ผลการคัดกรองผู้ที่เสี่ยงต่อโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูงแบบมีส่วนร่วมของชุมชนและการให้คำแนะนำในการส่งเสริมสุขภาพในชุมชนอภิสิทธิ์ 2 อ.เมืองมหาสารคาม จ.มหาสารคาม

Main Article Content

โกวิทย์ โต๊ะงาม
พรรณพิไล ดอนแถลง
รัฐสภา เดือนเพ็ญ
วาระดี แคนสุข
พรชนก ศรีมงคล
ธีระพงษ์ ศรีศิลป์

Abstract

บทคัดย่อ


บทนำ: วัตถุประสงค์ของการวิจัยคือ (1) เพื่อคัดกรองหาจำนวนของผู้ที่มีความเสี่ยงต่อโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูงในชุมชนอภิสิทธิ์ 2   (2) เพื่อประเมินประสิทธิผลของการให้คำแนะนำในการส่งเสริมสุขภาพต่อผลทางคลินิกและระดับคะแนนความรู้ในผู้ที่เสี่ยงต่อโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูง วิธีวิจัย: ใช้การศึกษาเชิงพรรณนาในขั้นที่ 1 และใช้การศึกษาเชิงทดลองแบบสุ่มและมีกลุ่มควบคุมในขั้นที่ 2 โดยกลุ่มทดลองได้รับการให้คำแนะนำโดยใช้สื่อโปสเตอร์ แผ่นพับ สมุดคู่มือให้ความรู้ประจำตัว และสื่อทางอิเลคทรอนิกส์ ส่วนกลุ่มควบคุมได้รับแผ่นพับให้ความรู้เพียงอย่างเดียว ผลการศึกษา: มีผู้เข้าร่วมคัดกรองทั้งหมด 135 คน เป็นผู้ที่มีความเสี่ยงต่อโรคเบาหวานร้อยละ 11.40  ผู้ที่เสี่ยงต่อโรคความดันโลหิตสูงร้อยละ 37.50 และผู้ที่เสี่ยงต่อโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูงร้อยละ 9.09 หลังจากนั้นนำผู้ที่เสี่ยงต่อโรคเบาหวาน และนำผู้ที่เสี่ยงต่อโรคความดันโลหิตสูง มาแบ่งกลุ่มการศึกษาออกเป็นกลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุม เพื่อให้คำแนะนำในการส่งเสริมสุขภาพ จากการเปรียบเทียบระดับน้ำตาลในเลือดหลังอดอาหารอย่างน้อย 8 ชั่วโมง โดยเปรียบเทียบภายในกลุ่มทดลองในช่วงก่อนและหลังการศึกษา และเปรียบเทียบระหว่างกลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุมในช่วงก่อนและหลังการศึกษา พบว่าลดลงอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p = 0.002 และ p = 0.030 ตามลำดับ) ส่วนระดับความดันโลหิตในช่วงก่อนและหลังการศึกษา โดยเปรียบเทียบภายในกลุ่มทดลองพบว่า ระดับความดันโลหิตหลังการให้คำแนะนำในการส่งเสริมสุขภาพลดลงอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติทั้งระดับความดันโลหิต systolic และ diastolic (p = 0.010 และ p = 0.003 ตามลำดับ) ด้านคะแนนความรู้หลังให้คำแนะนำในการส่งเสริมสุขภาพ พบว่า คะแนนความรู้ในเรื่องโรคเบาหวานและโรคความดันโลหิตสูงภายในกลุ่มทดลองเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p = 0.043 และ p < 0.001 ตามลำดับ) สรุปผล: การคัดกรองและการให้คำแนะนำในการส่งเสริมสุขภาพแก่ผู้ที่เสี่ยงต่อโรคเบาหวานและโรคความดันโลหิตสูงในชุมชนอภิสิทธิ์ 2 โดยนิสิตเภสัชศาสตร์ ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดและระดับความดันโลหิต รวมทั้งยังสามารถช่วยเพิ่มความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับโรคดังกล่าวได้ด้วย

Article Details

Section
Appendix