บทบาทของพยาบาลในการบรรเทาสาธารณภัย: กรณีการสังหารหมู่ที่จังหวัดนครราชสีมา
คำสำคัญ:
บทบาทของพยาบาล, การบรรเทาสาธารณภัย, การสังหารหมู่บทคัดย่อ
บทความนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อนำเสนอบทบาทของพยาบาลในการบรรเทาสาธารณภัย จากกรณีการสังหารหมู่ที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งใน จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งเป็น สาธารณภัย ที่เกิดจากการกระทำของมนุษย์ ส่งผลกระทบต่อประชาชนชาวไทย พยาบาล ต้องนำความรู้ ความสามารถ ความฉับไว และทักษะการพยาบาลฉุกเฉินมาใช้ในการปฏิบัติงาน โดยบทบาทของพยาบาลในการบรรเทาสาธารณภัย มี 3 ระยะ คือ 1) ระยะก่อนเกิดภัย ซึ่งเน้นการป้องกัน การให้ความรู้แก่ประชาชนให้สามารถวางแผน ป้องกัน และรับมือกับเหตุการณ์ด้วยวิธี “หนี-ซ่อน-สู้” ส่วนบุคลากรทางการแพทย์ต้องมีการซ้อมแผนปฏิบัติงานเพื่อเตรียมความพร้อม 2) ขณะเกิดภัย พยาบาลเน้นการประสานงาน การแบ่งทีม การคัดแยกผู้ป่วย เพื่อช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ และ 3) หลังเกิดภัย พยาบาลติดตามเยี่ยมบ้านผู้ประสบภัยและครอบครัวผู้สูญเสีย ดูแลฟื้นฟูสภาพจิตใจภายหลังเกิดเหตุ งดรับสื่อ ข้อมูลข่าวสารที่เกินจริง รับฟังด้วยความเห็นใจ ใส่ใจ และเข้าใจ เป็นการเยียวยาจิตใจที่ดี
บทความนี้มุ่งหวังให้พยาบาลมีความรู้ความเข้าใจเพื่อเตรียมความพร้อมในการรับมือกับสาธารณภัยที่เกิดจากการกระทำของมนุษย์ที่มีแนวโน้มจะเพิ่มมากขึ้นในอนาคต และสถาบันการศึกษาทางด้านการพยาบาลควรบรรจุหัวข้อการพยาบาลสาธารณภัยและการดูแลผู้ประสบภัยไว้ในหลักสูตรในระดับปริญญาตรี เพื่อพัฒนาคุณภาพของพยาบาลให้สูงขึ้นในการดูแลและช่วยเหลือผู้ป่วยในกรณีเกิดสาธารณภัยได้ต่อไป
เอกสารอ้างอิง
ขนิษฐา รัตนกัลยา. (2560). การเตรียมพร้อมพยาบาลเพื่อรับมือภัยพิบัติ. เชียงรายเวชสาร, 9(2), 147-156.
ปราโมทย์ ถ่างกระโทก. (2563). การวิเคราะห์เปรียบเทียบบทบาทพยาบาลกับการจัดการสาธารณภัย กรณีศึกษา:ทหารกราดยิงที่นครราชสีมา. สืบค้นจาก, https://www.facebook.com/663762094141210/photos/pcb.851487665368651/851487095368708/?type=3&theater
วรรณเพ็ญ อินทร์แก้ว, และสมจินดา ชมพูนุท. (2557). การพยาบาลสาธารณภัย. กรุงเทพฯ: บริษัทบียอนด์ พับลิสซิ่ง จำกัด.
ราชวิทยาลัยจิตแพทย์แห่งประเทศไทย. (2563). ประกาศราชวิทยาลัยจิตแพทย์แห่งประเทศไทยที่ 3/2563 เรื่อง ข้อเสนอแนะสำหรับเหตุการณ์รุนแรงสะเทือนขวัญบริเวณศูนย์การค้าและพื้นที่ ภายในจังหวัดนครราชสีมา. กรุงเทพฯ: กองจิตเวชและปรสาทวิทยา โรงพยาบาลพระมงกุฏเกล้า.
รัฐพลี ภาคอรรถ และคณะ. (2563). การเอาตัวรอดจากการกราดยิง Escape and Survive in Mass Shooting. กรุงเทพฯ: โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย.
สมาคมจิตแพทย์แห่งประเทศไทย. (2563). ผลกระทบจากการประสบเหตุการณ์รุนแรง Acute Stress Disorder; ASD. สืบค้นจาก https://www.facebook.com/ThaiPsychiatricAssociation/
ศุภลักษณ์ ธนาโรจน์, ศรีนวล สถิติวิทยานันท์, และ รงุ่นภา จันทรา. (2557). สมรรถนะของพยาบาลด้านการจัดการภัยพิบัติ. วารสารวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี กรุงเทพ, 3(3), 35-44.
อนุชิต ไกรวิจิตร. (2563). “หนี-ซ่อน-สู้” และเทคนิคการเอาตัวรอด รับมือสถานการณ์ร้าย” สืบค้นจาก https://thestandard.co/escape-andsurvive-in-mass-shooting/
อรุณรัตน์ สิริภักดีกาญจน์, และวาสินี วิเศษฤทธิ์. (2557). การศึกษาการจัดการภาวะภัยพิบัติทางการพยาบาล. วารสารพยาบาลทหารบก, 15(2), 348-359.
อุบล ยี่เฮ็ง. (2553). การเผชิญภัยพิบัติถอดบทเรียน: กรณีความไม่สงบทางการเมืองในเขตกรุงเทพมหานคร (12 มีนาคม – 22 พฤษภาคม 2553). วารพยาบาลทหารบก, 11(ฉบับพิเศษ), 11-15.
Center for research on Epidemiology of Disaster. (2009). Disaster Category Classification and peril Terminology for Opertional
Purposes. Retrived Feb 24, 2020, from https://www.cred.be/sites/defaul/files/DisCatClass_264.pdf
Below, R., Wirtz, A., & Guha-Sapir, D. (2009). Disaster category classification and peril terminology for operational purposes (No. UCL-Université Catholique de Louvain).
Katchwattana, P. (2020). ถอดบทเรียนกราดยิงโคราชรับมือทุกวิกฤตอย่างสร้างสรรค์. สืบค้นจาก https://www.salika.co/2020/02/10/lesson-learn-from-korat-tragedy/.
Hingkanont, P. (Eds). (2011). Community Nursing and Primary Medical Care 8-15. (11th ed.). Nonthaburi: Sukhothai Thammathirat Open University Press
Wasawa, L. (2020). กราดยิงโคราช: 24 ชั่วโมงแรกของผู้รอดชีวิตและญาติผู้เสียชีวิต. BBC Thai News. สืบค้นจาก https://www.bbc.com/thai/thailand-51435700
