การจัดการสุขภาพผู้สูงอายุในชุมชนชนบทผ่านดิจิทัลเทคโนโลยี: ความท้าทาย การสนับสนุน และแนวทางเชิงนโยบายที่สอดคล้องกับบริบท

ผู้แต่ง

  • จินตนา อาจสันเที๊ยะ คณะพยาบาลศาสตร์ วิทยาลัยเซนต์หลุยส์
  • สุดารัตน์ สุวารี คณะพยาบาลศาสตร์ วิทยาลัยเซนต์หลุยส์
  • ศราวุธ มั่งสูงเนิน สำนักวิชาศึกษาทั่วไป วิทยาลัยเซนต์หลุยส์
  • รตา ศรีสอาด คณะพยาบาลศาสตร์ วิทยาลัยเซนต์หลุยส์
  • กาญจนา ปัญญาเพ็ชร์ คณะพยาบาลศาสตร์ วิทยาลัยเซนต์หลุยส์
  • เบญจพร อุดม โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช สระแก้ว
  • พิชญากร กีรติเตชาวุฒิ โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช สระแก้ว

คำสำคัญ:

การจัดการสุขภาพ, สุขภาพผู้สูงอายุ, ดิจิทัลเทคโนโลยี, ชุมชนชนบท

บทคัดย่อ

การเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลได้เปิดโอกาสใหม่ในการจัดการสุขภาพของผู้สูงอายุ โดยเฉพาะในพื้นที่ชนบทที่ยังมีข้อจำกัดด้านการเข้าถึงบริการสุขภาพ งานวิจัยนี้เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1. ศึกษาพฤติกรรมการใช้ดิจิทัลเทคโนโลยีของผู้สูงอายุในชุมชนชนบทที่เกี่ยวข้องกับการจัดการสุขภาพ 2. เพื่อวิเคราะห์ความท้าทายและอุปสรรคในการใช้ดิจิทัลเทคโนโลยีของผู้สูงอายุในบริบทชนบท 3. เพื่อศึกษาการสนับสนุนที่ส่งเสริมการใช้ดิจิทัลเทคโนโลยีในการจัดการสุขภาพของผู้สูงอายุ 4. เพื่อเสนอแนวทางเชิงนโยบายที่เหมาะสมกับบริบทชุมชนในการส่งเสริมการใช้ดิจิทัลเทคโนโลยีเพื่อการจัดการสุขภาพของผู้สูงอายุ กลุ่มตัวอย่างผู้ให้ข้อมูลหลักจำนวน 30 คน ประกอบด้วย ผู้สูงอายุ อายุ 60 ปีขึ้นไป จำนวน 14 คน ผู้นำชุมชน จำนวน 8 คน และอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) จำนวน 8 คน คัดเลือกด้วยวิธีเฉพาะเจาะจง เครื่องมือวิจัย ได้แก่ แบบสัมภาษณ์เชิงลึกประเด็นการสนทนากลุ่ม ได้ผ่านการตรวจสอบความตรงเชิงเนื้อหา (Content Validity) โดยผู้ทรงคุณวุฒิ 3 ท่าน ได้ค่า CVI เท่ากับ 0.8 ใช้การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพ (Qualitative Analysis) ด้วยเทคนิคการวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis) และการวิเคราะห์เชิงประเด็น (Thematic Analysis) พร้อมตรวจสอบความน่าเชื่อถือของข้อมูลด้วยวิธีการ Triangulation และ Member Checking อย่างเป็นระบบ ผลการศึกษาพบว่า กลุ่มตัวอย่างมีพฤติกรรมการใช้ดิจิทัลเทคโนโลยี ที่เกี่ยวข้องกับการจัดการสุขภาพ ได้แก่ การสื่อสารสุขภาพ การใช้แอปพลิเคชันด้านสุขภาพ และการหาข้อมูลสุขภาพ โดยความท้าทายหลักคือ “ช่องว่างดิจิทัล (Digital Divide)” ที่เกิดจากความเหลื่อมลํ้าทั้งด้านทักษะ ทรัพยากร และโครงสร้างพื้นฐาน ทำให้ผู้สูงอายุในชนบทยังไม่สามารถใช้เทคโนโลยีเพื่อสุขภาพได้เต็มศักยภาพ ส่วนอุปสรรคในการใช้ดิจิทัลเทคโนโลยีของผู้สูงอายุ ได้แก่ ด้านบุคคล ด้านเทคโนโลยีและการเข้าถึง ด้านสังคมและครอบครัว ด้านระบบบริการและนโยบาย ในขณะที่การสนับสนุนที่ส่งเสริมการใช้ดิจิทัลเทคโนโลยีในการดูแลสุขภาพของผู้สูงอายุ ได้แก่ การกำหนดนโยบายและจัดทำแผนปฏิบัติการส่วนท้องถิ่นเพื่อจัดสรรงบประมาณอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งสนับสนุนด้านสวัสดิการและผู้ดูแล โดยให้ อสม. ทำหน้าที่ในฐานะ “พี่เลี้ยงดิจิทัล” ในขณะที่แนวทางเชิงนโยบายที่เหมาะสมกับบริบทชุมชนในการส่งเสริมการใช้ดิจิทัลเทคโนโลยีเพื่อการจัดการสุขภาพของผู้สูงอายุประกอบด้วย 1) พัฒนาหลักสูตรแบบมีส่วนร่วมในบริบทท้องถิ่น 2) สนับสนุนทางการเงินและทรัพยากร 3) พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล และ 4) ผลักดันนโยบายแบบองค์รวม เพื่อให้ผู้สูงอายุในชุมชน มีทักษะและความมั่นใจในการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อดูแลสุขภาพตนเอง สามารถเข้าถึงอุปกรณ์และระบบอินเทอร์เน็ตได้อย่างเท่าเทียม มีโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลครอบคลุมพื้นที่ห่างไกล ส่งเสริมการให้บริการสุขภาพทางไกล (Telehealth) อย่างทั่วถึง เกิดความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐ ท้องถิ่น และชุมชนในการพัฒนาระบบสุขภาพดิจิทัล และมีนโยบายระดับชาติที่จะเชื่อมโยงสุขภาพกับเทคโนโลยีดิจิทัลอย่างเป็นระบบและยั่งยืน

เอกสารอ้างอิง

กรมกิจการผู้สูงอายุ. (2565). แผนปฏิบัติราชการกรมกิจการผู้สูงอายุระยะ 5 ปี (พ.ศ. 2566 - 2570). สืบค้นจาก https://www.dop.go.th/download/laws/th1741771843-868_0.pdf

กรมกิจการผู้สูงอายุ. (2566). สถานการณ์ผู้สูงอายุไทย พ.ศ. 2565. สืบค้นจาก https://www.dop.go.th/download/knowledge/th1696238995-2521_0.pdf

กลุ่มงานบริหารยุทธศาสตร์ สำนักอนามัยผู้สูงอายุ. (2566). การบูรณาการความร่วมมือ 7 กระทรวงการพัฒนาคนตลอดช่วงชีวิต(กลุ่มผู้สูงอายุ) สืบค้นจาก https://eh.anamai.moph.go.th/th/elderly-manual/download/?-did=209360&id=103506&reload=

พนม คลี่ฉายา. (2564). การใช้เทคโนโลยีดิจิทัลของผู้สูงอายุและข้อเสนอเพื่อการเสริมสร้างภาวะพฤฒิพลังและผลิตภาพของผู้สูงอายุไทย. วารสารนิเทศศาสตร์, 39(2), 56-78.

Anderson, J. E. (2014). Public policymaking: An introduction (8th ed.). Retrieved from https://www.cengage.com/c/public-policymaking-8e-anderson/9781285735283/

Australia’s National Digital Health Straegy. (2020). Safe, seamless and seure: evolving health and care to meet the needs of modern Ausralia. Retrieved from https://www.digitalhealth.gov.au/sites/default/files/202011/Australia%27s%20National%20Digital%20Health%20Strategy%20-%20Safe%2C%20seamless%20and%20secure.pdf

Buawangpong, N., Pinyopornpanish, K., Pliannuom, S., Nantsupawat, N., Wiwatkunupakarn, N., Angkurawaranon, C., & Jiraporncharoen, W. (2024). Designing telemedicine for older adults with multimorbidity: content analysis study. JMIR aging, 7(1), e52031. doi: 10.2196/52031

Butzner, M., & Cuffee, Y. (2021). Telehealth interventions and outcomes across rural communities in the United States: narrative review. Journal of medical Internet research, 23(8), e29575. doi: 10.2196/29575

Creswell, J.W. & Poth, C.N. (2018). Qualitative Inquiry and Research Design Choosing among Five Approaches (4thed) Thousand Oaks: SAGE Publications, Inc.

Hunsaker, A., & Hargittai, E. (2018). A review of Internet use among older adults. New media & society, 20(10), 3937-3954.

Kebede, A. S., Ozolins, L. L., Holst, H., & Galvin, K. (2022). Digital engagement of older adults: scoping review. Journal of Medical Internet Research, 24(12), e40192. doi: 10.2196/40192

Martin, B. (1984). Sociological research methods (2nd ed.). Retrieved from https://link.springer.com/book/10.1007/978-1-349-17619-9

Miles, M. B., Huberman, A. M., & Saldaña, J. (2014). Qualitative data analysis: A methods sourcebook (3rd ed.). Retrieved from https://www.metodos.work/wp-content/uploads/2024/01/Qualitative-Data-Analysis.pdf.

Ministry of Public Health. (2023). ยุทธศาสตร์ สุขภาพดิจิทัลกระทรวงสาธารณสุข (2564 - 2568). Nonthaburi: MOPH. สืบค้นจาก https://cnto.moph.go.th/upload_files/ดาวน์โหลด/ยุทธศาสตร์สุขภาพดิจิทัล%20กระทรวงสาธารณสุข%20.pdf

Polit, D. F., & Beck, C. T. (2006). The content validity index: are you sure you know what’s being reported? Critique and recommendations. Research in nursing & health, 29(5), 489-497. doi: 10.1002/nur.20147

Robru, K., Setthasuravich, P., Pukdeewut, A., & Wetchakama, S. (2024). Internet use for health-related purposes among older people in Thailand: An analysis of nationwide cross-sectional data. In Informatics, 11(3), 55. doi: 10.3390/informatics11030055

Tipayalai, K., Chittavimongkhon, N., & Sattayanurak, P. (2025). Not Over the Hill: Exploring the Digital Divide among Vulnerable Older Adults in Thailand. Retrieved from https://www.pier.or.th/files/dp/pier_dp_234.pdf

Van Dijk, J. (2020). The digital divide. Cambridge: Polity Press. World Health Organization. (2015). World report on ageing and health. Retrieved from https://www.who.int/publications/i/item/9789241565042

World Health Organization. (2020). Decade of healthy ageing: baseline report. World Health Organization. สืบค้นจาก https://www.who.int/publications/i/item/9789240017900

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2025-12-25

รูปแบบการอ้างอิง

อาจสันเที๊ยะ จ., สุวารี ส., มั่งสูงเนิน ศ., ศรีสอาด ร., ปัญญาเพ็ชร์ ก., อุดม เ., & กีรติเตชาวุฒิ พ. (2025). การจัดการสุขภาพผู้สูงอายุในชุมชนชนบทผ่านดิจิทัลเทคโนโลยี: ความท้าทาย การสนับสนุน และแนวทางเชิงนโยบายที่สอดคล้องกับบริบท. วารสารสุขภาพกับการจัดการสุขภาพ, 11(2), 229–242. สืบค้น จาก https://he01.tci-thaijo.org/index.php/slc/article/view/280032

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิจัย