ฤทธิ์กระตุ้นการหายของบาดแผลในสัตว์ทดลองของดำรับครีมที่มีส่วนผสมของสารสกัดด้วยเอธิลอะซิเตทของ c. cf. comosa Roxb.

Main Article Content

พิชญา สมานมิตร
เศรษฐฌานี ดวงใจ
รัตนา เล็กสมบูรณ์
ปรีชา บุญจูง
วริษฎา ศิลาอ่อน
ชุตินันท์ ประสิทธิ์ภูริปรีชา

บทคัดย่อ

บทนำ: Curcuma cf. comosa Roxb หรือ “ว่านหมาว้อ” เป็นสมุนไพรที่ชาวบ้านในภาคอีสานและประเทศกัมพูชานำเหง้าสด มาใช้รักษาบาดแผล งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาฤทธิ์กระตุ้นการหายของบาดแผลในสัตว์ทดลองของตำรับครีมที่มีส่วนผสมของสารสกัดด้วยเอธิลอะซิเตทของ c. cf. comosa Roxb วิธีการดำเนินการวิจัย: พัฒนาตำรับครีมที่มีสารสกัดด้วยเอธิลอะซิเตทของ C. cf. comosa Roxb ความเข้มข้น 5%, 10%, 15% และ 20% w/w ทดสอบความคงตัวของตำรับครีมต่างๆ ด้วยวิธี heating-cooling cycle ประเมินความคงตัวจากลักษณะทางกายภาพ ความเป็นกรด-ด่าง ความหนืด และหาปริมาณสารสำคัญที่คงเหลือในตำรับด้วย High Pressure Liquid Chromatography คัดเลือกตำรับครีมที่มีความคงตัวดีมาทดสอบฤทธิ์กระตุ้นการหายของบาดแผลใน สัตว์ทดลอง โดยใช้หนูสายพันธุ์ C57BL/6 อายุ 8 สัปดาห์ เจาะใบหูทั้งสองข้างให้เป็นรูขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 2 มิลลิเมตรด้วย metal ear punch ทาครีมปริมาณ 10 mg ที่ใบหูบริเวณบาดแผล ทุกวัน วันละ 1 ครั้ง เป็นเวลา 30 วัน โดยทาหูข้างซ้ายด้วยตัวควบคุมคือ cream base ทาหูช้างขวาด้วยตำรับครีมที่มีสารสกัด (n=6/กลุ่ม) บันทึกภาพใบหู และวัดขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางของบาดแผล แสดงผล เป็นร้อยละของการหายของบาดแผล และตรวจชิ้นเนื้อของใบหู เพื่อดูพยาธิสภาพของเนื้อเยื่อในวันที่ 0, 2, 10, 20 ผลการศึกษาวิจัย: ตำรับครีมที่มีสารสกัดความเข้มข้น 5% และ 10% w/w มีความคงตัวดีกว่าตำรับครีมที่มีสารสกัดความเข้มข้น 15% และ 20% w/w ทั้งลักษณะทางกายภาพ และความหนืด ส่วนความเป็นกรด-ด่างและปริมาณสารสำคัญที่คงเหลือทุกตำรับไม่มีความ แตกต่างกัน จึงเลือกตำรับครีมที่มีสารสกัดความเข้มข้น 5% และ 10% w/w มาทดสอบฤทธิ์กระตุ้นการหายของบาดแผลในสัตว์ทดลอง พบว่าตำรับครีมที่มีสารสกัดความเข้มข้น 5% และ 10% w/w มีร้อยละของการหายของบาดแผลใกลัเคียงกัน คือ ร้อยละ 66.67 และ 62.12 ในวันที่ 30 ตามลำดับ ซึ่งดีกว่าตัวควบคุมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p<0.05) ผลการตรวจชิ้นเนื้อของใบหูพบว่า เนื้อเยื่อ บริเวณบาดแผลของหนูที่ทาด้วยตำรับครีมที่มีสารสกัดความเข้มข้น 5% และ 10% w/w มีการเพิ่มขึ้นของเม็ดเลือดขาวชนิด PMN, fibroblast, collagen fiber และหลอดเลือด สรุปผลการวิจัย: ตำรับครีมที่มีสารสกัดด้วยเอธิลอะซิเตทของ c. cf. comosa Roxb ที่ ความเข้มข้น 5% และ 10% w/w มีฤทธิ์กระตุ้นการหายของบาดแผลในสัตว์ทดลอง มีศักยภาพในการนำไปพัฒนาเป็นยาใหม่ในอนาคต

Article Details

ประเภทบทความ
เภสัชศาสตร์ (Pharmaceutical Sciences)

เอกสารอ้างอิง

Clark L, Clark R, Heber-katz E. 1998. A new murine model for mammalian wound repair and regeneration. Clinical immunology and immunopathology; 88(1), 35-45.

Deodhar AK, Rana RE. Surgical physiology of wound healing: a review. J Postgrad Med. 1997; 43(2): 52-6.

Hwang, JK, Shim JS, Pyun YR. Antibacterial activity of xanthorrhizol from Curcuma xanthorrhiza againt oral pathogens. Fitoterapia, 2000; 71: 321- 23.

Midwood KS, Williams LV, Schwarzbauer JE. Tissue repair and the dynamics of the extracellular matrix. Int J Biochem Cell Biol. 2004; 36(6): 1031-7.

Panchatcharam M, Miriyala S, Gayathri VS, Suguna L. 2006. Curcumin improves wound healing by modulating collagen and decreasing reactive oxygen species. Mol Cell Biochem; 290(1-2): 87-96.

Prasitpuriprecha C, Suttipan N, Werawattachai N, Intaranongpai. 2004. The usage of medicinal plants in Ubonratchathani, UBU J.; 6(2): 117-138.

Teetawatanasuk N, Nakamura ES, Wangmaneerat A, Komatsu K, Saiki I. Anti-invasive and anti-angiogenic activities of C. sp. Extracts. J. Trad. Med, 2003; 20: 1-8.