปัญหาในอนาคต ได้แก่ โรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน โรคไตวายเรื้อรัง โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง งานวิจัยนี้จึงมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความชุกและลักษณะของผู้ป่วยโรคเรื้อรังที่จำเป็นต้องได้รับการบริการเยี่ยมบ้านในเขตรับผิดชอบโรงพยาบาลยางตลาด อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ ทดลอง: การศึกษาครั้งนี้เป็นการศึกษาเชิงพรรณนาแบบภาคตัดขวาง (Descriptive cross - sectional study) โดยประชากร คือ ผู้ที่มีภาวะโรคเรื้อรัง และคัดเลือกกลุ่มตัวอย่างจากฐานข้อมูลคอมพิวเตอร์หน่วยบริการปฐมภูมิ โรงพยาบาลยางตลาด อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ ตามเกณฑ์การคัดเลือก คือ เป็นผู้ป่วยโรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคไตวายเรื้อรัง หรือโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง ที่มีประวัติไม่มาตามนัดหรือขาดนัด มีประวัติการเข้าห้องฉุกเฉินหรือเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลด้วยโรคที่เป็น รวมทั้งหมด 603 คน แล้วสุ่มแบบมีจุดมุ่งหมายหรือจงใจ (Purposive Sampling) เพื่อลงสำรวจข้อมูลที่บ้านผู้ป่วยที่ยินยอมเข้าร่วมการศึกษาจำนวนทั้งสิ้น 143 คน และเก็บข้อมูลโดยใช้แบบสอบถาม และวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนา ผลการศึกษา: ผู้ป่วยโรคเรื้อรังทั้งหมด 143 คน เป็นเพศหญิงร้อยละ 87.6 โรคที่พบได้แก่ ความดันโลหิตสูงร่วมกับเบาหวาน (ร้อยละ 41.9) และเบาหวานอย่างเดียว (ร้อยละ 40.5) ผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงทั้งที่มีและไม่มีโรคร่วมมีระดับความดันโลหิตอยู่ในเกณฑ์ไม่เหมาะสมร้อยละ 41.9 ผู้ป่วยโรคเบาหวานทั้งที่มีและไม่มีโรคร่วมมีระดับน้ำตาลอยู่ในเกณฑ์ไม่เหมาะสมร้อยละ 39.8 ผู้ป่วยโรคไตวายเรื้อรังมี 1 คน ที่ต้องเข้ารับการรักษาที่ห้องฉุกเฉินคิดเป็นร้อยละ 0.7 เช่นเดียวกับผู้ป่วยโรคปอดอุดกั้น พบว่าผู้ป่วยทั้งหมดมีผู้ดูแล 82 คน (ร้อยละ 57.3) ไม่มีผู้ดูแลและควบคุมโรคไม่ได้ร้อยละ 27.3 นอกจากนี้พบว่ามีผู้ป่วยที่มารับการรักษาไม่ต่อเนื่องและไม่สามารถควบคุมโรคได้คิดเป็นร้อยละ 23.1 พบว่ามีผู้ป่วยที่มีปัญหาในการประกอบกิจวัตรประจำวันจำนวน 5 คน (ร้อยละ 3.5) ซึ่งผู้ป่วยทุกคนมีผู้ดูแลอยู่แล้วแต่มี 3 คนจากจำนวนดังกล่าวที่ไม่สามารถควบคุมโรคได้ สรุปผล: ผู้ป่วยที่ควรได้รับการเยี่ยมบ้าน มีร้อยละ 7.0 (N=10) โดยกลุ่มมีลักษณะปัญหาดังนี้ 1) เป็นผู้ป่วยที่ไม่เข้ารับการรักษาที่ใดเลย คิดเป็นร้อยละ 3.5 (N=5); 2) มีปัญหาช่วยเหลือตนเองในกิจวัตรประจำวันขั้นพื้นฐาน ไม่สามารถควบคุมโรค ผู้ดูแลไม่มีความรู้เบื้องต้นที่เกี่ยวข้องกับโรคและการรักษาของผู้ป่วยคิดเป็นร้อยละ 2.1 (N=3) และ3) มีปัญหาช่วยเหลือตนเองในกิจวัตรประจำวันขั้นพื้นฐาน ผู้ดูแลไม่มีความรู้เบื้องต้นที่เกี่ยวข้องกับโรคและการรักษาของผู้ป่วย แต่สามารถควบคุมโรคได้ คิดเป็นร้อยละ 1.4 (N=2)
Article Details
In the case that some parts are used by others The author must Confirm that obtaining permission to use some of the original authors. And must attach evidence That the permission has been included