ผลของริสเพอริโดนต่อเภสัชจลนศาสตร์ของวาลโปรเอทในผู้ป่วยโรคอารมณ์แปรปรวนสองขั้ว

Main Article Content

จิราภรณ์ เพ็ญพิมพ์
สิริกร บัณฑิต
อาภากร ประวาฬ
ณัฐวัฒน์ ตีระวัฒนพงษ์
จีริสุดา คำสีเขียว
ทัดตา ศรีบุญเรือง

Abstract

บทนำ: ปัจจุบันมีการใช้ริสเพอริโดนร่วมกับวาลโปรเอทในการรักษาผู้ป่วยโรคอารมณ์แปรปรวนสองขั้วที่มีภาวะแมเนียเพิ่มขึ้นเนื่องจากให้ผลดีในการรักษา จากรายงานที่ขัดแย้งกันของการใช้ริสเพอริโดนต่อเภสัชจลนศาสตร์ของวาลโปรเอท งานวิจัยนี้จึงมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลของริสเพอริโดนต่อเภสัชจลนศาสตร์ของวาลโปรเอทโดยการเปรียบเทียบพารามิเตอร์ทางเภสัชจลนศาสตร์ของวาลโปรเอทโดยการเปรียบเทียบค่าเฉลี่ยระดับยาเมื่อถึงสภาวะคงที่และอัตราการกำจัดยา วิธีการดำเนินการวิจัย: ศึกษาเชิงเปรียบเทียบโดยเก็บข้อมูลกลุ่มตัวอย่างที่มีรายงานข้อมูลระดับวาลโปรเอท ณ สภาวะคงที่ จำนวน 129 ราย ย้อนหลังสองปีจากฐานข้อมูลคอมพิวเตอร์ โรงพยาบาลพระศรีมหาโพธิ์ จังหวัดอุบลราชธานี กลุ่มตัวอย่างถูกจำแนกออกเป็นสองกลุ่มคือ กลุ่มควบคุมคือกลุ่มที่ได้รับวาลโปรเอทเดี่ยว 91 ราย และ กลุ่มทดลองคือกลุ่มที่ได้รับวาลโปรเอทร่วมกับริสเพอริโดน 38 ราย  จากนั้นรวบรวมวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนา Chi-square และ t-test  ผลการศึกษาวิจัย: พบข้อมูลพื้นฐานได้แก่ อายุ น้ำหนัก  ขนาดยาวาลโปรเอทเฉลี่ย สัดส่วนการกระจายของเพศ ไม่มีความแตกต่างกันระหว่างสองกลุ่ม (P>0.05)  เมื่อเปรียบเทียบพารามิเตอร์ทางเภสัชจลนศาสตร์ยาวาลโปรเอทระหว่างกลุ่มควบคุมและกลุ่มทดลอง พบความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติของค่าเฉลี่ยระดับยาวาลโปรเอทระหว่างกลุ่มควมคุมและกลุ่มทดลองเป็น 66.03±30.01 และ 83.72±37.47 มิลลิกรัม/ลิตร (P=0.012) ตามลำดับ และพบความแตกต่างของค่าเฉลี่ยอัตราการกำจัดยาวาลโปรเอทระหว่างกลุ่มควมคุม 0.71± 0.74 ลิตรต่อชั่วโมง และ กลุ่มทดลอง 0.55±0.41 ลิตรต่อชั่วโมง (P=0.037) อย่างไรก็ดีไม่พบความแตกต่างค่าเฉลี่ยของอัตราการกำจัดยาวาลโปรเอทต่อน้ำหนักตัวระหว่างกลุ่มควมคุมและกลุ่มทดลอง 0.29±0.33 และ 0.27±0.16 ลิตรต่อชั่วโมงต่อกิโลกรัม (P>0.05) สรุปผลการวิจัย: หากพิจารณาจากอัตราการกำจัดยาวาลโปรเอทต่อน้ำหนัก สามารถสรุปได้ว่าการใช้ริสเพอริโดนไม่ส่งผลต่ออัตราการกำจัดยาของวาลโปรเอทเมื่อใช้ร่วมกัน

Article Details

Section
Abstracts