การศึกษาการจัดอัตรากำลังตามกิจกรรมการพยาบาลของพยาบาลวิชาชีพหออภิบาลผู้ป่วยระบบทางเดินหายใจด้านศัลยกรรม โรงพยาบาลพระนั่งเกล้า
คำสำคัญ:
กิจกรรมการพยาบาล, อัตรากำลังพยาบาล, หออภิบาลผู้ป่วยระบบทางเดินหายใจด้านศัลยกรรมบทคัดย่อ
การวิจัยเชิงพรรณนาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาภาระงานของพยาบาลวิชาชีพจำแนกตามประเภทผู้ป่วย และเพื่อศึกษาการจัดอัตรากำลังตามกิจกรรมการพยาบาลของพยาบาลวิชาชีพ หออภิบาลผู้ป่วยระบบทางเดินหายใจด้านศัลยกรรม โรงพยาบาลพระนั่งเกล้า กลุ่มตัวอย่าง คือ ผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาในระยะเวลา 30 วัน จำนวน 36 คน และพยาบาลวิชาชีพ จำนวน 36 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย 1) คู่มือการจำแนกประเภทผู้ป่วย 2) คู่มือพจนานุกรมกิจกรรมการพยาบาล และ3) แบบบันทึกเวลาที่สร้างขึ้นให้สอดคล้องกับคู่มือการจำแนกประเภทผู้ป่วยและพจนานุกรมกิจกรรมการพยาบาล ผ่านการตรวจสอบความตรงตามเนื้อหาจากผู้ทรงคุณวุฒิ 3 คน โดยถือเกณฑ์ที่ผู้ทรงคุณวุฒิยอมรับ ร้อยละ 80 และตรวจสอบความเที่ยงได้ค่าดัชนีความสอดคล้องของการสังเกต เท่ากับ 0.94 ทำการเก็บรวบรวมข้อมูล ตั้งแต่วันที่ 1 – 30 ตุลาคม 2565 สถิติที่ใช้ในการวิจัยคือ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และใช้สูตรคำนวณอัตรากำลังของ สำนักการพยาบาล กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข (2551)
ผลการวิจัย พบว่า ปริมาณเวลาที่พยาบาลวิชาชีพใช้ในการปฏิบัติกิจกรรมการพยาบาลทั้งหมดเฉลี่ยต่อราย จำแนกตามประเภทผู้ป่วย ประกอบด้วย ผู้ป่วยหนัก 14.59 ชั่วโมง ผู้ป่วยหนักมาก 13.69 ชั่วโมง และผู้ป่วยวิกฤต 13.20 ชั่วโมง และอัตรากำลังที่ควรจะเป็นของพยาบาลวิชาชีพ หออภิบาลผู้ป่วยระบบทางเดินหายใจด้านศัลยกรรม โรงพยาบาลพระนั่งเกล้า เท่ากับ 56 คน
เอกสารอ้างอิง
กฤติญาดา เกื้อวงศ์. (2563). การพัฒนาตนเองของพยาบาลใหม่ที่ปฏิบัติงานในหอผู้ป่วยวิกฤต โรงพยาบาลมหาวิทยาลัย (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต). จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, กรุงเทพฯ.
กฤษดา แสวงดี. (2545). แนวทางการจัดอัตรากำลังทางการพยาบาล. กรุงเทพฯ: องค์การรับส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์.
พรพรรณ อารีราษฎร์. (2558). การจัดอัตรากำลังบุคลากรทางการพยาบาล หน่วยอุบัติเหตุและฉุกเฉิน โรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต). จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, กรุงเทพฯ.
ปิยะนุช ผลานิผล. (2551). การจัดอัตรากำลังบุคลากรทางการพยาบาล หอผู้ป่วยอายุรกรรม โรงพยาบาล สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต). จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, กรุงเทพฯ.
วิจิตร ศรีสุพรรณ และกฤษดา แสวงดี. (2555). ข้อเสนอเชิงนโยบายในการแก้ปัญหาการขาดแคลนพยาบาลวิชาชีพในประเทศไทย. วารสารสภาการพยาบาล, 27(1), 5-12.
วันชัย ริจิรวนิช. (2545). การศึกษาการทำงาน: หลักการและกรณีศึกษา. กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
สำนักการพยาบาล กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข. (2551). มาตรฐานการพยาบาลในโรงพยาบาล (ปรับปรุงครั้งที่ 2). นนทบุรี: องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก.
Gillies, D. A. (1994). Nursing management: A system approach. (3rd ed.). W. B. Saunders.
Johnson, K. A. T. H. E. R. I. N. E. (1984). A practical approach to patient classification. Nursing Management, 15(6), 39-46.
Urden, L. D., & Roode, J. L. (1997). Work sampling: a decision-making tool for determining resources and work redesign. JONA: The Journal of Nursing Administration, 27(9), 34-41.
Warstler, M. E. (1972). Some management techniques for nursing service administrators. Journal of Nursing Administration, 2(2), 25-34.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2023 วารสารสุขภาพกับการจัดการสุขภาพ

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
