ผลของโปรแกรมการให้สุขศึกษาต่อความรู้และพฤติกรรมในการป้องกันโรคพยาธิใบไม้ตับของประชาชน ตำบลสบบง อำเภอภูซาง จังหวัดพะเยา
คำสำคัญ:
โปรแกรมการให้สุขศึกษา, การป้องกันโรคพยาธิใบไม้ตับบทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยแบบกึ่งทดลองกลุ่มเดียวมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลการใช้โปรแกรมการให้สุขศึกษาในการป้องกันโรคพยาธิใบไม้ตับต่อความรู้และพฤติกรรมของประชาชน ตำบลสบบง อำเภอภูซาง จังหวัดพะเยา คัดเลือกกลุ่มตัวอย่างแบบเฉพาะเจาะจง จำนวน 42 คน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ ประกอบด้วย โปรแกรมการให้สุขศึกษาในการป้องกันโรคพยาธิใบไม้ตับ แบบสอบถามข้อมูลทั่วไป แบบประเมินความรู้ในการป้องกันโรคพยาธิใบไม้ตับ และแบบประเมินพฤติกรรมในการป้องกันโรคพยาธิใบไม้ตับ ตรวจสอบความตรงทางด้านเนื้อหา (Content validity index) ของแบบประเมินความรู้ในการป้องกันโรคพยาธิใบไม้ตับ และแบบประเมินพฤติกรรมในการป้องกันโรคพยาธิใบไม้ตับมีค่า CVI เท่ากับ .88 และ .80 ตามลำดับ ค่าความเชื่อมั่นของเครื่องมือ (Reliability) ของแบบประเมินความรู้ในการป้องกันโรคพยาธิใบไม้ตับ ใช้วิธีการของคูเดอร์ ริชาร์ดสัน (Kuder-Richardson Method: KR20) ได้เท่ากับ .73 และแบบประเมินพฤติกรรมในการป้องกันโรคพยาธิใบไม้ตับ ค่าสัมประสิทธ์ครอนบาคส์อัลฟ่า (Chronbach’s alpha coefficient) เท่ากับ .95 วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติเชิงพรรณนา และ Paired t – test กำหนดระดับนัยสำคัญทางสถิติที่ .05
ผลการศึกษาพบว่า กลุ่มตัวอย่างมีคะแนนเฉลี่ยในด้านความรู้และด้านพฤติกรรมในการป้องกันโรคพยาธิใบไม้ตับภายหลังการเข้าร่วมโปรแกรมสุขศึกษาสูงกว่าก่อนให้โปรแกรมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ p < .001 จากผลการศึกษานี้แสดงให้เห็นว่าการใช้โปรแกรมการให้สุขศึกษาในการป้องกันโรคพยาธิใบไม้ตับ เพื่อส่งเสริมพฤติกรรมในการป้องกันโรคพยาธิใบไม้ตับ เหมาะสำหรับประชาชนกลุ่มเสี่ยงในพื้นที่ตำบลสบบง อำเภอภูซาง จังหวัดพะเยา
เอกสารอ้างอิง
ศิวัชญ์ ทองนาเมือง และรุจิรา ดวงสงค์. ประสิทธิผลของโปรแกรมสุขศึกษาโดยการประยุกต์ใช้ทฤษฎีแบบแผนความเชื่อด้านสุขภาพร่วมกับแรงสนับสนุนทางสังคม เพื่อการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการป้องกันโรคพยาธิใบไม้ในตับและโรคมะเร็งท่อน้ำดี ในนักเรียนประถมศึกษา อำเภอเมยวดี จังหวัดร้อยเอ็ด. วารสารวิจัยมหาวิทยาลัยขอนแก่น (บศ.) 2555; 12(2):80-91.
Bragazzi MC, Cardinale V, Carpino G, Venera R, Semeraro R, Gentile R, Gaudio E, Alvaro D. Cholangiocarcinoma: Epidemiology and risk factors. Translational Gastrointestinal Cancer 2012;1:21-32.
กรัณฑรัตน์ บุญช่วยธนาสิทธิ, จักรกฤษณ์ พลราชม, มาสริน ศุกลปักษ์ และนารีรมย์ รัตนสัมฤทธิ์. การพัฒนารูปแบบการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการป้องกันโรคพยาธิใบไม้ตับในชุมชน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ. กรุงเทพฯ: คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์; 2557.
Sripa B, Tangkawattana S, Laha T, Kaewkes S, Mallory F, Smith J, Wilcox B. Toward integrated opisthorchiasis control in northeast Thailand: the Lawa project [Internet]. 2014 [cited 2016 November 7] Available from: http://ncbi.nlm.nih.gov/pubmed/.
โกศล รุ่งเรืองชัย. พยาธิใบไม้ตับ ปัจจัยเสี่ยงมะเร็งท่อน้ำดี. [อินเทอร์เน็ต]. 2553 [เข้าถึงเมื่อ 30 พฤศจิกายน 2560] เข้าถึงได้จาก:
http://www.si.mahidol.ac.th/sidoctor/epl/articledetail.asp?id=779.
Kaewpitoon N, Koontanavanichpong N, Kompor P, Chavenkun W, Kujapun J, Norkaew J, Ponphimai S, et al. Review and Current Status of Opisthorchis viverrini Infection at the Community Level in Thailand. Asian Pacific Journal of Cancer Prevention 2015; 16:6826-6830.
โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลสบบง. สรุปผลการดำเนินงาน ประจำปีงบประมาณ 2559 (อัดสำเนา). พะเยา: โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลสบบง อำเภอภูซาง จังหวัดพะเยา; 2559.
พรชนก รัตนดิลก ณ ภูเก็ต, ฐิติมา วงศาโรจน์ และทัชญาณี บุตรจินดา. เกณฑ์ตัวชี้วัดอัตราความชุกโรคหนอนพยาธิ. [อินเทอร์เน็ต]. 2554 [เข้าถึงเมื่อ 10 พฤศจิกายน 2560] เข้าถึงได้จาก: http://kmddc.go.th/Library/banner/amphur 2012/Helminths.
รุจิรา ดวงสงค์, จุฬาภรณ์ โสตะ, ไพบูรณ์ สิทธิถาวร, พงษ์เดช สารการ และสุพรรณี ศรีอาพร. การพัฒนาพฤติกรรมสุขภาพเพื่อการป้องกันโรคพยาธิใบไม้ตับประชาชน อำเภอภูเวียง จังหวัดขอนแก่น (ระยะที่ 2). คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น; 2551.
บัวจันทร์ ธงเชื้อ ปัทมา คำฟู และสุทธิพันธ์ ถนอมพัน. ผลของโปรแกรมการล้างมือต่อความรู้ และการปฏิบัติด้านการป้องกันและควบคุม การติดเชื้อดื้อยาของบุคลากรทางการพยาบาล ผู้ป่วยและญาติ ในแผนกศัลยกรรม ศัลยกรรมกระดูกและข้อ โรงพยาบาลนครพิงค์. วารสารสมาคมพยาบาลแห่งประเทศไทย สาขาภาคเหนือ 2560; 23(2):12-25.
Polit DF, Beck CT. Nursing Research: Generating and Assessing Evidence for Nursing Practice. 9th ed. Philadelphia: Lippincott; 2012.
อภิชิต แสงปราชญ์. ปัจจัยที่มีความสัมพันธกับพฤติกรรมการปองกันโรคมะเร็งตับและมะเร็งท่อน้ำดีของประชาชน จังหวัดอุบลราชธานี (ปริญญานิพนธ์สาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต). อุบลราชธานี: มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี; 2553.
กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข. คู่มือกำจัดโรคพยาธิใบไม้ตับสำหรับประชาชน. [อินเทอร์เน็ต]. 2560 [เข้าถึงเมื่อ 10 มิถุนายน 2560] เข้าถึงได้จาก: http://elib.ddc.moph.go.th/pdf/eb388/eb388.pdf.
ศุภกนก หันทยุง. ผลของการใช้โปรแกรมสุขศึกษาเพื่อการส่งเสริมพฤติกรรมการป้องกันโรคพยาธิใบไม้ตับของประชาชนกลุ่มเสี่ยง ชุมชนบ้านเหล่าอ้อย หมู่ที่ 5 ตำบลหนองสังข์ อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว. วารสารวิจัยราชภัฏพระนคร 2558; 10(1):40-53.
กัญญาพัชญ์ จาอ้าย จีราภา บุษยาวรรณ และภัสธารีย์ นินเจริญวงษ์. ผลของโปรแกรมการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมต่อความรู้และพฤติกรรมการนับลูกดินของหญิงตั้งครรภ์ชาวไทใหญ่ โรงพยาบาลหางดง จังหวัดเชียงใหม่.วารสารสมาคมพยาบาลแห่งประเทศไทย สาขาภาคเหนือ 2560; 23(1):32-42.
นิตยา เพ็ญศิรินภา. แนวคิดและหลักการเกี่ยวกับสุขศึกษาและการส่งเสริมสุขภาพ. [อินเทอร์เน็ต]. 2555 [เข้าถึงเมื่อ 30 สิงหาคม 2561] เข้าถึงได้จาก: https://www.stou.ac.th/schools/shs/DOCUMENTS/54126.pdf.
กาญจนา ฮามสมพันธ์ จีระศักดิ์ เจริญพันธ์ และจิราพร วรวงศ์. ผลของโปรแกรมการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการป้องกันโรคพยาธิใบไม้ตับของหัวหน้าครัวเรือน ตำบลบ้านฝาง อำเภอเกษตรวิสัย จังหวัดร้อยเอ็ด. สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 7 จังหวัดขอนแก่น 2559; 23(2):9-23.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของสมาคมพยาบาลแห่งประเทศไทยฯ สาขาภาคเหนือ
เนื้อหาและข้อคิดเห็นใดๆ ที่ตีพิมพ์ในวารสารสมาคมพยาบาลฯ ถือเป็นความรับผิดชอบของผู้เขียนเท่านั้น ผู้เขียนบทความต้องศึกษารายละเอียดหลักเกณฑ์การจัดทำต้นฉบับตามที่วารสารกำหนด และเนื้อหาส่วนภาษาอังกฤษต้องได้รับการตรวจสอบจากเจ้าของภาษามาแล้ว