ผลของโปรแกรมการจัดประสบการณ์เรียนรู้ด้วยการพัฒนากระบวนการทางปัญญาที่มีต่อสุขภาวะที่ดีของวัยรุ่นตอนปลาย
คำสำคัญ:
พฤติกรรมปัญญานิยม, ความเข้มแข็งทางใจ, ทักษะวัยรุ่นเชิงบวก, สุขภาวะที่ดีบทคัดย่อ
งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลของโปรแกรมการจัดประสบการณ์เรียนรู้ด้วยการพัฒนากระบวนการทางปัญญาที่ส่งผลต่อสุขภาวะที่ดีของวัยรุ่นตอนปลาย เป็นการวิจัยกึ่งทดลองแบบ Pretest - Posttest control group design กลุ่มเป้าหมาย คือ นักศึกษาของมหาวิทยาลัยเอกชนแห่งหนึ่งในเขตกรุงเทพฯ ที่มีคุณสมบัติตามเกณฑ์และสมัครใจเข้าร่วมจนจบการทดลอง 51 คน แบ่งเป็นกลุ่มทดลอง 24 คน และกลุ่มควบคุม 27 คน โดยใช้การสุ่มเข้ากลุ่มทดลอง เครื่องมือที่ใช้ ได้แก่ 1) แบบวัดสุขภาวะที่ดี 55 ข้อ ทุกข้อมีค่าความตรงมากกว่า .66 มีค่าความเที่ยงอยู่ระหว่าง .927 ถึง .948 และ 2) โปรแกรมการจัดประสบการณ์เรียนรู้ด้วยการพัฒนากระบวนการทางปัญญา ซึ่งอยู่บนพื้นฐานของทฤษฎีพฤติกรรมปัญญานิยมที่บูรณาการร่วมกับแนวคิดอื่นๆ ได้แก่ การเหนี่ยวนำพฤติกรรม การปฏิสัมพันธ์ของบุคคลตามแนวคิดนิเวศวิทยาพัฒนาการมนุษย์ และการเรียนรู้จากการสังเกตตัวแบบตามทฤษฎีปัญญาสังคม เพื่อส่งเสริมความเข้มแข็งทางใจ และทักษะวัยรุ่นเชิงบวก ซึ่งจะส่งผลให้สุขภาวะที่ดีเพิ่มขึ้น โดยโปรแกรมที่จัดทำขึ้นผ่านการตรวจสอบคุณภาพจากผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 5 ท่าน ร่วมกับการทำ Tryout เมื่อนำไปใช้ พบว่า กลุ่มทดลองมีคะแนนสุขภาวะที่ดีหลังการทดลอง (= 4.16) เพิ่มขึ้นจากคะแนนก่อนการทดลอง (
= 3.48) อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .001 และเมื่อวิเคราะห์ความแปรปรวน-แปรปรวนร่วม (ANCOVA) โดยควบคุมอิทธิพลของตัวแปรร่วม คือ คะแนนสุขภาวะที่ดีก่อนการทดลอง พบว่า ระดับสุขภาวะที่ดีของกลุ่มทดลอง (Adj. M = 4.26) แตกต่างจากกลุ่มควบคุม (Adj. M = 3.96) อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 (F = 5.49) จึงสรุปว่าโปรแกรมที่จัดทำขึ้น สามารถนำไปใช้ได้จริง เพื่อช่วยเหลือนักศึกษากลุ่มที่มีปัญหาเล็กน้อย และกำลังรอรับการช่วยเหลือจากนักจิตวิทยาผู้มีความสามารถเฉพาะทาง ให้ได้รับการช่วยเหลือเบื้องต้นเร็วขึ้น
เอกสารอ้างอิง
ฐินีรัตน์ ถาวร, สาธกา พิมพ์รุณ, และวารีรัตน์ ถาน้อย. (2561). ปัจจัยที่สัมพันธ์กับสุขภาวะทางจิตใจของนักเรียนมัธยมศึกษาตอนปลาย. วารสารพยาบาลศาสตร์, 36(3), 59-70.
ทัชชา สุริโย. (2559). ผลของโปรแกรมการให้คำปรึกษากลุ่มที่มีต่อการเสริมสร้างความฉลาดทางสังคมในวัยรุ่นกลุ่มเสี่ยงต่อภาวะซึมเศร้า (ปริญญานิพนธ์ ศศ.ม.). มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ, กรุงเทพฯ.
ประณต เค้าฉิม, (2549). เอกสารประกอบการเรียนการสอน วิชา จิตวิทยาวัยรุ่น. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.
ปิยนุช ชมภูกาศ. (2560). ผลของโปรแกรมการให้คำปรึกษาแบบกลุ่มตามแนวปัญญาพฤติกรรมนิยมร่วมกับการพัฒนาสติต่อความกรุณาต่อตนเองในวัยรุ่นที่มีภาวะซึมเศร้า (ปริญญานิพนธ์ ศศ.ม.). มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ, กรุงเทพฯ.
ริญญารัตน์ วรจินตนาลักษณ์, พระครูภัทรธรรมคุณ, และ พีรวัฒน์ ชัยสุข. (2563). การศึกษาสุขภาวะยุคไทยแลนด์ 4.0 ตามหลักภาวนา 4 ของนิสิต มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. วารสารการวิจัยการบริหารการพัฒนา, 10(4), 39-53.
สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ ป.อ.ปยุตโต. (2562). สุขภาวะองค์รวมแนวพุทธ (พิมพ์ครั้งที่ 35). นครปฐม: วัดญาณเวศกวัน.
อัจฉรา ตราชู, ฐิตวี แก้วพรสวรรค์ และ สิรินัดดา ปัญญาภาส. (2556). พฤติกรรมทำร้ายตนเองในเด็กและวัยรุ่นที่มารับการรักษาที่โรงพยาบาลศิริราช. วารสารสมาคมจิตแพทย์แห่งประเทศไทย, 58(4), 323-332.
Bandura, A. (1989). Human agency in social cognitive theory. American Psychologist, 44(9), 1175-1184.
Benson, P. L., Scales, P. C., Hamilton, S. F., & Sesma, A. (2007). Positive Youth Development: Theory, Research, and Applications. In Handbook of Child Psychology : theoretical models of human development (Vol. 1): Wiley Online Library.
Bronfenbrenner, U., & Morris, P. A. (1998). Handbook of child psychology: Theoretical models of human development. New York: John Wiley & Sons Inc.
Dobson, K. S. (1988). Handbook of Cognitive – Behavioral Therapy. London: Hutchinson.
Dvorsky, M. R., Kofler, M. J., Burns, G. L., Luebbe, A. M., Garner, A. A., Jarrett, M. A., ... & Becker, S. P. (2019). Factor structure and criterion validity of the five Cs model of positive youth development in a multi-university sample of college students. Journal of youth and adolescence, 48(3), 537-553.
Forrest-Bank, S. S., Nicotera, N., Anthony, E. K., & Jenson, J. M. (2015). Finding their Way: Perceptions of risk, resilience, and positive youth development among adolescents and young adults from public housing neighborhoods. Children and Youth Services Review, 55(1), 147-158.
Freire, T., Lima, I., Teixeira, A., Araújo, M. R., & Machado, A. (2018). Challenge: To Be+. A group intervention program to promote the positive development of adolescents. Children and Youth Services Review, 87(1), 173-185.
George, D., & Mallery, P. (2003). SPSS for Windows step by step: A simple guide and reference 11.0 update (4th ed.). Boston: Allyn & Bacon.
Grotberg, E. H. (1995). A guide to promoting resilience in children: Strengthening the human spirit (Vol. 8). The Hague, Netherlands: Bernard van leer foundation.
Lerner, R. M. (2005). Promoting positive youth development: Theoretical and empirical bases. Paper presented at the White paper prepared for the workshop on the science of adolescent health and development, national research council/institute of medicine. Washington, DC: National Academies of Science.
Sanders, J., Munford, R., & Liebenberg, L. (2017). Positive youth development practices and better outcomes for high risk youth. Child Abuse Negl, 69(1), 201-212.
Steinberg, L. (2014). Adolescent Development (10th ed.). McGraw-Hill Education
Wheeler, S. C., DeMarree, K. G., & Petty, R. E. (2014). Understanding Prime-to-Behavior Effects: Insights from the Active-Self Account. Social Cognition, 32(Supplement), 109-123.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2023 วารสารสุขภาพกับการจัดการสุขภาพ

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
