การตั้งตำรับนีโอโซมประจุบวกสำหรับการนำส่งยีน : ผลของอัตราส่วนโดยโมลาร์ของลิปิดประจุบวก และอัตราส่วนโดยน้ำหนักของนีโอโซมต่อดีเอ็นเอ

Main Article Content

ลลิตา เล็กสันติกุล
ณัฐธิสา นิยมธรรม
ธีรศักดิ์ โรจนราธา
ธนะเศรษฐ์ ง้าวหิรัญพัฒน์
บุญเอก ยิ่งยงณรงค์กุล
ประณีต โอปณะโสภิต

บทคัดย่อ

บทนำ: นีโอโซมเป็นระบบนำส่งชนิดหนึ่งมีลักษณะเป็นถุงเล็กเตรียมจากสารลดแรงตึงผิวชนิดไม่มีประจุ ซึ่งใช้ทางด้านเภสัชกรรมกันอย่างกว้างขวาง ลิพิดประจุบวกจะทำให้เกิดประจุบวกบนพื้นผิวของนีโอโซมจึงสามารถนำไปใช้เป็นระบบนำสิ่งยีนได้ อย่างไรก็ตามการใช้ลิพิดประจุบวกในความเข้มข้นที่สูงอาจเป็นสาเหตุของความเป็นพิษต่อเซลล์และทำให้ประสิทธิภาพการนำส่งยีนต่ำลงได้ ดังนั้น ในการศึกษานี้จึงมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลของอัตราส่วนโดยโมลาร์ของลิพิดประจุบวกอนุพันธ์สเปอร์มีน (Ay) ในการตั้งตำรับนีโอโซม ประจุบวกและอัตราส่วนโดยน้ำหนักของนีโอโซมประจุบวกต่อดีเอ็นเอต่อประสิทธิภาพในการนำส่งยีนและความเป็นพิษต่อเชลล์มะเร็งปาก มดลูก (HeLa cells)โดยใช้พลาสมิดดีเอ็นเอที่สามารถแปลรหัสได้โปรตีนเรืองแสงสีเขียว (pEGFP-C2) วิธีการดำเนินการวิจัย: เตรียมตำรับนีโอโซมประจุบวกจาก Tween 61 คลอเลสเตอรอลและลิพิดประจุบวก (Ay) โดยให้มีอัตราส่วนโมลาร์ดังนี้ 2.5:2.5:1, 2.5:2.5:1.5 และ 2.5:2.5:2 เตรียมโดยวิธีทินฟิล์มไฮเดรชันร่วมกับการใช้คลื่นเสียงความถี่สูง ประเมินคุณลักษณะของสารประกอบเชิงช้อนโดยวัดขนาดและประจุและหาอัตราส่วนโดยน้ำหนักของนีโอโซมประจุบวกต่อดีเอ็นเอที่สามารถเกิดสารประกอบเชิงช้อนสมบูรณ์ด้วยวิธี gel retardation assay ผลการศึกษาวิจัย: จากการศึกษาพบว่าประสิทธิภาพในการนำส่งยีนเข้าเชลล์ของนิโอโซมประจุบวกเรียงลำดับดังนี้ นีโอโซม 2.5:2.5:1 > นิ โอโซม2.5:2.5:1.5 > นีโอโซม2.5:2.5:2 โดยนิโอโซม 2.5:2.5:1 ที่อัตราส่วนโดยน้ำหนักของนิโอโซมประจุบวกต่อดีเอ็นเอเท่ากับ 10 นำส่งยีนเข้า เซลล์ได้ดีที่สุดและมีความปลอดภัยเมื่อทดสอบในหลอดทดลอง สรุปผลการวิจัย: อัตราส่วนโดยโมลาร์ของลิพิดประจุบวกในการตั้งตำรับนีโอโซมประจุบวกและอัตราส่วนโดยน้ำหนักของนีโอโซมประจุบวกต่อดีเอ็นเอมีผลต่อประสิทธิภาพในการนำส่งยีนและความเป็นพิษต่อเซลล์

Article Details

ประเภทบทความ
เภสัชศาสตร์ (Pharmaceutical Sciences)

เอกสารอ้างอิง

Lv H, Zhang S, Wang B, Cui S, Yan J. Toxicity of cationic lipids and cationic polymers in gene delivery. J Control Release, 2006, 114: 100-109.

Marianecci C, Di Marzio L, Rinaldi F, et al. Niosomes from 80s to present: the state of the art. Adv Colloid Interfac Sci, 2014, 205: 187-206.

Misra S. Human gene therapy: a brief overview of the genetic revolution. J Assoc Physicians India, 2013, 61: 127-133.

Pardakhty A, Moazeni E. Nano-niosomes in drug, vaccine and gene delivery; a rapid overview. Nanomedicine J. 2013, 1: 1-12.

Tros de Ilarduya C, Sun Y, Düzgüneş N. Gene delivery by lipoplexes and polyplexes. Eur J Pharm Sci, 2010, 40: 159-171.

Wasungu L, Hoekstra D. Cationic lipids, lipoplexes and intracellular delivery of genes. J Control Release, 2006, 116: 255-264.

Zhdanov RI, Podobed OV, Vlassov VV. Cationic lipid-DNA complexes-lipoplexes-for gene transfer and therapy. Bioelectrochemistry, 2002, 58: 53-64.