การประเมินและพัฒนาโปรแกรมคอมพิวเตอร์ช่วยสอน ในรายวิชาเภสัชวิทยาเรื่องยารักษาโรคลมชัก
Article Sidebar
Main Article Content
บทคัดย่อ
บทนำ : โรคลมชักเป็นโรคเรื้อรังที่จำเป็นต้องได้รับการรักษาด้วยยาเพื่อควบคุมอาการดำเนินไปของโรคเป็นหลักเภสัชกรจึงควรมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับยารักษาโรคลมชัก ปัจจุบันมีการนำคอมพิวเตอร์ช่วยสอนในเชิงเภสัชศาสตร์แต่มีค่อนข้างน้อย การศึกษานี้เป็น Quasi-experimental design มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาและประเมินผลการใช้สื่อการเรียนรู้ด้วยตนเองโดยใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ช่วยสอนในบทเรียนเรื่อง ยารักษาโรคลมชัก โดยทำการศึกษาในนิสิตเภสัชศาสตร์ชั้นปีที่ 5 ทั้งหมด 30 คน เครื่องมือและวิธีการเก็บรวบรวมข้อมูล : ทำการสุ่มอย่างง่ายแบ่งนิสิตออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มละ 15 คน ได้แก่ กลุ่มควบคุมซึ่งศึกษาเรียนรู้ด้วยตัวเองโดยใช้เอกสารประกอบการเรียนรู้ที่มีเนื้อหาเหมือนในโปรแกรมคอมพิวเตอร์ช่วยสอน และกลุ่มทดลองซึ่งศึกษาเรียนรู้ด้วยตนเองผ่านโปรแกรมคอมพิวเตอร์ช่วยสอนที่ผู้วิจัยได้พัฒนาขึ้นเอง ประเมินความรู้ความเข้าใจด้วยคะแนนก่อนเรียนและหลังเรียน และความคิดเห็นที่มีต่อสื่อการเรียนรู้ด้วยตนเองจากผู้เรียนทั้งสองกลุ่ม รวมทั้งผลประเมินคุณภาพสื่อโดยกลุ่มทดลอง ผลการศึกษา : พบว่าทั้งสองกลุ่มมีคะแนนหลังเรียนสูงกว่าคะแนนก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p=0.001) เมื่อเปรียบเทียบคะแนนหลังเรียนระหว่างสองกลุ่มพบว่าไม่แตกต่างกันทางสถิติ ในด้านความคิดเห็นต่อสื่อ กลุ่มทดลองมีคะแนนความคิดเห็นเกี่ยวกับความเข้าใจในเนื้อหาจากสื่อที่ใช้เรียนรู้ด้วยตนเอง, ความน่าสนใจของสื่อที่ใช้ในการเรียนรู้ด้วยตนเอง เนื้อหาในสื่อที่ใช้เรียนรู้ด้วยตนเองมีความเหมาะสม เวลาในการเรียนรู้จากสื่อที่ใช้เรียนรู้ด้วยตนเองมีความเหมาะสม และมีความพึงพอใจจากการใช้สื่อเรียนรู้ด้วยตนเองโดยโปรแกรมคอมพิวเตอร์ช่วยสอน มากกว่ากลุ่มที่ใช้เอกสารประกอบการเรียนรู้อย่างมีนัยสำคัญทางสถิต (p<0.05) นอกจากนั้นยังมีข้อเสนอแนะให้มีการปรับปรุงโปรแกรมคอมพิวเตอร์ช่วยสอนในเรื่อง ควรแทรกคำถามในเนื้อหาแต่ละส่วน ควรยกตัวอย่างกรณีศึกษา เพิ่มเติมรูปภาพและปรับปรุงเวลาให้กระชับขึ้น รวมทั้งควรเพิ่มความสอดคล้องของเสียงและกราฟิก และลำดับเนื้อหาให้ต่อเนื่อง สรุปผลการศึกษา : โปรแกรมคอมพิวเตอร์ช่วยสอนเรื่อง ยารักษาโรคลมชัก สามารถนำมาใช้เสริมเอกสารประกอบการเรียนรู้ด้วยตนเองได้ อีกทั้งยังช่วยเพิ่มความพึงพอใจในการเรียนรู้และทบทวนบทเรียนด้วยตนเอง
Article Details
กรณีที่ใช้บางส่วนจากผลงานของผู้อื่น ผู้นิพนธ์ต้อง ยืนยันว่าได้รับการอนุญาต (permission) ให้ใช้ผลงานบางส่วนจากผู้นิพนธ์ต้นฉบับ (Original author) เรียบร้อยแล้ว และต้องแนบเอกสารหลักฐาน ว่าได้รับการอนุญาต (permission) ประกอบมาด้วย
เอกสารอ้างอิง
Basturk R. The effectiveness of computer-assisted instruction in teaching introductory statistics. Educational Technology & Society 2005; 8: 170-178.
Campagnolo DI, Stier KT, Sanchez W, et al. Spinal cord injury computer assisted instruction for medical students. Am JPhys Med Rehabil 2003; 82:316–319.
Chinvarun Y. Thailand Comprehensive Epilepsy Program [Serial Online]. 2009 Jul 20 [cited 2009 Jul 25]; [3 screens]. Available from http://www.thailandepilepsy.org/?p=108.
Chisholm MA, Joanne D, Poirier S. Development and evaluation of a computer-assisted instructional program in an advanced pharmacotherapeutics Course. Am J Pharm Educ 1996; 60: 365-369.
Hepler CD, Strand LM. Opportunities and respon sibilities in pharmaceutical care. Am J Hosp Pharm 1990; 47: 533-543.
Jenkins S, Goel R, Morrell DS. Computer-assisted instruction versus traditional lecture for medical student teaching of dermatology morphology: a randomized control trial. J Am Acad Dermatol 2008; 59(2): 255-259.
Kongsamai P. Evaluation of a computer assisted instructional (CAI) program for pharmacology laboratory. Master’s Thesis. Graduate School. Mahidol University. 2000.
Kunawaradisai N, Chanakit T, Saentaweesook N, et al. Evaluation of Computer Assisted Instruction in Basic Knowledge and Pharmacotherapy for Smoking Cessation. IJPS 2010; 6(2): 18-29
Mac TL, Tran DS, Quet F, Odermatt P, Preux PM, Tan CT. Epidemiology, aetiology, and clinical management of epilepsy in Asia: a systematic review. Lancet Neurol 2007; 6: 533–543.
Plasschaert AJ, Cailleteau JG, Verdonschot EH. The effect of a multimedia interactive tutorial on learning endodontic problem-solving. Eur J Dent Educ 1997; 1(2):66–69.
Rogers SJ, Cavazos JE. Epilepsy. In Dipiro JT, Talbert RL, Yee GC, et al, editors. Pharmacotherapy A Pathophysiologic Approach. 7th ed. Unitedstate: McGraw-Hill; 2008 : 927-951.
Rosenberg H, Grad HA, Matear DW. The Effectiveness of Computer-Aided, Self-Instructional Programs in Dental Education: A Systematic Review of the Literature. Journal of Dental Education. 2003; 67(5) : 524-532.
Siracuse MV, Sowell JG. Doctor of Pharmacy Students’ Use of Personal Digital Assistants. American Journal of Pharmaceutical Education 2008; 72 (1) : 1-7.
Thomerson JD. Computer assisted instruction vs. traditional instruction in an advance level computer course. Issues In Information Systems 2006; 7: p.114-118.
Wang L. Computer – Simulated Pharmacology Experiments For Undergraduate Pharmacy Students: Experience From An Australian University. Indian J Pharmacol 2001; 33: 280-282.
World Health Organization. Epilepsy [Online]. [cited 2009 Jul 25]; [3 screens]. Available from http://search.who.int/search?ie=utf8&site=default_collection&client=WHO&proxystylesheet=WHO&output=xml_no_dtd&oe=utf8&q=epilepsy&sitesearch=.
