ผลของการใช้แบบแผนความเชื่อด้านสุขภาพต่อพฤติกรรมป้องกันโรคเบาหวานและความเสี่ยงต่อโรคเบาหวานในประชากรกลุ่มเสี่ยงต่อโรคเบาหวานชนิดที่ 2
คำสำคัญ:
พฤติกรรมป้องกันเบาหวาน, ความเสี่ยงต่อโรคเบาหวาน, แบบแผนความเชื่อด้านสุขภาพ, กลุ่มเสี่ยงต่อโรคเบาหวานชนิดที่ 2บทคัดย่อ
การวิจัยนี้เป็นการวิจัยกึ่งทดลองแบบหนึ่งกลุ่ม วัดผลก่อน-หลัง และวัดซํ้า มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลของการใช้แบบแผนความเชื่อด้านสุขภาพต่อพฤติกรรมป้องกันและความเสี่ยงต่อโรคเบาหวานในประชากรกลุ่มเสี่ยงต่อโรคเบาหวานชนิดที่ 2 กลุ่มตัวอย่าง คือ บุคลากรสายสนับสนุนวิชาการของสถาบันการศึกษาแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานครที่มีภาวะเสี่ยงต่อโรคเบาหวานชนิดที่ 2 จำ นวน 28 คน ใช้ระยะเวลาศึกษา 16 สัปดาห์ เป็นระยะทดลอง 12 สัปดาห์ และระยะติดตามผล 4 สัปดาห์ กลุ่มตัวอย่างได้รับโปรแกรม ซึ่งประกอบด้วย สัปดาห์ที่ 1-2 ให้ความรู้ และการติดตามเพื่อให้ข้อมูลป้อนกลับรายบุคคลเกี่ยวกับข้อมูลภาวะสุขภาพ การกระตุ้นเตือน และให้คำปรึกษา 3 ครั้งในสัปดาห์ที่ 4, 8 และ 12 และการแลกเปลี่ยนข้อมูลผ่านแอปพลิเคชันไลน์ตลอดช่วงทดลอง จากนั้นเก็บข้อมูลหลังการทดลองและระยะติดตามผลในสัปดาห์ที่ 12 และ 16 ตามลำ ดับ โดยใช้แบบสอบถามพฤติกรรมป้องกันโรคเบาหวานที่ผู้วิจัยพัฒนาขึ้น (CVI = 1.00, Reliability = .75) และเก็บข้อมูลปัจจัยความเสี่ยงต่อโรคเบาหวาน ได้แก่ ดัชนีมวลกาย เส้นรอบเอว และความดันโลหิต วัดผลก่อนการทดลอง หลังการทดลอง และระยะติดตามผล วิเคราะห์ข้อมูลด้วยร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสถิติการวิเคราะห์ความแปรปรวนเมื่อมีการวัดซํ้า ผลการวิจัยพบว่า กลุ่มตัวอย่างมีคะแนนเฉลี่ยพฤติกรรมป้องกันเบาหวานมากกว่า และมีดัชนีมวลกาย และเส้นรอบเอวน้อยกว่าก่อนได้รับโปรแกรมแบบแผนความเชื่อด้านสุขภาพอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ข้อเสนอแนะ ควรใช้โปรแกรมแบบแผนความเชื่อด้านสุขภาพ โดยเน้นการลดทอนอุปสรรคของกลุ่มตัวอย่างให้ตรงประเด็น และต่อเนื่องตลอดโครงการ ในการส่งเสริมให้ประชากรกลุ่มเสี่ยงต่อโรคเบาหวานชนิดที่ 2 เกิดพฤติกรรมสุขภาพเพื่อป้องกันเบาหวาน ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคเบาหวานชนิดที่ 2
เอกสารอ้างอิง
กองโรคไม่ติดต่อ กรมควบคุมโรค. (2565). รายละเอียดตัวชี้วัดเพื่อกำกับติดตามคุณภาพบริการ การดำเนินงานด้านโรคไม่ติดต่อ (โรคเบาหวานและโรคความดันโลหิตสูง) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565. สืบค้นจาก https://ddc.moph.go.th/uploads/publish/1186620211005081047.pdf
เกษร ศรีธรรมมา. (2563). ผลการใช้กิจกรรมกลุ่มและแบบแผนความเชื่อด้านสุขภาพที่มีผลต่อพฤติกรรมการดูแลตนเองของกลุ่มเสี่ยงโรคเบาหวานในจังหวัดร้อยเอ็ด. วารสารวิจัยและพัฒนานวัตกรรมทางสุขภาพ, 1(3), 177-189.
คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล. (2557). ผลของโปรแกรมการใช้แบบแผนความเชื่อด้านสุขภาพร่วมกับการส่งเสริมความสามารถของตนโดยพยาบาลสามารถลดระดับฮีโมโกลบินเอวันซีในประชาชนที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ที่มารับบริการ ณ โรงพยาบาลศิริราช:การศึกษาแบบสุ่มระยะที่สาม. สืบค้นจากhttps://op.mahidol.ac.th/qd/km/document/2014/km20141218/066.pdf
ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์. (2565). สถานการณ์โรคเบาหวานทั่วโลก. สืบค้นจาก https://pr.moph.go.th/?url=pr/detail/2/02/181256/
วิชัย เอกพลากร. (2548). รายงานการศึกษาพัฒนาดัชนีความเสี่ยงต่อเบาหวาน. กรุงเทพฯ: ศูนย์เวชศาสตร์ชุมชน คณะแพทย์ศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี.
อารีย์ แสงศรี, วาริณี เอี่ยมสวัสดิกุล, และชื่นจิตร โพธิศัพท์สุข. (2564). ผลของโปรแกรมพัฒนาพฤติกรรมป้องกันโรคเบาหวานกลุ่มเสี่ยง อำเภอกุดชุม จังหวัดยโสธร. วารสารพยาบาล, 70(4), 1-10.
American Diabetes Association Professional Practice Committee. (2022). Facilitating behavior change and well-being to improve health outcomes: Standards of Medical Care in Diabetes-2022. Diabetes care, 45(1), S60-S82.
Becker, M. H. (1974). The health belief model and sick role behavior. Health education monographs, 2(4), 409-419.
Chao, A., Grilo, C. M., White, M. A., & Sinha, R. (2015). Food cravings mediate the relationship between chronic stress and body mass index. Journal of health psychology, 20(6), 721-729. doi:10.1177/1359105315573448
Daza, E. J., Wac, K., & Oppezzo, M. (2019). Effects of sleep deprivation on blood glucose, Food cravings, and affect in a non-diabetic: an N-of-1 randomized pilot study. In Healthcare, 8(1), 6. doi:10.3390/healthcare 8010006
Hatamzadeh, N., Jouybari, T. A., Nasirzadeh, M., Aghaei, A., Gharibnavaz, H., & Khashij, S. (2017). Cognitive determinants of diabetes preventive among at risk group: An application of the health belief model. International Journal of Advanced Biotechnology and Research, 8(4), 112-117.
International Diabetes Federation. (2021). IDF Diabetes Atlas (10thed). Retrieved From https://diabetesatlas.org/idfawp/resourcefiles/2021/07/IDF_Atlas_10th_Edition_2021.pdf
Johns Hopkins Medicine. (2024). Prediabetes diet. Retrieved From https://www.hopkinsmedicine.org/health/wellness-and-prevention/prediabetes-diet
Joiner, K. L., McEwen, L. N., Hurst, T. E., Adams, M. P., & Herman, W. H. (2022). Domains from the health belief model predict enrollment in the National Diabetes Prevention Program among insured adults with prediabetes. Journal of Diabetes and its Complications, 36(7), 108220. doi:10.1016/j.jdiacomp.2022.108220
Kanellakis, S., Skoufas, E., Simitsopoulou, E., Migdanis, A., Migdanis, I., Prelorentzou, T., ... & Androutsos, O. (2023). Changes in body weight and body composition during the menstrual cycle. American Journal of Human Biology, 35(11), e23951. doi:10.1002/ajhb.23951
National High Blood Pressure Education Program. (2004). Complete report: The seventh report of the Joint National Committee on Prevention, Detection, Evaluation, and Treatment of High Blood Pressure. Retrieved from https://www.nhlbi.nih.gov/files/docs/guidelines/jnc7full.pdf
Pavlou, V., Cienfuegos, S., Lin, S., Ezpeleta, M., Ready, K., Corapi, S., ... & Varady, K. A. (2023). Effect of time-restricted eating on weight loss in adults with type 2 diabetes: a randomized clinical trial. JAMA network open, 6(10), e2339337. doi:10.1001/jamanetworkopen.2023.39337
Sadeghi, R., Hesary, F. B., & Khanjani, N. (2020). A systematic review about educational interventions based on the health belief model (HBM) aimed to prevent and control diabetes in Iran. International Journal of Ayurvedic Medicine, 11(1), 15-22.
Wang, Y., Li, H., Yang, D., Wang, M., Han, Y., & Wang, H. (2023). Effects of aerobic exercises in prediabetes patients: A systematic review and meta-analysis. Frontiers in Endocrinology, 14, 1227489. doi:10.3389/fendo.2023.1227489
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2024 วารสารสุขภาพกับการจัดการสุขภาพ

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
