ผลการรักษาและมูลค่าการรักษาโรคคอหอยอักเสบและท้องเสียตามแนวทางการใช้ยาปฏิชีวนะอย่างสมเหตุผลในร้านยามหาวิทยาลัย
Main Article Content
Abstract
บทนำ: การใช้ยาปฏิชีวนะอย่างไม่เหมาะสมส่งผลให้เกิดปัญหาเชื้อดื้อยาจำนวนมากขึ้น อีกทั้งยังสิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายด้านยา การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินผลทางคลินิกและมูลค่าการรักษาผู้ป่วยโรคคอหอยอักเสบและท้องเสียตามแนวทางการจ่ายยาปฏิชีวนะอย่างสมเหตุผลในร้านยามหาวิทยาลัย วิธีการดำเนินการวิจัย: รูปแบบการศึกษาเป็นกึ่งทดลอง กลุ่มตัวอย่างคือ ผู้ป่วยโรคคอหอยอักเสบที่มีอาการเจ็บคอและผู้ป่วยโรคท้องเสียที่มารับบริการในช่วงเดือนตุลาคมถึงธันวาคม พ.ศ.2555 โดยผู้ป่วยโรคคอหอยอักเสบได้รับการประเมินความเหมาะสมในการได้รับยาปฏิชีวนะและจัดกลุ่มตาม McIsaac score สำหรับผู้ป่วยโรคท้องเสียแบ่งเป็นกลุ่มที่ได้และไม่ได้ยาปฏิชีวนะตามอาการ ทำการติดตามหลังการรักษาที่ 5 วันและ 3 วัน สำหรับโรคคอหอยอักเสบและท้องเสียตามลำดับ ผลการศึกษาวิจัย: ผู้ป่วยโรคคอหอยอักเสบ (n=127) ส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่ม 0-1 คะแนน ซึ่งเป็นกลุ่มที่ไม่ได้ยาปฏิชีวนะคิดเป็นร้อยละ 58.3 และผู้ป่วยโรคท้องเสีย (n=21) ส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มที่ไม่ได้ยาปฏิชีวนะคิดเป็นร้อยละ 85.7 ผลการรักษาพบว่า ผู้ป่วยโรคคอหอยอักเสบร้อยละ 71.7 หายเป็นปกติ โดยกลุ่ม 0-1 คะแนน, กลุ่ม 2-3 คะแนน ที่ได้และไม่ได้ยาปฏิชีวนะ และกลุ่ม > 4 คะแนน หายเป็นปกติคิดเป็นร้อยละ 75.7, 64.9, 69.2 และ 66.7 ตามลำดับ ส่วนผู้ป่วยโรคท้องเสียหายเป็นปกติร้อยละ 95.2 สำหรับมูลค่าการรักษาของผู้ป่วยพบว่า ผู้ป่วยโรคคอหอยอักเสบกลุ่ม 2-3 คะแนน ที่ได้ยาปฏิชีวนะมีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อรายสูงสุด (111.8 บาท/ราย) และกลุ่ม 2-3 คะแนน ที่ไม่ได้ยาปฏิชีวนะมีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อคนต่ำสุด (38.1 บาท/ราย) โดยกลุ่มที่ได้รับยาปฏิชีวนะที่มีคะแนน 2-3 คะแนน มีค่าใช้จ่ายต่อรายสูงกว่ากลุ่มที่มี > 4 คะแนน สำหรับผู้ป่วยโรคท้องเสียกลุ่มที่ได้ยาปฏิชีวนะมีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อรายสูงกว่ากลุ่มที่ไม่ได้ยาปฏิชีวนะ สรุปผลการวิจัย: ผลการศึกษาสอดคล้องกับผลของแนวทางการจ่ายยาปฏิชีวนะอย่างสมเหตุผลตามหลักการ Antibiotic Smart Use ในโรงพยาบาล คือ ผู้ป่วยโรคคอหอยอักเสบและท้องเสียหายเป็นปกติร้อยละ 80.5 และ 93.3 ตามลำดับ ดังนั้นการนำแนวทางการใช้ยาอย่างสมเหตุผลมาประยุกต์ใช้ในร้านยาจะช่วยให้ผู้ป่วยได้ยาปฏิชีวนะอย่างเหมาะสมและมีผลการรักษาที่มีประสิทธิภาพ
Article Details
In the case that some parts are used by others The author must Confirm that obtaining permission to use some of the original authors. And must attach evidence That the permission has been included