ความสามารถในการทรงตัวของผู้สูงอายุ ศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุ บ้านบางแค
คำสำคัญ:
การทรงตัว, ผู้สูงอายุ, การประเมินความสามารถในการทรงตัวบทคัดย่อ
ปัจจุบันประชากรผู้สูงอายุมีจำนวนเพิ่มขึ้น เมื่ออายุมากขึ้นจะส่งผลให้เกิดความเสื่อมทางร่างกาย เช่น ระบบ ประสาทรับความรู้สึก สมรรถภาพทางด้านร่างกาย ระบบกระดูกกล้ามเนื้อ และการควบคุมการทรงตัวของร่างกาย สาเหตุ ดังกล่าวยังส่งผลต่อการดำเนินชีวิตของผู้สูงอายุ ความสามารถในการทำกิจวัตรประจำวันและการเดิน ซึ่งอาจทำให้ ผู้สูงอายุเสี่ยงต่อการหกล้ม วัตถุประสงค์ของการศึกษาในครั้งนี้ เพื่อประเมินความสามารถในการทรงตัว ความสัมพันธ์ ระหว่างความสม่ำเสมอของการออกกำลังกาย และลักษณะรองเท้าต่อความสามารถในการทรงตัวของผู้สูงอายุ ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป ที่อาศัยอยู่ศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุ บ้านบางแค ระเบียบวิธีวิจัยโดยให้ผู้สูงอายุตอบ แบบสอบถามข้อมูลทั่วไป ข้อมูลทางด้านสุขภาพ และได้รับการประเมินความสามารถในการทรงตัวโดยใช้ Timed up and go test ผลการศึกษาพบว่า ผู้สูงอายุจำนวน 16 คน ที่ผ่านตามเกณฑ์การคัดเข้าและยินยอมเข้าร่วมงานวิจัย มีอายุ ระหว่าง 65-85 ปี (75.18+5.96) มีค่าเฉลี่ย Timed up and go test เท่ากับ 10.24 ± 2.19 วินาที เมื่อพิจารณา ตามเกณฑ์การเสี่ยงต่อการล้ม (TUGT มากกว่า 12 วินาที) พบว่า ผู้สูงอายุจำนวน 6 คน (ร้อยละ 37.5) มีความเสี่ยง ต่อการหกล้ม โดยส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุที่อายุระหว่าง 70-79 ปี ขณะที่ ร้อยละ 62.5 (10 คน) ไม่มีความเสี่ยงต่อการ ล้ม เมื่อพิจารณาจากความสม่ำเสมอของการออกกำลังกายและลักษณะรองเท้าพบว่า ไม่มีความสัมพันธ์อย่างมีนัยสำคัญ กับร้อยละของผู้ที่มีความเสี่ยงและไม่มีความเสี่ยงต่อการหกล้ม สรุปผลการศึกษา กลุ่มตัวอย่างผู้สูงอายุที่อาศัยอยู่ศูนย์ พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุ บ้านบางแค แสดงให้เห็นแนวโน้มการมีความเสี่ยงต่อการหกล้ม
เอกสารอ้างอิง
ปัทมา ว่าพัฒนวงศ์ และปราโมทย์ ประสาทกุล. สถาบันวิจัย ประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล. (2549). การฉายภาพประชากรของประเทศไทย พ.ศ.2548-2568. สืบค้นวันที่ 10 กรกฏาคม 2559,จาก http://www.ipsr.mahidol.ac.th/ IPSR/AnnualConference/ConferenceII/ Article/Download/Article02.pdf
พรศิริ พฤกษะศรี, วิภาวี คงอินทร์, และ ปิยะนุช จิตตนูนท์. (2008). ผลของโปรแกรมการออกกำลังกาย ด้วยลีลาศต่อการทรงตัวของผู้สูงอายุที่มีความเสี่ยงต่อการหกล้ม. สงขลานครินทร์เวชสาร, 26(4), น. 324-337.
ทิวาพร ทวีวรรณกิจ, สุกัลยา อมตฉายา, พรรณี ปึงสุวรรณ, และ ลักขณา มาทอ. (2553). การทรงตัว การล้ม และคุณภาพชีวิตในผู้สูงอายุที่เคลื่อนไหว และไม่ เคลื่อนไหวร่างกายเป็นประจำ. วารสารเทคนิค การเเพทย์ และกายภาพบำบัด, 22 (3), น. 71-279.
ลักขณา มาทอ, นริศรา บุตรสาธรรม, วิชญานนท์ ทุมมา, ขวัญชนก วิมูล, พรรณี ปึงสุวรรณ, และ สุกัลยา อมตฉายา. (2555). ความสามารถในการทรงตัว ของผู้สูงอายุในเขตอำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น. วารสารเทคนิคการเเพทย์ และกายภาพบำบัด, 24(2), น. 201-7.
อารยา เอกปริญญา และ ผศ.ดร.สมพิศ ฟูสกุล. (2554). รูปแบบพื้นผิวกันกระแทกภายในห้องน้ำสำหรับ ผู้สูงอายุ. วารสารวิชาการคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ สจล., 12, น. 45-56.
Achkar, C.M., Lenoble-Hoskovec, C., Paraschiv- Ionescu, A., Major, K., Büla, C., & Aminian K. (2016). Physical behavior in older persons during Daily life: Insights from instrumented shoes. Sensors, 16, 1225, pp. 1-18.
American Geriatrics Society. (2010). AGS/BGS Clinical Practice Guideline: Prevention of Fall in Older Persons, Retrieved July 12, 2016 จาก http://www.americangeriat rics.org/files/ documents/health_care_ pros/Falls.Summary.Guide.pdf. 1-4.
Alexandre, T.S., Meira, D.M., Rico, N.C., & Mizuta, S.K. (2012). Accuracy of Timed up and go test for screening risk of falls among community-dwelling elderly. Rev Bras Fisioter, 16(5), pp. 381-8.
Balzer, K., Bremer, M., Schramm, S., Luhmann, D., & Raspe, H. (2012). Falls prevention for the elderly. GMS Health Technology Assessment 2012, Vol. 8, ISSN 1861- 8863. pp. 1-18. Retrieved Sep 17, 2017, from https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/ PMC3334922/pdf/HTA-08-01.pdf.
Khaje-Bishakl, Y, Payahool, L, Pourghasem, B, & Jafarabadi, M.A. (2014). Assessing the Quality of Life in Elderly people and related factors in Tabriz, Iran. Journal of Caring Sciences, 3(4), pp. 257-263.
Petrofsky, J.S., Cuneo, M., Dial, R., Pawley, A.K., & Jennifer, H. J. (2005). Core strengthening and balance in the Geriatric population. The Journal of Applied Research, 5(3), pp. 423-433.
Van Iersel, M.B., Munneke, M, Esslink, R.A., Benraad, C.E., & Olde Rikkert, M.G. (2008). Gait velocity and the Timed-UPand- Go test were sensitive to changes in mobility in frail elderly patients. J Clin Epidemiol, 61(2), pp. 186-191.
Weinstein, M. & Booth, J. (2006). Preventing falls in older adults: a multifactorial approach. Home Health Care Manag and Pract, 19, pp. 45–50. doi: 10.1177/1084822 306292232.
