การประเมินความเสี่ยงของ Bisphenol A (BPA) ในขวดนมเลี้ยงเด็กทารก
Main Article Content
Abstract
บทคัดย่อ
งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินความเสี่ยงในการรับสัมผัสสาร Bisphenol A (BPA) ของทารกจากขวดนมโดยการสุ่มขวดนมที่มีวางจำหน่ายในประเทศไทยมา 6 ยี่ห้อจากแหล่งขายต่างๆกัน ยี่ห้อละ 2-4 ขวดขึ้นกับจำนวนที่หาซื้อได้ วิเคราะห์โดยชงขวดนมแต่ละขวดด้วยน้ำกลั่น 30 มล.ที่อุณหภูมิห้อง, 40°C, 70°C, 100°C เลียนแบบการชงนมผง นำน้ำนั้นไป lyophylysed แล้วละลายใหม่ด้วย 1 มล. Mobile phase ของ High Performance Liquid Chromatography (HPLC) แล้ววิเคราะห์ด้วย HPLC, UV detector การทดสอบมาตรฐานของวิธีวิเคราะห์ ได้ตรวจสอบสมรรถนะในการแยกความแตกต่างของโครมาโตแกรมของสาร (Selectivity) ความสัมพันธ์เชิงเส้น (Linearity ได้ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์เท่ากับ 0.9981 เมื่อความเข้มข้น 0.5 μg/ml - 80 μg/ml) ขีดจำกัดในการตรวจหา (Limit of Detection, LOD) เท่ากับ 0.05 µg/ml ขีดจำกัดในการวัดปริมาณ (Limit of Quantitation, LOQ) เท่ากับ 0.5 µg/ml การทดสอบความถูกต้อง (Accuracy) ความเที่ยง (Precision) ค่ากลับคืน (%recovery ที่ความเข้มข้น 125 µg/ml ได้ร้อยละ 88.29 - 90.61) และการทวนซ้ำ (repeatability แสดงด้วยค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานสัมพัทธ์ของการทวนซ้ำ %RSDr เท่ากับร้อยละ 0.62-1.52) จากการวิเคราะห์พบว่าขวดนมทั้ง 5 ยี่ห้อ ไม่พบหรือมีปริมาณ BPA น้อยมากหรือต่ำกว่าขีดจำกัดในการวัดปริมาณ มีเพียง 1 ยี่ห้อที่พบ BPA ปริมาณ 6.61±0.26 และ 11.27 ± 1.51 mg จากน้ำชง 30 มล.ที่อุณหภูมิ 40°C และ 70°C ตามลำดับ เนื่องจากขวดนมยี่ห้อนี้มีเพียง 2 ขวด จึงเลือกทดสอบกับน้ำอุณหภูมิ 40°C และ 70°C เพื่อเป็นตัวแทนน้ำอุ่นและน้ำร้อนซึ่งเป็นอุณหภูมิที่มักถูกเลือกใช้กันทั่วไป แม้ว่าเมื่อน้ำชงมีอุณหภูมิสูงขึ้นจะทำให้ BPA หลุดออกมามากขึ้นในการใช้ขวดเป็นครั้งแรก แต่ในครั้งต่อๆไปปริมาณ BPA ที่ตรวจพบในทุกยี่ห้อจะลดลงเรื่อยๆและใน 2 ขวดนี้จะลดลงจนต่ำกว่าขีดจำกัดในการวัดปริมาณหลังจากชงน้ำอุณหภูมิเดิม 4 ครั้ง แสดงว่าในทุกขวดจะมี BPA ในจำนวนจำกัดเท่านั้น เมื่อคำนวณปริมาณรับสัมผัส BPA ต่อวันในกรณีเลวร้ายที่สุดที่เราตรวจเจอสำหรับทารกเกิดใหม่หนัก 3000 กรัมดื่มนมชง 540 มล.ต่อวัน จะได้ 58.56-76.67 ไมโครกรัม/กก./วัน (daily exposure dose, DED) เมื่อเปรียบเทียบกับค่าปลอดภัยคือ Tolerable Daily Intake (TDI) สำหรับ BPA จะพบว่าค่า margin of safety หรือ MOS (=TDI/DED) เท่ากับ 0.65-0.85 นั่นคือ ค่าที่ปลอดภัยน้อยกว่าปริมาณรับสัมผัส (DED) สรุปว่าทารกที่บริโภคนมจากขวดเหล่านี้มีความเสี่ยงอันตรายจากการรับสัมผัส BPA ซึ่งเป็นสารที่มีพิษต่อระบบต่อมไร้ท่อ (endocrine disrupting chemical) โดยเฉพาะเมื่อใช้ขวดนมนั้นเป็นครั้งแรกและใช้น้ำชงอุณหภูมิสูง อย่างไรก็ตาม ขวดนมที่ตรวจพบสาร BPA เป็นยี่ห้อเดียวจากที่ตรวจทั้งหมดที่ไม่มีเลขมาตรฐานอุตสาหกรรมไทยติดอยู่ แสดงว่าแม้ประเทศไทยจะยังไม่ได้ห้ามการใช้ขวดที่มี BPA อย่างเป็นทางการแต่ขวดประเภทนี้ก็เหลืออยู่น้อยมากในท้องตลาดและเป็นขวดที่ไม่ผ่านมาตรฐานอุตสาหกรรม ผู้ปกครองจึงควรเลือกใช้เฉพาะขวดที่มีมาตรฐานอุตสาหกรรมเท่านั้นเพื่อความปลอดภัยของทารก
Article Details
In the case that some parts are used by others The author must Confirm that obtaining permission to use some of the original authors. And must attach evidence That the permission has been included