ภาวะสุขภาพของเด็กวัยเรียนระดับประถมศึกษาเขตสาทร กรุงเทพมหานคร
คำสำคัญ:
ภาวะสุขภาพ, ปัญหาสุขภาพของเด็กวัยเรียน, ปัจจัยการเกิดพฤติกรรมสุขภาพบทคัดย่อ
การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) สำรวจความชุกของปัญหาสุขภาพ 2) ศึกษาพฤติกรรมสุขภาพ และ 3) ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยนำ ปัจจัยเอื้อ และปัจจัยเสริม กับพฤติกรรมด้านฟัน โภชนาการ และสุขภาพจิตของเด็กวัยเรียน กลุ่มตัวอย่าง คือ นักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เขตสาทร กรุงเทพมหานคร จำนวน 458 คน เก็บข้อมูลโดยให้ตอบแบบประเมินด้วยตนเอง เครื่องมือการวิจัยประกอบด้วย 3 ชุด คือ 1) แบบประเมินภาวะสุขภาพและพฤติกรรมด้านฟัน โภชนาการ 2) แบบประเมินความฉลาดทางอารมณ์ 3) แบบประเมินพฤติกรรมโดยกรมสุขภาพจิต มีค่าสัมประสิทธิสหสัมพันธ์ แอลฟ่าครอนบัค เท่ากับ .89, .90 และ .79 ตามลำดับ วิเคราะห์ข้อมูลด้วยความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และ การทดสอบไคสแควร์
ผลการวิจัยพบว่า นักเรียนมีน้ำหนักต่ำและสูงกว่าเกณฑ์ ร้อยละ 5.4 และ 11.2 ตามลำดับ มีภาวะเตี้ย ร้อยละ 7.2 ฟันผุ ร้อยละ 50.4 มีปัญหาความฉลาดทางอารมณ์ ร้อยละ 27.5 และมีปัญหาด้านพฤติกรรม ร้อยละ 22.3 -31.0 ปัจจัยที่สัมพันธ์กับด้านโภชนาการ คือ การรับรู้น้ำหนักของตนเองที่ถูกต้อง การมีวินัยในกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับโภชนาการ การได้ประโยชน์จากการมีรูปร่างที่เหมาะสม ค่า = 10.873, 11.554, 9.211 ตามลำดับ ด้านอารมณ์ คือ ผู้ปกครองมีเวลาให้อย่างสม่ำเสมอ การมีเป้าหมายในงานอาชีพ การมีแรงบันดาลใจ ค่า
= 9.583, 7.181 และ 14.402 ตามลำดับ ด้านพฤติกรรม คือ ผู้ปกครองมีเวลาให้อย่างสม่ำเสมอ การมีเป้าหมายในงานอาชีพ และการได้รับคำชมเชยหรือรางวัล ค่า
= 8.457, 5.782 และ 3.957 ตามลำดับ ข้อเสนอแนะ การจัดกิจกรรมในโรงเรียนเพื่อแก้ไขพฤติกรรมด้านโภชนาการควรเน้นการรับรู้น้ำหนักของนักเรียนที่ถูกต้อง และประโยชน์จากการมีพฤติกรรมที่เหมาะสม สำหรับในด้านพฤติกรรม ต้องให้ทางครอบครัว หรือโรงเรียนมีการพูดคุยกับนักเรียน แนะนำรายการโทรทัศน์ที่เหมาะสม และสร้างแรงบันดาลใจในงานอาชีพ
เอกสารอ้างอิง
กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน. (2560). จำนวนร้อยละของคดีที่เป็นการกระทำผิดซ้ำที่ดำเนินคดีโดยสถานพินิจทั่วประเทศ [ออนไลน์]. สืบค้น 8 มกราคม 2561, จาก https://djop.thaijobjob.com/201701/index.php
กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข. (2560). แบบประเมินความฉลาดทางอารมณ์เด็กอายุ 6-11 ปี. [ออนไลน์]. สืบค้น 8 มกราคม 2561, จาก https://dmh-elibrary.org/items/show/40
กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข. (2560). แบบประเมินจุดแข็งและจุดอ่อน (SDQ). [ออนไลน์] สืบค้น 8 มกราคม 2561, จาก http:// www.appcenter.mhc5.net/sdq/
กลุ่มประเมินผลและนิเทศติดตาม กองแผนงานกรมอนามัย. (2563). รายงานประจำปี 2563 กรมอนามัย. กรุงเทพฯ: อักษรกราฟฟิคแอนด์ดีไซน์.
คณะกรรมการตรวจสอบและประเมินผล ภาคราชการกลุ่มกระทรวง คณะที่ 2. (2562). รายงานการพัฒนาเด็กปฐมวัย. [ออนไลน์]. สืบค้นเมื่อ 9 มกราคม 2560 จาก https://www.nesdc.go.th/ewt_w3c/ewt_dl_link.php?nid=10104
ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน, วิมลรัตน์ วันเพ็ญ, ศศกร วิชัย, พัชรินทร์ อรุณเรือง, จันทร์ชนก โยธินชัชวาล, ธนโชติ เทียมแสง, หนึ่งฤทัย ยี่สุ่นศรี, ธัชกร ป้ายงูเหลือม, และนภาพรรณ ล่าเต๊ะ. (2556). การสำรวจสถานการณ์ปัญหาพฤติกรรมเสี่ยงและการติดเกมในนักเรียน โรงเรียนนำร่องระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน. นนทบุรี: สถาบันสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่นราชนครินทร์ กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข.
วิชัย เอกพลากร, ลัดดา เหมาะสุวรรณ, นิชรา เรืองดารกานนท์, วราภรณ์ เสถียรนพเกล้า, และหทัยชนก พรรคเจริญ. (2557). รายงานสำรวจสุขภาพประชาชนไทยโดยการตรวจร่างกายครั้งที่ 5 ฉบับสุขภาพเด็ก พ.ศ. 2557. กรุงเทพฯ: สถาบันวิจัยระบบสาธาณสุข.
วนิษฐา เหลืออรุณ, สุวิมล ตริกานันท์, และบุญมี พันธุ์ไทย. (2559). การศึกษาเปรียบเทียบความสามารถในการเอาชนะอุปสรรคของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 สังกัดกรุงเทพมหานครที่มีรูปแบบการอบรมเลี้ยงดูต่างกัน. พิฆเนศวร์สาร, 12(1), 87-101.
สถาบันราชานุกูล. (2559). การสำรวจสถานการณ์ระดับสติปัญญา (IQ) และความฉลาดทางอารมณ์ (EQ) เด็กไทยวัยเรียน และ ปัจจัยที่เกี่ยวข้อง. [ออนไลน์]. สืบค้นเมื่อ 9 มกราคม 2560 จาก https://th.rajanukul.go.th/preview-5122.html
สำนักทันตสาธารณสุข กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข. (2561). รายงานผลการสำรวจสภาวะสุขภาพช่องปากแห่งชาติ ครั้งที่ 8 ประเทศไทย พ.ศ.2560. นนทบุรี: สามเจริญพานิชย์ จำกัด.
พงษ์ศักดิ์ น้อยพยัคฆ์, วินัดดา ปิยะศิลป์, วันดี นิงสานนท์, และประสบศรี อึ้งถาวร. (2557). Guideline in Child Health Supervision. กรุงเทพฯ: สรรพสาร จำกัด.
อัจศรา ประเสริฐสิน. (2553). ผลกระทบของพฤติกรรมการรับสื่ออินเตอร์เน็ตต่อสุขภาพกายและสุขภาพจิตของเด็กและเยาวชนไทย: กรณีศึกษากรุงเทพมหานคร. วารสารศรีปทุมปริทัศน์ ฉบับมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์, 10(2), 54-62.
Green, L. W., & Kreuter, M. W. (1999). Health promotion planing third edition an educational and ecological approach (3rd ed.). California: Mayfield publishing company.
World Health Organization. (2013). Oral Health Surveys - Basic Methods. (5rd ed.). Geneva: World Health Organization Library.
Yamane, T. (1973). Statistics: An introductory statistics (Second Edition). New York: Harper & Row.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2021 วารสารสุขภาพกับการจัดการสุขภาพ

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
