การวิเคราะห์องค์ประกอบเชิงสำรวจของแบบประเมินการปฏิบัติงานตามการปรับตัวและแบบประเมินการลดผลกระทบในการปฏิบัติงานของพยาบาลผู้จัดการหอผู้ป่วยที่ปฏิบัติงานในโรงพยาบาลเอกชนหลังการระบาดของโรคโควิด

ผู้แต่ง

  • นันทิยา ปรีชาเสถียร คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยนอร์ทกรุงเทพ
  • อัมพร เจียงวิริชัยกูร คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยนอร์ทกรุงเทพ
  • ชัชวาล วงค์สารี คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยนอร์ทกรุงเทพ
  • ชนินทร์ ต่วนชะเอม คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยสวนดุสิต
  • ธนันต์นิภา ภัคศุขนิธิวัฒน์ คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยเวสเทิร์น บุรีรัมย์

คำสำคัญ:

การปฏิบัติงานตามการปรับตัว, การลดผลกระทบในการปฏิบัติงาน, พยาบาลผู้จัดการหอผู้ป่วย

บทคัดย่อ

การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อวิเคราะห์องค์ประกอบเชิงสำรวจของแบบประเมินการปฏิบัติงานตามการปรับตัวและแบบประเมินการลดผลกระทบในการปฏิบัติงานของพยาบาลผู้จัดการหอผู้ป่วยที่ปฏิบัติงานในโรงพยาบาลเอกชนหลังการระบาดของโรคโควิด  ตัวอย่าง คือ  พยาบาลผู้จัดการหอผู้ป่วยที่ปฏิบัติงานในโรงพยาบาลเอกชนระดับสากล คัดเลือกตามเกณฑ์การคัดเข้า จำนวน  230 คน  เครื่องมือวิจัยเป็นแบบสอบถามข้อมูลทั่วไปและแบบประเมินการปฏิบัติงานตามการปรับตัวและแบบประเมินการลดผลกระทบในการปฏิบัติงาน  ผู้ตอบแบบสอบถามเลือกตอบด้วยตนเอง จำนวน 10 ข้อ   คำตอบเป็นแบบมาตราประมาณค่า 5 ระดับ มีค่าความตรงเชิงเนื้อหา เท่ากับ  1.00 และมีค่าความเชื่อมั่น เท่ากับ .88 และ .85 ตามลำดับ วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติบรรยายและการวิเคราะห์องค์ประกอบเชิงสำรวจ โดยใช้การสกัดองค์ประกอบแบบการวิเคราะห์องค์ประกอบร่วมด้วยวิธีการวิเคราะห์องค์ประกอบหลัก และหมุนแกนแบบมุมฉากด้วยวิธีแวริแมกซ์

ผลการวิจัย พบว่า องค์ประกอบการปฏิบัติงานตามการปรับตัวของพยาบาลผู้จัดการหอผู้ป่วย วัดได้จากตัวบ่งชี้องค์ประกอบ จำนวน  5   ข้อคำถาม  มีค่าน้ำหนักปัจจัยองค์ประกอบอยู่ในช่วง .592 - .782 สามารถร่วมกันอธิบายการปฏิบัติงานตามการปรับตัวของพยาบาลผู้จัดการหอผู้ป่วยได้ร้อยละ  51.710  และองค์ประกอบการลดผลกระทบในการปฏิบัติงานของพยาบาลผู้จัดการหอผู้ป่วย วัดได้จากตัวบ่งชี้องค์ประกอบ จำนวน  5   ข้อคำถาม  มีค่าน้ำหนักปัจจัยองค์ประกอบอยู่ในช่วง .670 - .764   สามารถร่วมกันอธิบายการปฏิบัติงานตามการปรับตัวของพยาบาลผู้จัดการหอผู้ป่วยได้ร้อยละ  52.672

เอกสารอ้างอิง

ชัชวาล วงค์สารี, แก้วตะวัน ศิริลักขณานันท์, สุทธิชารัตน์ เจริญพงษ์, ทวิพงษ์ บุบผารัตน์, ธนันต์นิภา ภัคศุขนิธิวัฒน์, วนิดา ดุรงค์ฤทธิชัย, อัมพร เจียงวิริชัยกูร, และสายวารี เกษแก้ว. (2566). ประสบการณ์การบริหารการพยาบาลของฝ่ายการพยาบาลยุคพยาบาลเจเนอเรชั่นแซดในโรงพยาบาลเอกชน ประเทศไทย. วารสารสุขภาพกับการจัดการสุขภาพ. 9(1), 59-72.

ชัชวาล วงค์สารี, ชุติมา ปัญญาพินิจนุกูร, วลัยนารี พรมลา, ภคพร เที่ยวรอบ, รุ่งนภา กุลภักดี, หทัยรัตน์ ขาวเอี่ยม, และ เนตรชนก ศรีทุมมา. (2565). การทบทวนปัจจัยทางจิตวิทยาสังคมและพฤติกรรมองค์การ กับพฤติกรรมการปฏิบัติงานที่เป็นเลิศของหัวหน้าหอผู้ป่วยในโรงพยาบาลเอกชนระดับสากล. วารสารพยาบาลทหารบก. 23(1), 14-22.

ชุติมา ปัญญาพินิจกูร, ชัชวาล วงค์สารี, เนตรชนก ศรีทุมมา, ปรัชพร ตันตราพิทักษ์, ชุลีพร ชอบสุข, และเนตรดาว ชัชวาลย์. (2565). การบริหารการพยาบาลที่เป็นเลิศในสถานการณ์วูก้า ขององค์กรการพยาบาลโรงพยาบาลเอกชน: ความท้าทายในการพัฒนาศักยภาพหัวหน้าหอผู้ป่วยสู่งานวิถีใหม่. วารสารพยาบาลทหารบก, 23(1), 73-79.

ธีรพร สถิรอังกูร, ศิริมา ลีละวงศ์, ศศมน ศรีสุทธิศักดิ์, สมใจ พุทธาพิทักษ์ผล, ณิชาภา ยนจอหอ, และกนกพร แจ่มสมบูรณ์. (2564). การพัฒนารูปแบบการบริหารการพยาบาล ในสถานการณ์การระบาดของโควิด–19 ในโรงพยาบาลสังกัดกระทรวงสาธารณสุข. วารสารวิชาการสาธารณสุข, 30(2), 320-333.

Borman, W.C., Motowidlo, S.J. (1993). Expanding the criterion domain to include elements of contextual performance. CA: Jossey Bass.

Campbell, J. P., McCloy, R. A., Oppler, S. H., & Sager, C. E. (1993). A theory of performance. Personnel selection in organizations, 3570, 35-70.

DeVellis, R. F. (2016). Scale development: Theory and applications (4th ed.). Los Angeles, CA: Sage.

Fletcher, M., Read, C., & D-Adderio, L. (2023). Nurse Leadership Post COVID Pandemic-A Framework for Digital Healthcare Innovation and Transformation. SAGE open nursing, 9(2023),. https://doi.org/10.1177/23779608231160465

Hair,JF., Black, WC., Babin, BJ.,.Anderson,RE. (2019). Multivariate data analysis. Cengage Learning.

Kline, R.B. (2016). Principles and Practice of Structural Equation Modeling. New York: Guilford.

Koopmans, L., Bernaards, C. M., Hildebrandt, V. H., de Vet, H. C., & van der Beek, A. J. (2014). Measuring individual work performance: Identifying and selecting indicators. Work, 48(2), 229-238.

Greenslade, J. H., & Jimmieson, N. L. (2007). Distinguishing between task and contextual performance for nurses: Development of a job performance scale. Journal of Advanced Nursing ,58(6), 602-611.

Polit, D. F., Beck, C. T., & Owen, S. V. (2007). Is the CVI an acceptable indicator of content validity? Appraisal and recommendations. Research in nursing & health, 30(4), 459-467.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2023-12-28

รูปแบบการอ้างอิง

ปรีชาเสถียร น., เจียงวิริชัยกูร อ., วงค์สารี ช., ต่วนชะเอม ช., & ภัคศุขนิธิวัฒน์ ธ. (2023). การวิเคราะห์องค์ประกอบเชิงสำรวจของแบบประเมินการปฏิบัติงานตามการปรับตัวและแบบประเมินการลดผลกระทบในการปฏิบัติงานของพยาบาลผู้จัดการหอผู้ป่วยที่ปฏิบัติงานในโรงพยาบาลเอกชนหลังการระบาดของโรคโควิด. วารสารสุขภาพกับการจัดการสุขภาพ, 9(2), 242–253. สืบค้น จาก https://he01.tci-thaijo.org/index.php/slc/article/view/266476

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิจัย