ประสิทธิผลของโปรแกรมการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพของประชาชนวัยทำงานตอนปลายในอำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ ที่มีภาวะอ้วนลงพุง
คำสำคัญ:
โปรแกรมการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ, คุณภาพชีวิต, ภาวะอ้วนลงพุง, ประชาชนวัยทำงานตอนปลายบทคัดย่อ
การศึกษาวิจัยนี้เป็นแบบกึ่งทดลองชนิดสองกลุ่มวัดผลก่อนและหลังการทดลอง เพื่อทำการเปรียบเทียบผลลัพธ์ทางคลินิก พฤติกรรมสุขภาพ และคุณภาพชีวิตภายในกลุ่มทดลองและกลุ่มควบคมุ และระหว่างกลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุมในประชาชนวัยทำงานตอนปลายที่มีภาวะอ้วนลงพุง โดยการเลือกกลุ่มตัวอย่างแบบหลายขั้นตอนแบ่งเป็นกลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุม กลุ่มละ 30 คน กลุ่มทดลองได้รับโปรแกรมการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ จำนวน 8 สัปดาห์ เครื่องมือที่ใช้ ประกอบด้วย แบบบันทึกผลลัพธ์ทางคลินิก แบบสอบถามพฤติกรรมสุขภาพ และแบบสอบถามคุณภาพชีวิต และ ได้ค่า CVI เท่ากับ 0.88 แบบบันทึกผลลัพธ์ทางคลินิก แบบสอบถามพฤติกรรมสุขภาพ และแบบสอบถามคุณภาพ มีค่าสัมประสิทธิ์แอลฟาของครอนบัค เท่ากับ 0.92, 0.88 และ 0.91 ตามลำดับ วิเคราะห์ข้อมูลทั่วไปด้วยการแจกแจงความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ใช้สถิติการทดสอบค่าทีกรณีกลุ่มตัวอย่าง 2 กลุ่มเป็นอิสระกัน (Independent Samples t-test) และทดสอบค่าทีกรณีกลุ่มตัวอย่าง 2 กลุ่มมีการทดสอบก่อนหลัง (Paired Samples t-test) ผลการวิจัยพบว่า ค่าดัชนีมวลกาย และเส้นรอบเอวของกลุ่มทดลองลดลงหลังการทดลองอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .001 คะแนนพฤติกรรมสุขภาพและคุณภาพชีวิตโดยรวมมีคะแนนเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ที่ระดับ .001 กลุ่มควบคุม ดัชนีมวลกาย และเส้นรอบเอว พฤติกรรมสุขภาพและคุณภาพชีวิตโดยรวมและรายด้านมีคะแนนไม่เปลี่ยนแปลง ระหว่างกลุ่มทดลอง และกลุ่มควบคุม ภายหลังการทดลอง พบว่า ผลลัพธ์ทางคลินิก ดัชนีมวลกายไม่มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิตที่ระดับ .05 เส้นรอบเอวลดลงกว่ากลุ่มควบคุมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 คะแนนพฤติกรรมสุขภาพ ด้านการจัดการความเครียด และคะแนนคุณภาพชีวิตด้านร่างกาย จิตใจ ความสัมพันธ์ทางสังคม และด้านสิ่งแวดล้อม กลุ่มทดลองมีคะแนนสูงกว่ากลุ่มควบคุมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 มีคะแนนสูงกว่ากลุ่มควบคุมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
เอกสารอ้างอิง
กลุ่มบริหารยุทธศาสตร์ สำนักโภชนาการ. (2565). รายงานประจำ ปี 2565 เฝ้าระวังทางโภชนาการ. สืบค้นจาก https://nutrition2.anamai.moph.go.th/web-upload/6x22caac0452648c8dd1f534819ba2f16c/202303/m_magazine/37955/4261/file_download/13affb4dde0d884d8536cb0096eecca9.pdf
กลุ่มเทคโนโลยีระบาดวิทยา และมาตรการชุมชนกองโรคไม่ติดต่อ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข. (2563). รายงานสถานการณ์โรค NCDs เบาหวาน ความดันโลหิตสูง และปัจจัยเสี่ยงที่เกี่ยวข้อง พ.ศ. 2562. นนทบุรี: สำนักพิมพ์อักษรกราฟฟิคแอนด์ ดีไซน์.
โครงการจัดทำโปรแกรมสำเร็จรูปในการสำรวจสุขภาพจิตในพื้นที่. (2545). เครื่องชี้วัดคุณภาพชีวิตขององค์การอนามัย โลกชุดย่อฉบับภาษาไทย (WHOQOL–BREF–THAI). สืบค้นจาก https://dmh.go.th/test/download/files/whoqol.pdf
ชมนาด วรรณพรศิริ และนิยม เล็กชูผล. (2559). ผลของโปรแกรมการสร้างพลังอำนาจต่อพฤติกรรมการป้องกันภาวะเมตาโบลิก ดัชนีมวลกาย รอบเอว และ ความดันโลหิตของผู้ใหญ่ในชนบทไทย. วารสารการพยาบาลและการศึกษา, 9(4), 29-41.
บุญชม ศรสี ะอาด. (2556). วิธีการวิจัยเชิงสถิติ (พิมพ์ครั้งที่ 5). กรุงเทพฯ: สุวิริยาสาร.
เบญญทิพย์ พรรณศิลป์, วิรัติ ปานศิลา, และรณรุทธ์ บุตร แสนคม. (2560). การพัฒนารูปแบบการดำเนิน งานเพื่อลดภาวะอ้วนของคนในชุมชน ตำบล หนองแสง อำเภอวาปีปทุมจังหวัดมหาสารคาม. วารสารวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัย อุบลราชธานี, 19(2), 108-123.
ภาวดี วิมลพันธุ์ และขนิษฐา พิศฉลาด. (2559). การพัฒนาแนวปฏิบัติในการจัดการกับภาวะนํ้าหนักเกินและอ้วนในผู้สูงอายุ. วารสารพยาบาลทหารบก, 17(1), 115-123.
วิชัย เอกพลากร, หทัยชนก พรรคเจริญ, และวราภรณ์ เสถียรนพเก้า. (2564). การสำรวจสุขภาพประชาชนไทยโดยการตรวจร่างกาย ครั้งที่ 6 พ.ศ. 2562-2563. สืบค้นจาก https://kb.hsri.or.th/dspace/handle/11228/5425
สุภาพร ทิพย์กระโทก และธนิดา ผาติเสนะ. (2563). ผลของโปรแกรมการจัดการตนเอง เพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ ค่าดัชนีมวลกาย และเส้นรอบเอว ของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านที่มีภาวะอ้วนลงพุง. วารสารศูนย์อนามัยที่ 9, 14(34), 210-223.
สำนักงานสถิติจังหวัดชัยภูมิ. (2560). ผลการสำรวจ ภาวะการทำงานของประชากร ไตรมาสที่ 3/2560. สืบค้นจาก https://chaiyaphum.nso.go.th/chaiyaphum/news/event-news/labor-force-survey-results-quarter-3-2017.html
สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดชัยภูมิ. (2564). ข้อมูล ประชากรจังหวัดชัยภูมิ. สืบค้นจาก https://cpho.moph.go.th/?page_id=13498
Bandura, A. (1997). Self-Efficacy. The Exercise of Control. New York: W.H. Freeman and Company.
Cohen, J. (1988). Statistical Power Analysis for the Behavioral Sciences (2nd ed.). NJ: Lawrence Erlbaum Associates.
Flegal, K. M., Kruszon-Moran, D., Carroll, M. D., Fryar, C. D., & Ogden, C. L. (2016). Trends in obesity among adults in the United States, 2005 to 2014. Jama, 315(21), 2284-2291.
Frison, L., & Pocock, S. J. (1992). Repeated measures in clinical trials: analysis using mean summary statistics and its implications for design. Statistics in medicine, 11(13), 1685-1704.
Glass, G. V. (1976). Primary, secondary, and meta-analysis of research. Educational researcher, 5(10), 3-8.
Pender, N. J., Murdaugh, C. L. & Parsons, M. A. (2011). Health promotion in nursing Practice. (6th ed.). Boston: Pearson Education.
Wang, J., Yang, D. L., Chen, Z. Z., & Gou, B. F. (2016). Associations of body mass index with cancer incidence among populations, genders, and menopausal status: a systematic review and meta-analysis. Cancer epidemiology, 42, 1-8. doi:10.1016/j.canep.2016.02.010
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2024 วารสารสุขภาพกับการจัดการสุขภาพ

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
