ผลของแป้งต่อคุณลักษณะของไฮโดรเจลที่เตรียมได้จากยางธรรมชาติ
Main Article Content
Abstract
บทคัดย่อ
บทนำ: ปัจจุบันการนำไฮโดรเจลไปประยุกต์ใช้ในทางการแพทย์เป็นไปอย่างกว้างขวาง เนื่องจากสามารถใช้ในการดูดซับของเหลวและบรรจุสารหรือยาได้ ดังนั้นไฮโดรเจลจึงเป็นทางเลือกหนึ่งในการนำมาพัฒนาใช้เป็นวัสดุทางเภสัชกรรม ปัจจุบันไฮโดรเจลเป็นวัสดุสังเคราะห์ที่ได้จากการนำเข้าและมีราคาแพง เพื่อเป็นการส่งเสริมกระบวนการในการพึ่งตนเองทางอุตสาหกรรมการผลิต การศึกษานี้จึงมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลของแป้งต่อคุณลักษณะของไฮโดรเจลที่เตรียมได้จากยางธรรมชาติโดยการสร้างโครงร่างตาข่ายพอลิเมอร์แบบแทรกสอด โดยการผสมยางพาราและแป้งธรรมชาติ 3 ชนิด ที่มีปริมาณอะไมโลสและอะไมโลเพคตินที่แตกต่างกัน (แป้งชนิดที่ 1, 2 และ 3) วิธีการทดลอง: เตรียมยางด้วยวิธีฟรีแรดดิคอลพอลิเมอไรเซชัน โดยมี โพแทสเซียมเปอร์ซัลเฟต (KPS) เป็นตัวริเริ่มปฏิกิริยา จากนั้นนำมาผสมกับแป้งแต่ละชนิดที่อุณหภูมิห้อง (37 องศาเซลเซียส) และทำการศึกษาผลของอัตราส่วนยางต่อแป้ง และ ปริมาณของสารเชื่อมขวาง (N,N′-Methylenebisacrylamide, MBA) ต่อคุณสมบัติของไฮโดรเจล ได้แก่ คุณสมบัติการบวมพอง, คุณสมบัติการดูดซับน้ำและการเกิดโครงร่างตาข่าย ผลการศึกษา: จากการทดสอบคุณสมบัติการบวมพองและการดูดซับน้ำ พบว่าผลของแป้งต่างชนิดกันให้ผลการบวมพองและการดูดซับน้ำแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p < 0.05) ที่ปริมาณสารเชื่อมขวาง 1 phr แป้งชนิดที่ 3 ให้ผลการบวมพองเท่ากับ 83.63 ± 5.19 % ผลการดูดซับน้ำเท่ากับ 45.52 ± 1.52 % ซึ่งสูงกว่าที่พบในแป้งชนิดที่ 1 (44.04 ± 2.52 %, 30.56 ± 1.20 %) และแป้งชนิดที่ 2 (62.26 ± 3.36 %, 38.35 ± 1.28 %) และอัตราส่วนยางต่อแป้ง 1:2 มีการบวมพองและการดูดซับน้ำสูงสุดเท่ากับ 121.25 ± 1.50 %, 54.78 ± 0.33 % ตามลำดับ เมื่อใช้ปริมาณสารเชื่อมขวางที่แตกต่างกัน ได้แก่ 1, 1.5, 2 และ 2.5 phr พบว่า ค่าการบวมพองและการดูดซับน้ำไม่มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p>0.05) .ในแต่ละความเข้มข้นที่ทำการศึกษา โดยมีค่าการบวมพองและการดูดซับน้ำสูงสุดเท่ากับ 135.65 ± 1.07 %, 57.56 ± 0.19 % ตามลำดับ จากนั้นทำการศึกษาการเกิดโครงร่างตาข่ายของพอลิเมอร์ด้วยวิธีโซลูเบิลแฟคชัน ซึ่งประกอบด้วย 2 ส่วนคือ สัดส่วนโซล (sol fraction) และสัดส่วนเจล (gel fraction) โดยสัดส่วนเจลเป็นส่วนที่พอลิเมอร์ไม่ละลายในตัวทำละลาย ขณะที่สัดส่วนโซลเป็นส่วนที่ไม่เกิดโครงร่างตาข่ายสามารถละลายได้ในตัวทำละลาย พบว่าปริมาณสารเชื่อมขวาง MBA ที่ความเข้มข้น 1, 1.5, 2 และ 2.5 phr เกิดสัดส่วนเจลเท่ากับ 83.09 ± 0.28 %, 80.32 ± 0.44 %, 81.72 ± 0.86 % และ 82.82 ± 0.30 % ตามลำดับ (ที่ความเข้มข้น maleic acid คงที่, 2.5 phr) และที่ปริมาณสารเชื่อมขวาง 1 phr พบว่ามีค่า %polymer weight loss น้อยที่สุด แสดงให้เห็นว่าปริมาณสารเชื่อมขวางมีผลต่อการเกิดการเชื่อมขวางในระบบไฮโดรเจล สรุปผล: ชนิด, ปริมาณของแป้งและปริมาณของสารเชื่อมขวางมีผลต่อคุณสมบัติการบวมพองการดูดซับน้ำและการเกิดโครงร่างตาข่ายของไฮโดรเจลที่ได้จากยางธรรมชาติและแป้ง โดยแป้งชนิดที่ 3 อัตราส่วนยางต่อแป้ง 1:2 ที่ปริมาณสารเชื่อมขวางที่ 1 phr มีความเหมาะสมในการนำมาพัฒนาใช้เป็นวัสดุทางเภสัชกรรมและปริมาณของสารเชื่อมขวางในระบบที่ต่างกันมีผลทำให้เกิดโครงร่างตาข่ายที่ต่างกันอีกด้วย
Article Details
In the case that some parts are used by others The author must Confirm that obtaining permission to use some of the original authors. And must attach evidence That the permission has been included