การพัฒนาคุณภาพการวางแผนจำหน่ายสำหรับผู้ป่วยโรคไตวายระยะสุดท้ายที่ได้รับการล้างไตทางช่องท้องอย่างต่อเนื่อง โรงพยาบาลนครพิงค์
คำสำคัญ:
การพัฒนาคุณภาพ, การวางแผนจำหน่าย, การล้างไตทางช่องท้องบทคัดย่อ
การวิจัยเชิงปฏิบัติการนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาคุณภาพการวางแผนจำหน่าย และศึกษาปัญหาอุปสรรคเกี่ยวกับการวางแผนจำหน่ายผู้ป่วยโรคไตวายระยะสุดท้ายที่ได้รับการล้างไตทางช่องท้องอย่างต่อเนื่อง โรงพยาบาลนครพิงค์ กลุ่มตัวอย่างคือ ผู้ป่วย จำนวน 25 คน ผู้ดูแล จำนวน 25 คน และทีมสหสาขาวิชาชีพ จำนวน 103 คน เครื่องมือในการศึกษา ได้แก่ 1) แนวคำถามสัมภาษณ์ผู้ป่วย ผู้ดูแล และทีมพัฒนาเกี่ยวกับการวางแผนจำหน่าย 2) รูปแบบการวางแผนจำหน่าย 3) แบบบันทึกอุบัติการณ์การนอนรักษาในโรงพยาบาล 4) แบบตรวจสอบการปฏิบัติตามแผนจำหน่าย 5) แบบประเมินความรู้ความสามารถในการดูแลตนเอง 6) แนวคำถามเกี่ยวกับปัญหาและข้อเสนอแนะของการวางแผนจำหน่าย และ 7) แบบประเมินความพึงพอใจของผู้ป่วย ผู้ดูแล และทีมสหสาขาวิชาชีพต่อแผนการจำหน่าย ซึ่งผู้ศึกษาและทีมพัฒนาขึ้นและได้รับการตรวจสอบคุณภาพโดยผู้ทรงคุณวุฒิ 5 ท่าน ค่าความเชื่อมั่นตามสูตรคูเดอร์-ริชาร์ดสัน 20 (KR-20) ของแบบประเมินความรู้และความสามารถในการดูแลตนเอง เท่ากับ 0.84 และ 0.89 ตามลำดับ และค่าสัมประสิทธิ์แอลฟาครอนบาค (Cronbach’s alpha coefficient) ของแบบประเมินความพึงพอใจของผู้ป่วย ผู้ดูแล และทีมสหสาขาวิชาชีพ เท่ากับ 0.87, 0.89 และ 0.93 ตามลำดับ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนา สถิติทดสอบวิลคอกซ์สัน (Wilcoxon Sign-Rank test) และการวิเคราะห์เนื้อหา (content analysis)
ผลการศึกษา พบว่า 1) ร้อยละ 94 ของทีมสหสาขาวิชาชีพสามารถปฏิบัติตามแผนจำหน่ายอยู่ในระดับดีมาก 2) ผู้ป่วยและผู้ดูแลมีความรู้ในการดูแลตนเอง ความสามารถในการเปลี่ยนน้ำยาและทำแผลช่องทางออกของสายอยู่ในระดับดีมาก และมากกว่าก่อนได้รับการวางแผนจำหน่าย (Z= 4.30, p< .001; Z= 4.05, p< .001; Z= 3.77, p< .001) 3) ระยะเวลานอนโรงพยาบาลเฉลี่ยลดลงจาก 10.39 วัน เป็น 5.12 วัน 4) ค่ารักษาพยาบาลเฉลี่ยลดลงจาก 56,463 บาทต่อราย เหลือ 23,808 บาทต่อราย 5) ผู้ป่วยและผู้ดูแลมีความพึงพอใจต่อการวางแผนจำหน่ายอยู่ในระดับมากที่สุด (Mean= 4.76, S.D. = 0.26; Mean= 4.74, S.D. = 0.36) และ 6) ทีมสหสาขาวิชาชีพมีความพึงพอใจต่อการวางแผนการจำหน่ายอยู่ในระดับมาก (Mean= 3.95, S.D. = 0.62)
ผลการศึกษานี้แสดงให้เห็นว่า การวางแผนจำหน่ายช่วยให้ทีมสหสาขาวิชาชีพสามารถเตรียมความพร้อมในการจำหน่ายผู้ป่วยได้อย่างเหมาะสม ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อผู้บริหารการพยาบาลในการกำหนดกลยุทธ์และติดตามประเมินการวางแผนจำหน่ายผู้ป่วยโรคไตวายระยะสุดท้ายที่ได้รับการล้างไตทางช่องท้องอย่างต่อเนื่องของทีมสหสาขาวิชาชีพ
เอกสารอ้างอิง
กองบริหารการสาธารณสุข สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข. การขับเคลื่อนแผนพัฒนาระบบบริการสุขภาพ (service plan) พ.ศ. 2560-2564. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จำกัด; 2560.
บัญชา สถิระพจน์ อำนาจ ชัยประเสริฐ เนาวนิตย์ นาทา และอุปถัมภ์ ศุภสินธุ์ (บรรณาธิการ). Manual of Dialysis. กรุงเทพฯ: นำอักษรการพิมพ์; 2561.
จิราพร โพธิชัย. การพัฒนาแนวปฏิบัติการวางแผนจำหน่ายผู้ป่วยสูงอายุที่ล้างไตทางช่องท้อง โรงพยาบาลร้อยเอ็ด จังหวัดร้อยเอ็ด. วิทยานิพนธ์พยาบาลศาสตรมหาบัณฑิต, สาขาวิชาการพยาบาลผู้สูงอายุ คณะพยาบาลศาสตร์, มหาวิทยาลัยบูรพา; 2557.
กิติมา เศรษฐ์บุญสร้าง และ ประเสริฐ ประสมรักษ์. การพัฒนารูปแบบการดูแลของผู้ป่วยโรคไตวายเรื้อรังระยะสุดท้ายที่ได้รับการบำบัดทดแทนไตต่อพฤติกรรมการดูแลตนเองและคุณภาพชีวิตผู้ป่วย โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชเลิงนกทา จังหวัดยโสธร. อำนาจเจริญ: มหาวิทยาลัยมหิดล วิทยาเขตอำนาจเจริญ; 2559.
เถลิงศักดิ์ กาญจนบุษย์, บรรณาธิการ. แนวปฏิบัติการล้างไตทางช่องท้อง. กรุงเทพฯ: ศิริวัฒนาอินเตอร์พริ้นท์ จำกัด (มหาชน); 2556.
ฉวีวรรณ เกตุน้อย. การพัฒนาคุณภาพการวางแผนจำหน่าย หอผู้ป่วยจักษุ โสต ศอ นาสิก โรงพยาบาลพุทธชินราช พิษณุโลก. การค้นคว้าแบบอิสระพยาบาลศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการพยาบาล. เชียงใหม่: มหาวิทยาลัยเชียงใหม่; 2556.
บานเย็น ไชยรินทร์. การพัฒนาคุณภาพการวางแผนจำหน่ายสำหรับผู้ป่วยโรคกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลันในหอผู้ป่วยวิกฤตโรคหัวใจ โรงพยาบาลนครพิงค์ จังหวัดเชียงใหม่. รายงานการศึกษาอิสระ พยาบาลศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการพยาบาล. เชียงใหม่: มหาวิทยาลัยเชียงใหม่; 2560.
รัตนาภรณ์ แซ่ลิ้ม, นงลักษณ์ ว่องวิษณุพงศ์, และ สุดจิต ไตรประคอง. ประสิทธิผลของโปรแกรมการวางแผนจำหน่ายต่อความรู้และพฤติกรรมการดูแลตนเองในผู้ป่วยโรคหลอดเลือดแดงส่วนปลายอุดตันในโรงพยาบาลสงขลานครินทร์. วารสารสภาการพยาบาล 2557;29(2):101-13.
ณีรชา บุญมาตย์. การพัฒนาคุณภาพการวางแผนจำหน่ายสำหรับผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังและครอบครัว. [วิทยานิพนธ์ปริญญาพยาบาลศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการพยาบาลครอบครัว]. ขอนแก่น: มหาวิทยาลัยขอนแก่น; 2556.
บุญนำ กลิ่นนิรันดร์ และวัชรี จินดาวัฒนวงศ์. ผลของโปรแกรมการวางแผนจำหน่ายผู้สูงอายุโรคหลอดเลือดสมองโดยการมีส่วนร่วมของทีมสหสาขาวิชาชีพ โรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์. วารสารสมาคมพยาบาลแห่งประเทศไทย สาขาภาคเหนือ 2559;22(2):63-75.
วราภรณ์ ผาทอง, รัตนาภรณ์ ภุมรินทร์, ศิริขวัญ สุธรรมกิตติคุณ และชื่นจิตต์ สมจิตต์. ประสิทธิผลของการวางแผนจำหน่ายผู้ป่วยเด็กโรคปอดอักเสบ โรงพยาบาลแพร่. วารสารโรงพยาบาลแพร่ 2563;28(2):36-49.
สดากาญจน์ เอี่ยมจันทร์ประทีป, เสาวณี ธนอารักษ์ และธวัชชัย ทีปะปาล. การวางแผนจำหน่ายผู้ป่วยที่มีปัญหากระดูกและข้อ. วารสารพยาบาลกระทรวงสาธารณสุข 2565;32(1):9-18.
ภัทรพร นาคะไพฑูรย์. การพัฒนารูปแบบการให้ข้อมูลสำหรับญาติของผู้ป่วยมะเร็ง หอผู้ป่วยอายุรกรรมชาย โรงพยาบาลพุทธชินราช พิษณุโลก. [รายงานการศึกษาอิสระ พยาบาลศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการพยาบาล]. เชียงใหม่: มหาวิทยาลัยเชียงใหม่; 2561.
หน่วยไตเทียม โรงพยาบาลนครพิงค์. สถิติหน่วยไตเทียม โรงพยาบาลนครพิงค์. ปี 2561-2563.
สุวิมล ติรกานันท์. ระเบียบวิธีการวิจัยทางสังคมศาสตร์ : แนวทางสู่การปฏิบัติ. พิมพ์ครั้งที่ 12. กรุงเทพมหานคร : สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย; 2557.
นภสร เฮ้ามาชัย. การพัฒนารูปแบบการวางแผนจำหน่ายทารกแรกเกิดน้ำหนักน้อย หอผู้ป่วยทารกแรกเกิดกึ่งวิกฤต 2ค โรงพยาบาลศรีนครินทร์. [รายงานการศึกษาอิสระ พยาบาลศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการพยาบาล]. ขอนแก่น: มหาวิทยาลัยขอนแก่น; 2557.
ภวพร สีแสด นภัสนันท์ ปิยะศิริภัณฑ์ และธิดา ศิริ. ผลของโปรแกรมการวางแผนจำหน่ายผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองตีบหรืออุดตัน หอผู้ป่วยอายุรกรรมชาย โรงพยาบาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช. วารสารวิชาการสาธารณสุขจังหวัดตาก 2564;1(2):1-17.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2023 สมาคมพยาบาลแห่งประเทศไทยฯ สาขาภาคเหนือ

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของสมาคมพยาบาลแห่งประเทศไทยฯ สาขาภาคเหนือ
เนื้อหาและข้อคิดเห็นใดๆ ที่ตีพิมพ์ในวารสารสมาคมพยาบาลฯ ถือเป็นความรับผิดชอบของผู้เขียนเท่านั้น ผู้เขียนบทความต้องศึกษารายละเอียดหลักเกณฑ์การจัดทำต้นฉบับตามที่วารสารกำหนด และเนื้อหาส่วนภาษาอังกฤษต้องได้รับการตรวจสอบจากเจ้าของภาษามาแล้ว