ผลการคัดกรองและการให้คำแนะนำส่งเสริมสุขภาพในผู้ที่มีความเสี่ยงต่อโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูงที่ร้านยาคุณภาพในจังหวัดมหาสารคาม
Main Article Content
Abstract
บทคัดย่อ
บทนำ: ในปัจจุบันโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูงเป็นปัญหาสาธารณสุขของโลก ซึ่งเป็นปัจจัยที่ส่งเสริมให้เกิดโรคระบบหัวใจและหลอดเลือด และทำให้เกิดการเสียชีวิต วิธีวิจัย: ดำเนินการวิจัยที่ร้านยาคุณภาพ 4 แห่งในจังหวัดมหาสารคาม ตั้งแต่เดือนกันยายน 2554 ถึงเดือนมกราคม 2555 โดยแบ่งการศึกษาออกเป็น 2 ขั้นตอนคือ 1) การวิจัยเชิงพรรณนา เพื่อประเมินผลการคัดกรองผู้ที่มีความเสี่ยงต่อโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูงที่มารับบริการที่ร้านยาคุณภาพในจังหวัดมหาสารคาม 2) One group pretest–posttest เพื่อประเมินผลการให้คำแนะนำส่งเสริมสุขภาพโดยนิสิตเภสัชศาสตร์ในร้านยาแก่ผู้ที่มีความเสี่ยงต่อโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูง โดยติดตามระดับน้ำตาลในเลือดเฉลี่ย ระดับความดันโลหิตเฉลี่ย คะแนนความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูง และการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการสร้างเสริมสุขภาพ ผลการศึกษา: ผู้เข้าร่วมการคัดกรองทั้งหมด 156 ราย พบผู้ที่มีความเสี่ยงต่อโรคเบาหวาน 8 ราย (ร้อยละ 5.1) ผู้ที่มีความเสี่ยงต่อโรคความดันโลหิตสูง 58 ราย (ร้อยละ 37.2) ผู้ที่มีความเสี่ยงต่อโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูง 14 ราย (ร้อยละ 9.0) ผู้ที่มีประวัติเป็นโรคเบาหวานและมีความเสี่ยงต่อโรคความดันโลหิตสูง 6 ราย (ร้อยละ 3.9) การศึกษา One group pretest–posttest มีทั้งหมด 79 ราย เป็นผู้ที่มีความเสี่ยงต่อโรคเบาหวาน 8 ราย (ร้อยละ 5.1) ผู้ที่มีความเสี่ยงต่อโรคความดันโลหิตสูง 53 ราย (ร้อยละ 34.0) ผู้ที่มีความเสี่ยงต่อโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูง 12 ราย (ร้อยละ 7.7) ผู้ที่เป็นโรคเบาหวานและมีความเสี่ยงต่อโรคความดันโลหิตสูง 6 ราย (ร้อยละ 3.9) พบว่าผู้ที่มีความเสี่ยงต่อโรคเบาหวานและผู้ที่มีความเสี่ยงต่อโรคความดันโลหิตสูงมีคะแนนความรู้เรื่องโรคเบาหวานและโรคความดันโลหิตสูงเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p<0.001) ผู้ที่มีความเสี่ยงต่อโรคเบาหวานมีระดับน้ำตาลในเลือดเฉลี่ยเมื่อไม่ได้อดอาหารลดลงอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p<0.001) ผู้ที่มีความเสี่ยงต่อโรคความดันโลหิตสูงมีระดับความดันโลหิต Systolic เฉลี่ยลดลงอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p<0.001) ผู้ที่มีความเสี่ยงต่อโรคเบาหวานและผู้ที่มีความเสี่ยงต่อโรคความดันโลหิตสูงมีพฤติกรรมการสร้างเสริมสุขภาพในภาพรวมดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p=0.031 และ p<0.001) สรุปผล: ดังนั้น ผลการศึกษานี้แสดงให้เห็นถึงบทบาทเชิงรุกในการป้องกันการเกิดโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูงได้ด้วยการลดปัจจัยเสี่ยงทางสุขภาพ
Article Details
In the case that some parts are used by others The author must Confirm that obtaining permission to use some of the original authors. And must attach evidence That the permission has been included