ผลการทดสอบเบื้องต้นของสารสกัดว่านกาบหอย (Tradescantia spathacea Swartz) ต่อการทำงานของเอนไซม์ CYP3A4 ในหลอดทดลอง

Main Article Content

พลอยชมพู เจนศิริธีราภา
พิมลพรรณ ใจกว้าง
อลิษา ทิพย์เสนา
สุทธาสินี สุวรรณกุล
เบญจภรณ์ เศรษฐบุปผา

Abstract

บทคัดย่อ


บทนำ: การใช้สมุนไพรหลายชนิดร่วมกันหรือใช้ควบคู่กับยาแผนปัจจุบัน มีโอกาสเกิดอันตรกิริยาระหว่างกันได้ โดยผ่านกลไกการยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ไซโตโครมพี 450 (cytochrome P450; CYP) CYP3A4 เป็นเอนไซม์ที่มีความสำคัญมากต่อการเมตาบอลิสมยาที่เข้าสู่ร่างกาย งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลเบื้องต้นของสารสกัดว่านกาบหอย (Tradescantia spathacea) ต่อการทำงานของเอนไซม์ CYP3A4 ในตับหนู วัสดุและวิธีการทดลอง: ทำการทดสอบเมตาบอลิสมของ testosterone (TST) ซึ่งมีความจำเพาะต่อเอนไซม์ CYP3A4 ในไมโครโซมจากตับหนู วิเคราะห์หาปริมาณเมตาบอไลท์ของ TST คือ 6β-hydroxytestosterone (6β-TST) ด้วยเทคนิค high performance liquid chromatography (HPLC) เปรียบเทียบผลการทดลองระหว่างหลอดที่เติมส่วนสกัดน้ำ เฮกเซน และเมทานอลของสมุนไพรว่านกาบหอยลงในปฏิกิริยา กับหลอดทดลองที่ไม่เติมส่วนสกัดดังกล่าว แล้วคำนวณเป็นร้อยละของการยับยั้งการทำงานของเอนไซม์  ผลการศึกษา: ในแต่ละส่วนสกัด พบว่า ว่านกาบหอยมีความสามารถในการยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ CYP3A4 แตกต่างกัน ได้แก่ ส่วนสกัดน้ำให้ผลยับยั้งการทำงานของ CYP3A4 คิดเป็น 54.10% ส่วนสกัดเฮกเซนยับยั้ง 52.82% และส่วนสกัดเมทานอล 31.46% สรุปผล: ส่วนสกัดของว่านกาบหอยทั้ง 3 ส่วน (น้ำ เฮกเซน และเมทานอล) มีความสามารถในการยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ CYP3A4 ในหลอดทดลอง ซึ่งควรจะมีการศึกษาถึงโครงสร้างทางเคมีที่มีผลในการยับยั้งเอนไซม์ CYP3A4 ของทั้ง 3 ส่วนสกัดต่อไป

Article Details

Section
Appendix