Nurses’ Roles in the Prevention of Type 2 Diabetes in Children and Adolescents

ผู้แต่ง

  • รวิวรรณ คำเงิน วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี สุราษฎร์ธานี

คำสำคัญ:

โรคเบาหวานชนิดที่ 2, เด็กและวัยรุ่น, การป้องกัน

บทคัดย่อ

บทคัดย่อ
อุบัติการณ์การเกิดโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ในเด็กและวัยรุ่นพบมากขึ้นทั่วโลกพร้อม ๆ กับโรคอ้วนซึ่งมีผลทำให้เซลล์ต่าง ๆ ในร่างกายไม่สามารถตอบสนองต่อฮอร์โมนอินซูลินได้เบาหวานที่เกิดในเด็กและวัยรุ่นนำไปสู่การเกิดโรคแทรกซ้อนต่าง ๆ ที่รุนแรงได้ปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการเกิดโรคเบาหวานชนิดที่2 ในเด็กและวัยรุ่น ได้แก่ ภาวะอ้วน พฤติกรรมการบริโภคอาหาร กิจกรรมทาง
กายหรือการออกกำลังกาย ภาวะเครียด พันธุกรรม สื่อและเทคโนโลยีการป้องกันเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้ลดโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดโรคเบาหวานชนิดที่2 ที่จะเกิดขึ้นในเด็กและวัยรุ่นได้พยาบาลแผนกผู้ป่วยนอกเป็นส่วนหนึ่งของทีมสหวิชาชีพที่มีบทบาทสำคัญเกี่ยวกับการป้องกันโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ในเด็กและวัยรุ่น เช่น การคัดกรองโรคเบาหวานชนิดที่2ในเด็กและวัยรุ่นกลุ่มเสี่ยงการปรับเปลี่ยน วิถีชีวิตและพฤติกรรมสุขภาพด้านโภชนาการ การออกกำลังกายและการมีกิจกรรมทางกายที่เหมาะสม รวมทั้งควบคุมอารมณ์โดยใช้หลักการให้ความรู้และสร้างทักษะการดูแลตนเองเพื่อป้องกันการเกิดโรคเบาหวาน และการช่วยเหลือสนับสนุนให้ดูแลตนเอง ความตระหนักของพยาบาลในการป้องกันโรคเบาหวานชนิดที่ 2 สามารถช่วยให้เด็กและวัยรุ่นมีแนวทางในการป้องกันการเกิดโรคได้ บทความวิชาการนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อนำเสนอบทบาทของพยาบาลแผนกผู้ป่วยนอกในการป้องกันโรคเบาหวานชนิดที่2ในเด็กและวัยรุ่น พยาบาลผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการดูแลเด็กและวัยรุ่นสามารถนำไปประยุกต์ใช้เป็นแนวทางในการป้องกันโรคเบาหวานชนิดที่ 2 เพื่อให้เด็กและวัยรุ่นเติบโตอย่างมีคุณภาพชีวิตที่ดีต่อไป

เอกสารอ้างอิง

เอกสารอ้างอิง

International Diabetes Federation [IDF]. International Diabetes Federation Annual

Report 2017; 2017. [cited July 31, 2020]. Available from: https://www.idf.org/our-

activities/advocacy- awareness/resources-and-tools/149-idf-annual-report-2017.html

Aekplakorn W, Chariyalertsak S, Kessomboon P, Assanangkornchai S, Taneepanichskul S,

Putwatana P. Prevalence of Diabetes and Relationship with Socioeconomic Status in

the Thai Population: National Health Examination Survey, 2004–2014. JDR 2016:1-8.

สมาคมโรคเบาหวานแห่งประเทศไทยในพระราชนูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรม

ราชกุมารี.แนวทางเวชปฏิบัติสำหรับโรคเบาหวาน 2560. พิมพ์ครั้งที่ 3. ปทุมธานี: ร่มเย็น มีเดีย;

กัลยาณี โนอินทร์. ภาวะน้ำหนักเกินและโรคอ้วนในวัยเรียนและวัยรุ่นไทย.วารสารพยาบาลทหารบก

;18(ฉบับพิเศษ):1-8.

วราพรรณ วงษ์จันทร. ความรอบรู้ทางสุขภาพกับการป้องกันโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ในเด็กวัยเรียน.

วารสารพยาบาลทหารบก 2562;20(2):1-9.

Xu H, Verre MC. Type 2 diabetes mellitus in children. Am Fam Physician 2518;98(9):590-94.

Copeland KC, Silverstein J, Moore KR, et al. Management of newly diagnosed type 2

diabetes mellitus (T2DM) in children and adolescents. AAP 2013;131(2):364-82.

ชมรมต่อมไร้ท่อเด็กและวัยรุ่นแห่งประเทศไทย. สถานการณ์โรคเบาหวานชนิดที่ 2 ในเด็กไทยและแนว

ทางการรักษา 2562.[เข้าถึงเมื่อ 18 สิงหาคม 2563]. เข้าถึงได้จาก www.thaipedendo.org.

กรรณิการ์ พุ่มทอง. ความก้าวหน้าในการพัฒนายารักษาโรคเบาหวาน.วารสารหมอยาไทยวิจัย 2558;1(1):24-35.

Reinehr T. Type 2 diabetes mellitus in children and adolescents. World J Diabetes 2013:270-81.

Chiang JL, Maahs DM, Garvey KC, Hood KK, Laffel LM, Weinzimer SA, Walfsdorf JI,

Schatz D. Type 1 Diabetes in Children and Adolescent: A position Statement by the

American Diabetes Association. Diabetes Care 2018;41(9):2026-44.

Salsberry P, Tanda R, Anderson SE, Kamboj MK. Pediatric Type2 Diabetes: Prevention

AndTreatment Through a Life Course Health Development Framework. In: Halfon

N, Forrest C B,Lerner R M, Faustman E M, editors. Handbook of life Course Health

Development. Springer;2018:197-236.

สำเภา แก้วโบราณ นิภาวรรณ สามารถกิจ และเขมารดี มาสิงบุญ. ปัจจัยทำนายพฤติกรรมป้องกัน

โรคเบาหวานในวัยรุ่นที่มีภาวะเสี่ยงต่อโรคเบาหวานในจังหวัดสมุทรปราการ. วารสารการพยาบาล

และการดูแลสุขภาพ 2562;37(2):218-27.

Abdulah A, Peeters A, Courten M D, Stoelwinder J. The magnitude of association

betweenoverweight and obesity and the risk of diabetes: A meta-analysis of

prospective cohort studies. Diabetes Res Clin Prac 2010;89(3):309-19.

กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข. รายงานประจำปี 2558. นนทบุรี: สำนักงานกิจการโรงพิมพ์

องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึกในพระบรมราชูปถัมภ์; 2558.

สำนักงานสถิติแห่งชาติ กระทรวงดิจิตัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม. การสำรวจพฤติกรรมการบริโภค

อาหารของประชากร พ.ศ.2560. 2561. [เข้าถึงเมื่อ30 พฤษภาคม 2563]. เข้าถึงได้จาก:

http://www.nso.go.th/sites/2014/DocLib13

มโนลี ศรีเปารยะ เพ็ญพงษ์. พฤติกรรมการบริโภคอาหารของกลุ่มนักเรียนและนักศึกษาในจังหวัด

สุราษฎร์ธานี. วารสารวิทยาการจัดการมหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี 2559;3(1):109-26.

ศรีบังอร สุวรรณพานิช. ปัจจัยที่มีผลต่อพฤติกรรมการบริโภคอาหารของนักศึกษาสถาบันการพลศึกษา

วิทยาเขตกระบี่. วารสารวิชาการการพลศึกษา 2555;4(1):29-43.

สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ.รายงายประจำปี 2557. กรุงเทพฯ:

สำนักงานกองทุนสนับสนุน การสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.);2557.

อรุณี ไรปิ่น ยุนี พงศ์จตุรวิทย์ และนฤมล ธีระรังสิกุล.ความคิดเห็นและการปฏิบัติของมารดาบุตรวัย

ก่อนเรียนที่มีภาวะโภชนาการเกิน.วารสารมหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ 2555;4(2):1-15.

วราภรณ์ แสงรัสมี. พฤติกรรมการบริโภคอาหารจานด่วนของนิสิตระดับปริญญาตรี

มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์[วิทยานิพนธ์]. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์; 2558.

สมจิต นคราพานิช รัตนา พึ่งเสมา และกนกวรรณ สุวรรณปฏิกรณ์. ผลของโปรแกรมการเสริมสร้าง

พลังอำนาจในการส่งเสริมสุขภาพต่อพฤติกรรมการบริโภคอาหาร พฤติกรรมการออกกำลังกายและ

ภาวะโภชนาการของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น. วารสารพยาบาลสาธารณสุข 2555;26(1):32-

สืบตระกูล ตันตลานุกุล และปราโมทย์ วงศ์สวัสดิ์. การดูแลเฝ้าระวังความเครียดในวัยรุ่น. วารสาร

เครือข่ายวิทยาลัยพยาบาลและวิทยาลัยการสาธารณสุขภาคใต้ 2562;6(2):279-85.

ไพบูลย์ จาตุรปัญญา.เบาหวานกับการรักษาตนเอง. กรุงเทพฯ:รวมทรรศน์การพิมพ์; 2554.

World Health Organization, 2016. Global Report on Diabetes. World Health

Organization http://www.who.int/iris/handle/10665/204871.

อรอนงค์ บุรีเลิศ นพรัตน์ ส่งเสริม และภัทรภร เจริญบุตร. รูปแบบการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการ

ป้องกันการเกิดโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ในเด็กประถมศึกษา. วารสารวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

หัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ 2561;4(2):20-29.

Kanfer FH, Gaelick L. Self-management methods. In KanferFH. Goldstein AP.(Eds.).

Helping people Change. New York: Pergamon Press;1988:283-238.

ชูศักดิ์ ยืนนาน. แนวคิดการพยาบาลโดยเน้นครอบครัวเป็นศูนย์กลางในการดูแลผู้ป่วยเด็กในภาวะ

วิกฤตและเรื้อรัง. วารสารสมาคมพยาบาลแห่งประเทศไทยฯ สาขาภาคเหนือ 2560;23(2):59-68.

เขมารดี มาสิงบุญ, สายฝน ม่วงคุ้ม และสุวรรณี มหากายนันท์. ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรม

ป้องกันการเกิดโรคเบาหวานในกลุ่มเสี่ยงต่อการเป็นเบาหวาน. วารสารพยาบาลกระทรวงสาธารณสุข

;27(2):214-27.

สุพิชญา หวังปิติพาณิชย์, แสงทอง ธีระทองคำ และมะลิวัลย์ ภาคพยัคฆ์. ผลของโปรแกรมออกกำลัง

กายแบบแรนสามสิบต่อพฤติกรรมการป้องกันโรคเบาหวาน ดัชนีมวลกาย และค่าน้ำตาลในเลือดปลาย

นิ้วของผู้ที่เสี่ยงต่อเบาหวาน. รามาธิบดีพยาบาลสาร 2560;23(3):358-70.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2021-06-29

รูปแบบการอ้างอิง

คำเงิน ร. (2021). Nurses’ Roles in the Prevention of Type 2 Diabetes in Children and Adolescents. วารสารสมาคมพยาบาลแห่งประเทศไทยฯ สาขาภาคเหนือ, 27(1), 5–16. สืบค้น จาก https://he01.tci-thaijo.org/index.php/jnorthnurse/article/view/244623

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิชาการ