ผลของการเข้าร่วมกิจกรรมในโรงเรียนผู้สูงอายุต่อความรอบรู้ด้านสุขภาพ และภาวะซึมเศร้า: กรณีศึกษาโรงเรียนผู้สูงอายุแห่งหนึ่งในจังหวัดพิษณุโลก
คำสำคัญ:
โรงเรียนผู้สูงอายุ, ความรอบรู้ด้านสุขภาพ, ภาวะซึมเศร้าบทคัดย่อ
การวิจัยเชิงพรรณนานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเปรียบเทียบระดับของความรอบรู้ด้านสุขภาพ และเปรียบทียบภาวะซึมเศร้า ระหว่างกลุ่มผู้สูงอายุที่เข้าร่วมและไม่ได้เข้าร่วมกิจกรรมในโรงเรียนผู้สูงอายุ กลุ่มตัวอย่างคือผู้สูงอายุที่มีโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง กลุ่มละ 40 คน รวบรวมข้อมูลด้วยแบบวัดความรอบรู้ด้านสุขภาพสำหรับผู้ป่วยเบาหวานและความดันโลหิตสูง และแบบวัดภาวะซึมเศร้าในผู้สูงอายุไทย ฉบับ 15 ข้อ ระหว่างเดือนธันวาคม 2564-มีนาคม 2565 วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติเชิงพรรณนา ใช้สถิติไคสแควร์ในการเปรียบเทียบระดับของความรอบรู้ด้านสุขภาพและภาวะซึมเศร้า ผลการศึกษาพบว่า กลุ่มตัวอย่างมีระดับของความรอบรู้ด้านสุขภาพ ได้แก่ การรู้แจ้ง ความแตกฉาน การรู้แจ้งแตกฉาน ในภาพรวมทุกองค์ประกอบไม่มีความแตกต่างกันระหว่างกลุ่ม เมื่อพิจารณาระดับความรอบรู้ด้านสุขภาพในแต่ละมิติพบว่า ผู้สูงอายุที่เข้าร่วมและไม่เข้าร่วมกิจกรรมในโรงเรียนผู้สูงอายุ กลุ่มตัวอย่างทั้งสองกลุ่มมีระดับความรอบรู้ด้านสุขภาพขั้นพื้นฐานในองค์ประกอบด้านความสามารถในการเข้าถึงหรือแสวงหาข้อมูลสุขภาพ แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p=0.007) สำหรับผลการศึกษาการเปรียบเทียบภาวะซึมเศร้า และพบว่า ผู้สูงอายุที่เข้าร่วมและไม่เข้าร่วมกิจกรรมในโรงเรียนผู้สูงอายุ กลุ่มตัวอย่างทั้งสองกลุ่มมีภาวะซึมเศร้า ไม่แตกต่างกัน ผลการศึกษาแสดงให้เห็นว่าการเข้าร่วมกิจกรรมในโรงเรียนผู้สูงอายุส่งเสริมให้ผู้สูงอายุมีความรอบรู้ด้านสุขภาพโดยเฉพาะด้านความสามารถในการเข้าถึงหรือแสวงหาข้อมูลสุขภาพเพิ่มขึ้น หน่วยงานในพื้นที่โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาศักยภาพของผู้สูงอายุ สามารถใช้เป็นข้อมูลเพื่อเป็นแนวทางในการการสนับสนุนกิจกรรมในลักษณะดังกล่าวตามบริบทของพื้นที่ต่อไป
เอกสารอ้างอิง
กรมกิจการผู้สูงอายุ. (2559). คู่มือโรงเรียนผู้สูงอายุ. สืบค้นจาก https://www.dop.go.th/download/knowledge/th1605680859-197_0.pdf
กรมกิจการผู้สูงอายุ. (2562). มาตรการขับเคลื่อนระเบียบวาระแห่งชาติ เรื่อง สังคมสูงอายุ 6 Sustainable 4 Change. สืบค้นจาก https://www.dop.go.th/th/know/5/155
ชะนวนทอง ธนสุกาญจน และนรีมาลย์ นีละไพจิตร. (2559). การพัฒนาเครื่องมือวัดความรู้แจ้งแตกฉานด้านสุขภาพ (Health Literacy) สำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูง. นนทบุรี: กรมสนับสนุนบริการ สุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข.
ดาวรุ่ง คาวงศ์ และสุรวิชญ์ รุ่งสว่าง. (2563). การวิเคราะห์เนื้อหาวิชาที่มีการจัดการเรียนการสอนในโรงเรียนผู้สูงอายุเพื่อเปรียบเทียบกับโครงสร้างหลักสูตรของกรมกิจการผู้สูงอายุ: กรณีศึกษาโรงเรียนผู้สูงอายุบ้านเขาสมอแคลง จังหวัดพิษณุโลก. วารสารวิชาการสาธารณสุขชุมชน, 6(2), 1-12.
ปัญจพจน์ วิมลรัตนชัยศิริ. (2563). การศึกษาเปรียบเทียบพฤติกรรมส่งเสริมสุขภาพและคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุที่เข้าร่วมและไม่ได้เข้าร่วมกิจกรรมในชมรมผู้สูงอายุตำบลสามชุก อาเภอสามชุก จังหวัดสุพรรณบุรี. วารสารวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี สุพรรณบุรี, 3(2), 52-75.
มนัส จันทร์พวง, วิยะณี ดังก้อง, ปาริฉัตร กุลเกลี้ยง, สุภาพร ธนะขว้าง, ณัฐกมล บัวบาน, และเอกภพ นิลพัฒน. (2560). การพัฒนาหลักสูตรโรงเรียนผู้สูงอายุเพื่อเพิ่มคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุด้วยภูมิปัญญาท้องถิ่น. วารสารบัณฑิตศึกษาปริทรรศน์ มจร วิทยาเขตแพร่, 3(1), 87-102.
มูลนิธิวิจัยและพัฒนาผู้สูงอายุไทย. (2560).สถานการณ์ผู้สูงอายุไทย พ.ศ.2560. Retrieved from http://www.dop.go.th/download/knowledge/th1552463947-147_0.pdf
ระวี สัจจโสภณ. (2556). แนวคิดทางการศึกษาเพื่อการพัฒนาภาวะพฤฒิพลังในผู้สูงอายุ. วารสารวิทยาสารเกษตรศาสตร์ สาขาสังคมศาสตร์, 34(3), 471-490.
สรร กลิ่นวิชิต, เวธกา กลิ่นวิชิต, พวงทอง อินใจ, และพลอยพันธุ์ กลิ่นวิชิต. (2558). การประเมินภาวะสุขภาพจิตของผู้สูงอายุที่เป็นโรคเรื้อรังในชุมชน เทศบาลเมืองแสนสุข จังหวัดชลบุรี. บูรพาเวชสาร, 2(1), 21-33.
อุบล นววงศ์เสถียร และนิตยา แก้วคำสอน. (2561). การพัฒนาหลักสูตรโรงเรียนผู้สูงอายุเพื่อการส่งเสริมสุขภาพผู้สูงอายุกลุ่มติดสังคมตำบลศรีวิไล อำเภอศรีวิไล จังหวัดบึงกาฬ. วารสารวิทยาศาสตร์สุขภาพและการสาธารณสุขชุมชน, 1(1), 70-81.
อาชัญญา รัตนอุบล. (2562). ข้อเสนอการพัฒนาการดำเนินงานส่งเสริมศักยภาพผู้สูงอายุ. วารสารศิลปากรศึกษาศาสตร์วิจัย, 11(1), 26-46.
Ngamjarus, C., & Chongsuvivatwong, V. (2559). n4Studies: Sample size calculation for an epide- miological study on a smart device. Siriraj Medical Journal, 68, 160–170.
Nilnate, W., Hengpraprom, S., & Hanvoravongchai, P. (2016). Level of health literacy in Thai elders, Bangkok, Thailand. Journal of Health Research, 30(5), 315-321.
Wongpakaran, N., & Wongpakaran, T. (2012). Prevalence of major depressive disorders and suicide in long‐term care facilities: a report from northern Thailand. Psychogeriatrics, 12(1), 11-17.
World Health Organization. (2002). The world health report 2002: reducing risks, promoting healthy life. Retrieved from http://www.informaworld.com/openurl?genre=article&doi=101080/1357628031000116808&magic=crossref||D404A21C5BB053405B1A640AFFD44AE3
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2023 วารสารสุขภาพกับการจัดการสุขภาพ

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
