Effects of COVID – 19 Prevention Based on Social Cognitive Theory Program on COVID–19 Prevention Behaviors in Preschool Age
Keywords:
COVID – 19 Prevention Program, COVID – 19 Prevention Behavior, Social Cognitive Theory, Preschool age childrenAbstract
This quasi-experimental research used one group pretest posttest design. The purpose of this research was to test the results of using the COVID–19 Prevention Program Based on Social Cognitive Theory on COVID–19 preventive behaviors. The sample were 14 preschool children between 3-5 who studying in the Child Development Center Municipality, Phrae Province. This sample was obtained by using cluster random sampling–multi-stage cluster sampling which has district, sub-district, and village as sampling unit. The instruments used were divided into 2 parts. The first one was the COVID–19 Prevention Program Based on Social Cognitive Theory, and the other was the COVID–19 Prevention Behavior Assessment Form. The Content Validity Index was verified by five experts with a result of 1. The Rater Agreement Index was 0.76. Data were analyzed using dependent t-test.
The results showed that the samples had higher scores of COVID–19 prevention behaviors after receiving the COVID-19 prevention program based on Social Cognitive Theory with statistically significance level of 0.01. The mean score of COVID–19 prevention behaviors in the area of avoiding risks increased from 8.71 (SD.=4.78) to 12.86 (SD.=4.13). The mean score of self-care and society increased from 6.36 (SD.=2.63) to 9.43 (SD.=2.98) with statistically significance level of 0.01. The mean score of the exposure reduction increased from 14.43 (S.D.=2.9) to 15.93 (S.D.=0.26), but there was not statistically significant.
Therefore, health team or teacher in an educational setting can bring the COVID-19 prevention program Based on cognitive-social learning theory to develop/adjust behavior of preschool children, so that preschoolers can take care of themselves initially prevent COVID-19 while performing various activities in schools and communities.
References
กระทรวงสาธารณสุข. ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง ชื่อและอาการสำคัญของโรคติดต่ออันตราย (ฉบับที่ 3) พ.ศ.2563 ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 137 ตอนพิเศษ 48 ง [อินเตอร์เน็ต]. 2563 [เข้าถึงเมื่อ 2563/12/08]. เข้าถึงได้จาก: http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2563/E/048 /T_0001.PD
กรมควบคุมโรค. COVID-19 (EOC-DDC Thailand) โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 [อินเตอร์เน็ต]. 2563 [เข้าถึงเมื่อ 2563/12/24]. เข้าถึงได้จาก: https://ddcportal.ddc.moph.go.th/portal/apps/
opsdashboard/Index.html#/20f3466e075e45e5946aa87c96e8ad65.
สราวุฒิ บุญสุข, บรรณาธิการ. คู่มือการปฏิบัติสำหรับสถานศึกษาในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19. นนทบุรี: คิว แอดเวอร์ไทซิ่ง จำกัด; 2563.
ชาคร เลิศนิทัศน์ และสมชัย จิตสุชน. ผลกระทบของโควิด-19 ต่อครัวเรือนที่มีเด็กเล็ก [อินเตอร์เน็ต]. 2563 [เข้าถึงเมื่อ 2563/12/25]. เข้าถึงได้จาก: https://tdri.or.th/2020/08/covid19-impact-early-child.
Unicef. รายงานรวบรวมผลกระทบทางเศรษฐกิจและสังคมของการระบาดโรคโควิด-19 ต่อเด็กและเยาวชนในประเทศไทย [อินเตอร์เน็ต]. 2564 [เข้าถึงเมื่อ 2564/10/12]. เข้าถึงได้จาก: https://www.unicef.org/thailand/media/8786/file/COVID19%20Impact%20on%20Children.pdf
Pisano L, Galimi D, Cerniglia L. A qualitative report on exploratory data on the possible emotional/behavioral correlates of Covid-19 lockdown in 4-10 years children in Italy. [ออนไลน์]. 2020 [เข้าถึงเมื่อ 2563/12/27]. เข้าถึงได้จาก: https://psyarxiv.com/stwbn/
อวาทิพย์ แว. COVID-19 กับการเรียนรู้สู่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพในวันนี้. วารสารสมาคมวิชาชีพสุขศึกษา. 2563;35(1):24-107.
ธานี กล่อมใจ จรรยา แก้วใจบุญ และทักษิกา ชัชวรัตน์. ความรู้และพฤติกรรมของประชาชนเรื่องการป้องกันตนเองจากการติดเชื้อไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ 2019. วารสารการพยาบาลการสาธารณสุขและการศึกษา. 2563;21(2):29-39.
ฐิติมา ชูใหม่. การเจริญเติบโตและพัฒนาการของเด็กปฐมวัย. วารสารหัวหินสุขใจไกลกังวล. 2559;1(2):18-33.
Bandura, A. Social foundations of thought and action: A social cognitive theory. New York: Prentice–Hall; 1986.
สุรางค์ โค้วตระกูล. จิตวิทยาการศึกษา. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย; 2559.
ณัฐติพร อ้นด้วง รุจา ภู่ไพบูลย์ และชื่นฤดี คงศักดิ์ตระกูล. ผลของโปรแกรมการสอนทักษะสุขภาพโดยใช้หนังสือการ์ตูนต่อพฤติกรรมสุขภาพของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปี ที่ 5. Graduate Research Conference [อินเตอร์เน็ต]. 2556 [เข้าถึงเมื่อ 2564/01/31]. เข้าถึงได้จาก: https://gsbooks.gs.kku.ac.th/55/cdgrc13/files/mmo10.pdf.
ณภัทร ไวปุรินทะ จิตตาภรณ์ จิตรีเชื้อ และวราภรณ์ บุญเชียง. ผลการส่งเสริมการเรียนรู้เกี่ยวกับการป้องกันการติดเชื้อจากการสัมผัสต่อความรู้และการล้างมือของเด็กวัยก่อนเรียน [อินเตอร์เน็ต]. 2552 [เข้าถึงเมื่อ 2565/12/05]. เข้าถึงได้จาก: https://dric.nrct.go.th/Search/ShowFulltext/2/216834.
ศรีเรือน แก้วกังวาล. จิตวิทยาบุคลิกภาพร่วมสมัยและจิตบำบัด. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์หมอชาวบ้าน; 2557.
รวีพร จรูญพันธ์เกษม และ มนต์ชัย เทียนทอง. กรอบแนวคิดการเรียนรู้ แบบปัญหาเป็นฐาน ออนไลน์แบบคู่ที่มีระบบจัดการความรู้ ตามประสบการณ์ที่จำแนกผู้เรียนตามความถนัดด้วยวิธี VARK [อินเตอร์เน็ต]. 2557 [เข้าถึงเมื่อ 2563/12/30]. เข้าถึงได้จาก: https://gsbooks.gs.kku.ac.th/57/grc15/files/sdp6.pdf.
จักรพันธ์ เพ็ชรภูมิ. พฤติกรรมสุขภาพ: แนวคิด ทฤษฎี และการประยุกต์ใช้. พิมพ์ครั้งที่ 3. พิษณุโลก: สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยนเรศวร; 2561.
พรทิพย์ ศิริบูรณ์พิพัฒนา. การพยาบาลเด็ก 1. พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพฯ: บริษัท ธนาเพรส จำกัด; 2556.
จารุวรรณ สนองญาติ วิลาวัณย์ ธนวรรณ และยุคนธ์ เมืองช้าง. ผลของโปรแกรมการให้ข้อมูลผ่านหนังสือการ์ตูนสามมิติต่อความรู้ในการป้องกันการติดเชื้อของเด็กก่อนวัยเรียน. วารสารพยาบาลกระทรวงสาธารณสุข. 2558;26(2):34-42.
กัญญพัชร พงษ์ช้างอยู่. ผลของโปรแกรมส่งเสริมการเรียนรู้ด้วยการเล่านิทานต่อความฉลาดทางอารมณ์และพัฒนาการทางภาษาของเด็กปฐมวัย [อินเตอร์เน็ต]. 2560 [เข้าถึงเมื่อ 2564/01/7]. เข้าถึงได้จาก: http://digital_collect.lib.buu.ac.th/dcms/files/57910068.pdf.
Downloads
Published
How to Cite
Issue
Section
License
Copyright (c) 2022 Nurse' Association of Thailand Northern Office
This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของสมาคมพยาบาลแห่งประเทศไทยฯ สาขาภาคเหนือ
เนื้อหาและข้อคิดเห็นใดๆ ที่ตีพิมพ์ในวารสารสมาคมพยาบาลฯ ถือเป็นความรับผิดชอบของผู้เขียนเท่านั้น ผู้เขียนบทความต้องศึกษารายละเอียดหลักเกณฑ์การจัดทำต้นฉบับตามที่วารสารกำหนด และเนื้อหาส่วนภาษาอังกฤษต้องได้รับการตรวจสอบจากเจ้าของภาษามาแล้ว