การศึกษาเปรียบเทียบคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยที่ได้รับยา GPOvirS30 และสูตร d4T+3TC+EFV

Main Article Content

นัทที พรประภา
ธนวัฒน์ ตั้งเจริญศิริรัตน์
ธีรชัย ลาวัณย์พร
อัฑฒนิกา จังชัยวีระยานนท์
อันธิกา อันธิกา
พนิตา ค้าผล

Abstract

บทนำ: ยาต้านไวรัสสูตร HAART ได้ถูกนำมาใช้ในผู้ติดเชื้อ HIV/AIDs ตั้งแต่ พ.ศ. 2543 เนื่องจากให้ประสิทธิภาพในการรักษาสูง ขณะเดียวกันก็ส่งผลข้างเคียง เช่นอาการเจ็บปวดผลกระทบต่อรูปลักษณ์ภายนอกและจิตใจ อันส่งผลต่อเนื่องต่อคุณภาพชีวิตของผู้ติดเชื้อ GPOvirS30 เป็นยาชนิดเม็ดรวม (d4T+3TC+NVP) ที่มีราคาถูกและรับประทานง่าย อย่างไรก็ตาม ได้มีรายงานอาการไม่พึงประสงค์ของ NVP ต่อตับและผิวหนังมากกว่า EFV การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเปรียบเทียบคุณภาพชีวิตผู้ป่วยที่ได้รับยาต้านไวรัส GPOvirS30 กับสูตร d4T+3TC+EFV600 ที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลนครปฐม ในช่วงเดือนธันวาคม พ.ศ. 2555 ถึง เดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556.วิธีการดำเนินการวิจัย: การวิจัยผ่านการพิจารณาจริยธรรมของคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร  วัดคุณภาพชีวิตโดยใช้แบบสอบถามขององค์การอนามัยโลกชุดย่อฉบับภาษาไทย (WHOQOL-BREF-THAI: Cronbach’s alpha 0.84) วัดคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยด้านร่างกาย (35 คะแนน)  จิตใจ (30 คะแนน)  สัมพันธภาพทางสังคม (15 คะแนน) และสิ่งแวดล้อม (40 คะแนน)วิเคราะห์ผลโดยใช้ Independent t-test.ผลการศึกษาวิจัย: พบความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญ (p<0.05) ของคะแนนคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยกลุ่มที่ได้รับยา GPO-VirS30 (n=50) และกลุ่มที่ได้รับยา d4T+3TC+EFV600 (n=75) ดังนี้ ค่าคะแนนโดยรวม (97.64 vs. 91.5) คะแนนองค์ประกอบด้านสุขภาพกาย (28.16vs. 25.73) คะแนนองค์ประกอบด้านจิตใจ (23.46 vs. 21.72)  และคะแนนองค์ประกอบด้านสิ่งแวดล้อม (28.82 vs. 27.27) ค่าpowerของการศึกษา 0.86 สรุปผลการวิจัย: ผู้ป่วยกลุ่มที่ได้รับยา GPOvirS30 มีระดับคุณภาพชีวิตโดยรวม  คุณภาพชีวิตด้านร่างกาย  คุณภาพชีวิตด้านจิตใจ และคุณภาพชีวิตด้านสิ่งแวดล้อม ดีกว่ากลุ่มผู้ป่วยที่ได้รับยา d4T+3TC+EFV

Article Details

Section
Abstracts