ผลของโปรแกรมการนิเทศเพื่อเสริมสร้างสมรรถนะการใช้ดิจิทัลและเทคโนโลยีสารสนเทศในการรับ-ส่งเวรของผู้ตรวจการพยาบาล
คำสำคัญ:
โปรแกรมการนิเทศเรื่องการรับ-ส่งเวร, สมรรถนะการใช้ดิจิทัลและเทคโนโลยีสารสนเทศ, ผู้ตรวจการพยาบาลบทคัดย่อ
การวิจัยกึ่งทดลองแบบกลุ่มเดียววัดก่อนและหลังการทดลอง มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลของโปรแกรมการนิเทศเพื่อเสริมสร้างสมรรถนะการใช้ดิจิทัลและเทคโนโลยีสารสนเทศ ในการรับ-ส่งเวรของผู้ตรวจการพยาบาล ในกลุ่มตัวอย่างผู้ตรวจการพยาบาลนอกเวลาราชการจำนวน 30 คน โดยสุ่มอย่างง่ายเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยมี 2 ส่วนได้แก่ 1) โปรแกรมการนิเทศเพื่อเสริมสร้างสมรรถนะการใช้ดิจิทัลและเทคโนโลยีสารสนเทศ ในการรับ-ส่งเวรของผู้ตรวจการพยาบาลนอกเวลาราชการ 2) แบบประเมินสมรรถนะการใช้ดิจิทัลและเทคโนโลยีสารสนเทศ ได้แก่ แบบประเมิน ความรู้เรื่องการใช้ดิจิทัลและเทคโนโลยีสารสนเทศแบบประเมินทัศนคติเรื่องการใช้ดิจิทัลและเทคโนโลยีสารสนเทศ และแบบประเมินทักษะเรื่องการใช้ดิจิทัลและเทคโนโลยีสารสนเทศ ซึ่งมีค่าความเชื่อมั่นของแบบประเมินทั้ง 3 ฉบับคือ 0.71, 0.89 และ 0.95 ตามลำดับ วิเคราะห์ข้อมูลโดย ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และ Paired t-test ผลการวิจัยพบว่า หลังการทดลองผู้ตรวจการพยาบาลนอกเวลาราชการมีค่าเฉลี่ยสมรรถนะการใช้ดิจิทัลและเทคโนโลยีสารสนเทศในการรับส่งเวร 1) ด้านความรู้เรื่องการใช้ดิจิทัลและเทคโนโลยีสารสนเทศ 2) ด้านทัศนคติเรื่องการใช้ดิจิทัลและเทคโนโลยีสารสนเทศ และ 3) ด้านทักษะเรื่องการใช้ดิจิทัลและเทคโนโลยีสารสนเทศ สูงกว่าก่อนการทดลองอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 จากผลการวิจัยจึงมีข้อเสนอแนะให้พิจารณานำผลการวิจัยไปใช้ไปใช้ในการฝึกอบรมการพัฒนาสมรรถนะการใช้ดิจิทัลและเทคโนโลยีสารสนเทศในการรับ-ส่งเวรผู้ตรวจการพยาบาลนอกเวลาราชการ
เอกสารอ้างอิง
ชุติมา ดำศิริ. (2565). ประสบการณ์การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารของหัวหน้าหอผู้ป่วยโรงพยาบาลตติยภูมิแห่งหนึ่ง ภาคใต้ (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต). สงขลา: มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์.
นุชดา บุญซื่อ. (2557). การพัฒนารูปแบบการนิเทศของผู้ตรวจการพยาบาลนอกเวลาราชการโรงพยาบาลคอนสาร จังหวัดชัยภูมิ (การศึกษาอิสระปริญญามหาบัณฑิต). ขอนแก่น: มหาวิทยาลัยขอนแก่น.
นุศริน โกสีย์วงศานนท์. (2560). ผลของโปรแกรมการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมต่อความรู้ และทักษะในการปฏิบัติงานของผู้ตรวจการพยาบาลนอกเวลาราชการ ที่โรงพยาบาลระดับตติยภูมิแห่งหนึ่ง (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต). นครปฐม: มหาวิทยาลัยคริสเตียน
บุริศร์ จันทร์เจริญ. (2556). ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์ต่อการใช้ระบบสารสนเทศของผู้บริหารโรงพยาบาลชุมชนในเขตตรวจราชการสาธารณสุขที่ 9 (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต). นนทบุรี: มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช.
ประทุมทิพย์ ดอกแก้ว, และลัดดาวัลย์ แดงเถิน. (2561). ผลของโปรแกรมการพัฒนากระบวนการนิเทศทางคลินิกด้วยวิธีการสอนงานสำหรับหัวหน้าหอผู้ป่วย โรงพยาบาลแพร่. วารสารการพยาบาลและสุขภาพ, 12(3), 60-70.
พรทิพย์ รัตนบุรี, เปรมฤทัย น้อยหมื่นไวย, และเรณุการ์ ทองคำรอด. (2566). ผลของโปรแกรมการโค้ชแบบโกรว์ของผู้บริหารทางการพยาบาลระดับต้นต่อสมรรถนะการปฏิบัติราชการของพยาบาลวิชาชีพจบใหม่ โรงพยาบาลทุ่งสง. วารสารการพยาบาลและการศึกษา, 16(3), 76-92.
รุ่งอรุณ บุตรศรี, สมพันธ์ หิญชีระนันทน์, และปราณี มีหาญพงษ์. (2563). ผลของการนิเทศตามโมเดลการโค้ชแบบโกรว์ของผู้บริหารการพยาบาลระดับต้นต่อความสามารถในการปฏิบัติงานของพยาบาลวิชาชีพ. วารสารมหาวิทยาลัยคริสเตียน, 26(2), 84-96.
วทัญญู ประทุมชุมภู, ปานตา อภิรักษ์นภานนท์, สุวรรณี ละออปักษิณ, และรตา ศรีสอาด (2566). ความสัมพันธ์ระหว่างทักษะอนาคตของหัวหน้าหอผู้ป่วยกับความยึดมั่นผูกพันธ์ต่อองค์กรตามการรับรู้ของพยาบาลวิชาชีพโรงพยาบาลเอกชนในกรุงเทพมหานคร. วารสารสุขภาพกับการจัดการสุขภาพ, 10(1), 206-216.
สำนักการพยาบาล สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงสาธารณสุข. (2556). การพยาบาลผู้ป่วยที่บ้าน. กรุงเทพ: โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย.
อมรทิพย์ อังภูรภัครวัฒน์, พัชราภรณ์ อารีย์, และเพชรน้อย สิงห์ช่างชัย. (2565). สมรรถนะสารสนเทศและดิจิทัลทางการพยาบาล ของผู้บริหารทางการพยาบาลระดับต้นในโรงพยาบาลตติยภูมิ. วารสารคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา, 30(1), 113-125.
De Leeuw, J. A., Woltjer, H., & Kool, R. B. (2020). Identification of factors influencing the adoption of health information technology by nurses who are digitally lagging: in-depth interview study. Journal of medical Internet research, 22(8), e15630. doi: 10.2196/15630
Strategy and Planning Division. (2018). Twenty-Year National Strategic Plan for Public Health (2017-2036). Retrieved from https://spd.moph.go.th/wp-content/uploads/2022/09/Ebook-MOPH-20-yrs-plan-2017-Final-Eng-120961.pdf
Whitmore, J. (2010). Coaching for Performance - Growing Human Potential and Purpose (4th ed.). Retrieved from https://journals.sagepub.com/doi/abs/10.1177/0974173920100216
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารสุขภาพกับการจัดการสุขภาพ

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
