เปรียบเทียบความสุขของผู้สูงอายุไทยยุค 4.0 ที่อาศัยอยู่ในชุมชนกับผู้สูงอายุที่อาศัยอยู่ในสถานบริการผู้สูงอายุ

ผู้แต่ง

  • อรพรรณ ลือบุญธวัชชัย รองอธิการบดีฝ่ายวิชาการ วิทยาลัยเซนต์หลุยส์
  • อัชฌา ชื่นบุญ สำนักวิชาศึกษาทั่วไป วิทยาลัยเซนต์หลุยส์

คำสำคัญ:

ความสุขของผู้สูงอายุไทยยุค 4.0, ชุมชน, สถานบริการผู้สูงอายุ

บทคัดย่อ

การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ ศึกษาความสุขของผู้สูงอายุไทยยุค 4.0 ที่อาศัยอยู่ในชุมชนและที่อาศัยอยู่ในสถานดูแลผู้สูงอายุ กลุ่มตัวอย่าง คือ ผู้สูงอายุไทย จำนวน 120 คน เป็นผู้สูงอายุที่อาศัยอยู่ในชุมชนจำนวน 60 คน และผู้สูงอายุที่อาศัยอยู่ในสถานดูแลผู้สูงอายุ จำนวน 60 คน เครื่องมือวิจัยคื แบบสอบถามจำนวน 30 ข้อ ซึ่งพัฒนามาจากแบบประเมินสุขภาพจิตของผู้สูงอายุ และแบบประเมินความสุขของคนไทย ของกรมสุขภาพจิต หาดัชนีความตรงได้เท่ากับ 0.87และ ค่าความเที่ยงได้เท่ากับ 0.93 วิเคราะห์ข้อมูล หาค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และทดสอบค่าเฉลี่ยของความแตกต่างระหว่างความสุขของผู้สูงอายุในชุมชนและในสถานดูแลผู้สูงอายุด้วยสถิติทดสอบค่าที ผลการวิจัยพบว่า ผู้สูงอายุไทยยุค 4.0 มีความสุขในระดับมาก โดยมีค่าเฉลี่ยโดยรวม 3.52 ค่าเฉลี่ยจำแนกตามกลุ่มพบว่า ผู้สูงอายุในชุมชนมีความสุขในระดับมากมีค่าเฉลี่ย 3.60 ในขณะที่ผู้สูงอายุในสถานดูแลผู้สูงอายุมีความสุขในระดับปานกลางมีค่าเฉลี่ย 3.44 และค่าเฉลี่ยรายด้านพบว่า ผู้สูงอายุทั้งที่อาศัยในชุมชนและในสถานดูแลผู้สูงอายุมีความสุขด้านจิตใจในระดับมากมีค่าเฉลี่ย 3.77 และ 3.52 ตามลำดับ ในขณะที่ด้านร่างกายพบว่าผู้สูงอายุทั้งในชุมชนและในสถานดูแลผู้สูงอายุทั้ง 2 กลุ่ม มีความสุขระดับปานกลาง โดยมีค่าเฉลี่ย 3.49 และ 3.46 ตามลำดับ เมื่อเปรียบเทียบความสุขของผู้สูงอายุในชุมชนและในสถานดูแลผู้สูงอายุในภาพรวมพบว่าผู้สูงอายุในชุมชนมี ความสุขมากกว่าผู้สูงอายุในสถานดูแลผู้สูงอายุอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ .05 จากผลการศึกษาครั้งนี้มีข้อเสนอแนะคือ ผู้สูงอายุไทยยุค 4.0 ทั้งที่อาศัยอยู่ในชุมชนและในสถานดูแลผู้สูงอายุ ควรได้รับการสนับสนุนให้มีโอกาสอยู่กับครอบครัวที่บ้านในชุมชน ได้ทำกิจกรรมร่วมกับครอบครัวหรือสังคม โดยจัดหาสิ่งสนับสนุนและจัดให้เข้าถึงเทคโนโลยีที่จำเป็นพอควร รวมถึงจัดสภาพแวดล้อมให้ปลอดภัยเพื่อเพิ่มโอกาสในการทำกิจกรรมที่เหมาะสมจะสามารถช่วยให้ผู้สูงอายุมีความสุขยิ่งขึ้นได้

เอกสารอ้างอิง

กนกกาญจน์ บัญชาบุษบง. (2560). วิถีใหม่“ผู้สูงอายุ” ยุค 4.0 ส่งความสุขแบบ “ออนไลน์” เชื่อมสัมพันธ์ครอบครัว. มติชน, สืบค้นจาก https://www.matichon.co.th/lifestyle/news_517489.

จรรญารักษ์ พันธุ์ยิ้ม. (2557). คุณภาพชีวิตและความต้องการของผู้สูงอายุในสถานสงเคราะห์คนชรา จังหวัดนครปฐม (วิทยานิพนธ์ศิลปศาสตรมหาบัณทิต). มหาวิทยาลัยศิลปากร, กรุงเทพฯ.

เนื่องวงศ์ ทวยเจริญ. (2559). เวอร์ชันใหม่ ‘ประเทศไทย4.0. ฐานเศรษฐกิจ. สืบค้นจาก https://www.thansettakij.com/content/columnist/48324

บุญเรือง ไตรเรืองวรวัฒน์. (2560). กรมสุขภาพจิต เปิดเวทีวิชาการสุขภาพจิตและจิตเวชผู้สูงอายุระดับชาติ แนะ ยอมรับ ปรับตัวอยู่อย่างพอดี มีคุณค่า ใช้ 5 สุข ในยุค 4.0. คมชัดลึก. สืบค้นจาก https://www.komchadluek.net/news/edu-health/288729.

ปิยภรณ์ เลาหบุตร. (2557). คุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุในชุมชนหมู่ 7 ตำบลพลูตาหลวง อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี (วิทยานิพนธ์รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต). มหาวิทยาลัยบูรพา, ชลบุรี.

วีรณัฐ โรจนประภา. (2560). พฤติกรรมการใช้เทคโนโลยที่มีผลต่อระดับความสุขของผู้สูงอายุในเขตกรุงเทพมหานคร. วารสารวิชาการบัณฑิตวิทยาลัยสวนดุสิต, 13(1), 89-104.

อรพรรณ ลือบุญธวัชชัย, สุวิมล จอดพิมาย และพรรณภา ส่องแสง. (2561). การศึกษาประสบการณ์ภาวะซึมเศร้าและความเศร้าโศกจากการสูญเสียของผู้สูงอายุไทย. วารสารการพยาบาลจิตเวชและสุขภาพจิต, 32(3), 33-47.

Best, J.W. (1981). Research in education. 4thed. New Jersey: Prentice Hall, 184

Sanyasayan. (2561). Active Aging ดีไซน์สังคม“กรุณา” ผู้สูงวัย ปลดภาระสู่โอกาส. สืบค้นจาก https://www.real-inspire.com/2018/active-aging-thailand/pdf.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2020-06-28

รูปแบบการอ้างอิง

ลือบุญธวัชชัย อ., & ชื่นบุญ อ. (2020). เปรียบเทียบความสุขของผู้สูงอายุไทยยุค 4.0 ที่อาศัยอยู่ในชุมชนกับผู้สูงอายุที่อาศัยอยู่ในสถานบริการผู้สูงอายุ. วารสารสุขภาพกับการจัดการสุขภาพ, 6(1), 58–70. สืบค้น จาก https://he01.tci-thaijo.org/index.php/slc/article/view/240143

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิจัย