ผลของการวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม ต่อพฤติกรรมสุขภาพและความเสี่ยง ต่อภาวะเมตาบอลิกซินโดรมของบุคลากรฝ่ายการพยาบาลที่มีความเสี่ยงต่อภาวะ เมตาบอลิกซินโดรม โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร
คำสำคัญ:
ภาวะเมตาบอลิกซินโดรม, การวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม, พฤติกรรมสุขภาพ 3 selfบทคัดย่อ
การวิจัยนี้เป็นการวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม (Participatory Action Research) แบบกลุ่มเดียววัดก่อน-หลังและติดตามผล มีวัตถุประสงค์เพื่อเปรียบเทียบคะแนนเฉลี่ยพฤติกรรมสุขภาพ 3-Self และความเสี่ยงต่อภาวะเมตาบอลิกซินโดรม ระยะก่อน-หลังเข้าร่วมการวิจัยเชิงปฏิบัติการฯ และระยะติดตามผลของบุคลากรฝ่ายการพยาบาลโรงพยาบาลเอกชนฯ กลุ่มตัวอย่างคือ บุคลากรฝ่ายการพยาบาลอายุ 35-59 ปี ที่มีภาวะเสี่ยงต่อ ทางเมตาบอลิกอย่างน้อย 3 ใน 5 องค์ประกอบ ตามเกณฑ์ IDF และ AHA/NHLBI 2009 จำนวน 50 คน คัดเลือกแบบเฉพาะเจาะจง การดำเนินการวิจัยใช้ระยะเวลา 24 สัปดาห์ โดยทำกิจกรรมสร้างเสริมสุขภาพแบบมีส่วนร่วมเป็นเวลา 12 สัปดาห์ ประกอบด้วยการให้ข้อมูลสุขภาพและความเสี่ยงต่อเมตาบอลิกซินโดรม การให้ความรู้ด้านโภชนาการและการออกกำลังกาย การสัมภาษณ์เชิงลึกรายบุคคล และการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ผ่านกลุ่มสนทนาและไลน์กลุ่ม จากนั้นเก็บข้อมูลหลังทดลองสัปดาห์ที่ 12 และติดตามผลสัปดาห์ที่ 24 เครื่องมือวิจัยประกอบด้วย คู่มือการให้ความรู้และพฤติกรรมป้องกันภาวะเมตาบอลิกซินโดรมแบบสอบถามข้อมูลส่วนบุคคล และแบบประเมินพฤติกรรมสุขภาพ 3 Self และเครื่องมือเก็บข้อมูลภาวะสุขภาพ เพื่อประเมินความเสี่ยงภาวะเมตาบอลิกซินโดรม ผ่านการตรวจสอบความตรงตามเนื้อหาโดยผู้ทรงคุณวุฒิ 3 ท่าน (IOC .67-1.00) โดยค่าความเชื่อมั่นของแบบประเมินพฤติกรรมสุขภาพ 3 Self เท่ากับ .92, .79 และ .76 ตามลำดับ วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติเชิงพรรณนา และ repeated measures ANOVA ผลการวิจัยพบว่า 1) กลุ่มตัวอย่างมีคะแนนเฉลี่ยพฤติกรรมสุขภาพ 3 Self ระยะหลังเข้าร่วมการวิจัยเชิงปฏิบัติการฯ และติดตามผล สูงกว่าก่อนเข้าร่วมฯ อย่างมีนัยสำคัญ (p < .05) 2) กลุ่มตัวอย่างมีค่าเฉลี่ยความเสี่ยง ต่อเมตาบอลิก (MetS) ได้แก่ เส้นรอบเอว และดัชนีมวลกาย ระยะหลังเข้าร่วมการวิจัยเชิงปฏิบัติการฯ และติดตามผล ลดลงกว่าก่อนเข้าร่วมฯ อย่างมีนัยสำคัญ (p < .05) และระดับไขมันดี HDL ระยะหลังเข้าร่วมการวิจัยเชิงปฏิบัติการฯ และติดตามผลเพิ่มขึ้นกว่าก่อนเข้าร่วมฯ อย่างมีนัยสำคัญ (p < .05) ขณะที่ความดันโลหิตตัวล่าง (DBP)ระยะหลังเข้าร่วมการวิจัยเชิงปฏิบัติการฯ และติดตามผลเพิ่มขึ้นกว่าก่อนเข้าร่วมฯ อย่างมีนัยสำคัญ (p < .05 ส่วนความดันโลหิตตัวบน (SBP), ระดับนํ้าตาลในเลือด (FBS) และไขมันไตรกลีเซอไรด์ (Triglyceride) ลดลงแต่ไม่แตกต่างอย่างมีนัยสำคัญ
เอกสารอ้างอิง
ไพบูรณ์ จัดกุล. (2564). ความชุกและปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการเกิดภาวะเมตาบอลิกซินโดรมในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ ศูนย์อนามัยที่ 7 ขอนแก่น. ศรีนครินทร์เวชสาร, 36(3), 273-280.
มงคล การุณงามพรรณ, ผกาวลี พุ่มสุทัศน์, สุดารัตน์ สุวารี, นันทนา นํ้าฝน, และชัชฎาพร พิทักษ์เสถียรกุล. (2560). การวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วมเพื่อพัฒนารูปแบบการสร้างเสริมสุขภาพบุคคลวัยผู้ใหญ่ในสถานประกอบการชุมชนเมือง: กรณีศึกษากลุ่มวังขนาย. วารสารพยาบาลสงขลานครินทร์, 37(4), 47-68.
มงคล การุณงามพรรณ, สุดารัตน์ สุวารี, และนันทนา นํ้าฝน. (2555). พฤติกรรมสุขภาพและภาวะสุขภาพของคนทำงานใน สถานประกอบการเขตเมืองใหญ่: กรณีศึกษาพื้นที่เขตสาทร กรุงเทพมหานคร. วารสารพยาบาลสงขลานครินทร์, 32( 3), 51-64.
รุสนี วาอายีตา, กรรณิกา เรืองเดช ชาวสวนศรีเจริญ, บุญสิทธิ์ ไชยชนะ, และไพบูลย์ ชาวสวนศรีเจริญ. (2558). ประสิทธิผลของโปรแกรมปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพต่อการรับรู้ความสามารถของตนเอง การกำกับตนเอง พฤติกรรมการดูแลตนเองและการลดนํ้าหนักของบุคลากรที่มีภาวะนํ้าหนักเกิน โรงพยาบาลรามัน จังหวัดยะลา. วารสารพยาบาลกระทรวงสาธารณสุข, 24(2), 90-104.
วิชัย เอกพลากร, หทัยชนก พรรคเจริญ, และวราภรณ์ เสถียรนพเก้า. (2564). การสำรวจสุขภาพประชาชนไทยโดยการตรวจร่างกาย ครั้งที่ 6 พ.ศ. 2562-2563. สืบค้นจาก https://kb.hsri.or.th/dspace/handle/11228/5425
อังศินันท์ อินทรกำแหง, ทัศนา ทองภักดี, และวรสรณ์ เนตรทิพย์. (2553). ผลการจัดการโครงการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพของหน่วยงานภาครัฐและเอกชนในเขตกรุงเทพมหานคร. วารสารพฤติกรรมศาสตร์, 16(2), 96-112.
Moghadam-Ahmadi, A., Soltani, N., Ayoobi, F., Jamali, Z., Sadeghi, T., Jalali, N., ... & Khalili, P. (2023). Association between metabolic syndrome and stroke: a population based cohort study. BMC endocrine disorders, 23(1), 131. doi: 10.1186/s12902-023-01383-6
Alberti, K. G., Eckel, R. H., Grundy, S. M., Zimmet, P. Z., Cleeman, J. I., Donato, K. A., ... & Smith Jr, S. C. (2009). Harmonizing the metabolic syndrome: a joint interim statement of the international diabetes federation task force on epidemiology and prevention; national heart, lung, and blood institute; American heart association; world heart federation; international atherosclerosis society; and international association for the study of obesity. Circulation, 120(16), 1640-1645. doi: 10.1161/CIRCULATIONAHA.109.192644
Bandura, A., & Cervone, D. (1983). Self-evaluative and self-efficacy mechanisms governing the motivational effects of goal systems. Journal of personality and social psychology, 45(5), 1017-1028. doi: 10.1037/0022-3514.45.5.1017
Cai, L., Liu, Y., & He, L. (2022). Investigating genetic causal relationships between blood pressure and anxiety, depressive symptoms, neuroticism and subjective well-being. General Psychiatry, 35(5), e100877. doi: 10.1136/gpsych-2022-100877. PMID: 36447755; PMCID: PMC9639125.
Eo, Y. S. (2021). Effects of the Participatory Action Research on Reducing the Risk of Metabolic Syndrome in Adult Women. International Journal of Environmental Research and Public Health, 18(21), 11103. doi: 10.3390/ijerph182111103
Gibson, C. H. (1991). A concept analysis of empowerment. Journal of advanced nursing, 16(3), 354-361. doi: 10.1111/j.1365-2648.1991.tb01660.x
Ibrahim, M. M., AbdouRizk, S. M., & Reshia, F. (2020). Effectiveness of nurse-led lifestyle intervention on outcomes of metabolic syndrome patients. Egyptian Journal of Health Care, 11(4), 322-340. doi: 10.21608/ejhc.2020.129824
Johns Hopkins Medicine. (2025). The metabolic syndrome. Retrieved From https://www.hopkinsmedicine.org/health/conditions-and-diseases/metabolic-syndrome
Kyrou, I., & Tsigos, C. (2009). Stress hormones: physiological stress and regulation of metabolism. Current opinion in pharmacology, 9(6), 787-793. doi: 10.1016/j.coph.2009.08.007
Liang, Y., Yan, Z., Hao, Y., Wang, Q., Zhang, Z., She, R., ... & Qiu, C. (2022). Metabolic syndrome in patients with first-ever ischemic stroke: prevalence and association with coronary heart disease. Scientific Reports, 12(1), 13042. doi: 10.1038/s41598-022-17369-8
Lowe, M. R. (2003). Self-regulation of energy intake in the prevention and treatment of obesity: Is it feasible?. Obesity research, 11(S10), 44S-59S. doi: 10.1038/oby.2003.223
National High Blood Pressure Education Program. (2004). Complete report: The seventh report of the Joint National Committee on Prevention, Detection, Evaluation, and Treatment of High Blood Pressure. Retrieved from https://www.nhlbi.nih.gov/files/docs/guidelines/jnc7full.pdf?utm_source=chatgpt.com
National Library of Medicine. (2025). HDL: The “Good” cholesterol. Retrieved from https://medlineplus.gov/hdlthegoodcholesterol.html?utm_source=chatgpt.com
Orem, D.E. (1991). Nursing Concepts of Practice (4thed). St. Louis: Mosby.
Pi, A., Villivalam, S. D., & Kang, S. (2023). The molecular mechanisms of fuel utilization during exercise. Biology, 12(11), 1450. doi: 10.3390/biology12111450.
Spate-Douglas, T., & Keyser, R. E. (1999). Exercise intensity: its effect on the high-density lipoprotein profile. Archives of physical medicine and rehabilitation, 80(6), 691-695. doi: 10.1016/S0003-9993(99)90174-0
World Health Organization. Regional Office for South-East Asia. (2014). Self care for health. WHO Regional office for South-East Asia. Retrieved from https://iris.who.int/server/api/core/bitstreams/2a315d08-a845-4feea6ca-83f9b418701b/content
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารสุขภาพกับการจัดการสุขภาพ

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
