ความคาดหวังและความเป็นจริงต่อผลการเรียนรู้รายวิชา พบ. 282 ปฏิบัติการพยาบาลพื้นฐานของนักศึกษาพยาบาลชั้นปีที่ 2 คณะพยาบาลศาสตร์แมคคอร์มิค มหาวิทยาลัยพายัพ
คำสำคัญ:
ความคาดหวัง, ความเป็นจริง, ผลการเรียนรู้รายวิชา พบ.282 ปฏิบัติการพยาบาลพื้นฐาน, นักศึกษาพยาบาลชั้นปีที่ 2บทคัดย่อ
การศึกษาวิจัยนี้เป็นการวิจัยเชิงพรรณนา เพื่อศึกษาถึงความคาดหวังและความเป็นจริงต่อผลการเรียนรู้รายวิชา พบ. 282 ปฏิบัติการพยาบาลพื้นฐานของนักศึกษาพยาบาลชั้นปีที่ 2 คณะพยาบาลศาสตร์แมคคอร์มิค มหาวิทยาลัยพายัพ ประชากรที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ คือ นักศึกษาพยาบาลชั้นปี ที่ 2 คณะพยาบาลศาสตร์แมคคอร์มิค มหาวิทยาลัยพายัพ จังหวัดเชียงใหม่ ที่ลงทะเบียนรายวิชา ปฏิบัติการพยาบาลพื้นฐาน ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560 จำนวนทั้งสิ้น 123 คน และอาจารย์นิเทศรายวิชาปฏิบัติการพยาบาลพื้นฐาน ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560 จำนวนทั้งสิ้น 6 คน เครื่องมือที่ ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ แบบบันทึกข้อมูลทั่วไป แบบสอบถามความคาดหวังและความเป็นจริงต่อผลการเรียนรู้ในการปฏิบัติการพยาบาลพื้นฐานสร้างโดยผู้วิจัยจากการทบทวนเอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบความชัดเจนของภาษาและความตรงเนื้อหาโดยผู้ทรงคุณวุฒิจำนวน 3 ท่าน คำนวณหาดัชนีความตรงตามเนื้อหา (Content validity index, CVI) ได้ค่าเท่ากับ 0.91 และทดสอบความเชื่อมั่นของเครื่องมือได้ค่าเท่ากับ 0.99 และแบบประเมินการปฏิบัติการพยาบาลพื้นฐานบนหอผู้ป่วยของรายวิชา พบ. 282 ปฏิบัติการพยาบาลพื้นฐานได้ผ่านการพิ จารณาจากคณะกรรมการกำกับมาตรฐานของคณะพยาบาลศาสตร์แมคคอร์มิค มหาวิทยาลัยพายัพ ประจำปีการศึกษา 2560 ผู้วิจัยรวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบสอบถามและวิเคราะห์ด้วยโปรแกรมสำเร็จรูป ผลการวิจัยสรุปได้ดังนี้ 1. ความคาดหวังและความเป็นจริงต่อผลการเรียนรู้รายวิชา พบ. 282 ปฏิบัติการพยาบาลพื้นฐาน โดยรวมและรายด้านพบว่าไม่แตกต่างกัน 2. ความเป็นจริงต่อผลการเรียนรู้รายวิชา พบ. 282 ปฏิบัติการพยาบาลพื้นฐาน และผลการ ประเมินปฏิบัติการพยาบาลพื้นฐานบนหอผู้ป่วยของรายวิชา พบ. 282 ปฏิบัติการพยาบาลพื้นฐาน โดยอาจารย์นิเทศ โดยรวมและรายด้านพบว่ามีความสัมพันธ์กันทางบวก
เอกสารอ้างอิง
2. มณฑา ลิ้มทองกุล และสุภาพ อารีเอื้อ. แหล่งความเครียด วิธีการเผชิญความเครียด และผลลัพธ์การ เผชิญความเครียดของนักศึกษาพยาบาลในการฝึกภาคปฏิบัติครั้งแรก. รามาธิบดีพยาบาลสาร 2552; 15(2): 192-205.
3. McAllister, M. Principles for curriculum development in Australian nursing: An examination of the literature. Nurse Education Today 2001; 21: 304-314.
4. Papp, I., Markkanen, M., & Bonsdorff, M. Clinical environment as a learning environment: Student nurses’ perception concerning clinical learning experiences. Nurse Education Today 2003; 23(4): 262-268.
5. นิลอุบล แก้วอินทร์ และพรปวีณ์ หงษ์ประสิทธิ์. ความคาดหวังของนักเรียนพยาบาลต่ออาจารย์พยาบาล ในการขึ้นฝึกภาคปฏิบัติ วิชาปฏิบัติหลักการและเทคนิคการพยาบาล ชั้นปีที่ 2 รุ่น 18 วิทยาลัยพยาบาล บรมราชชนนี อุดรธานี. อุดรธานี: วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี; 2553.
6. ศศิกาญจน์ สกุลปัญญวัฒน์. พฤติกรรมการดูแลแบบเอื้ออาทรของอาจารย์พยาบาลที่สอนรายวิชาภาค ปฏิบัติการพยาบาลพื้นฐาน ตามการรับรู้ของอาจารย์ผู้สอนกับนักศึกษาสถาบันการศึกษาเอกชน. วารสารเกื้อการุณย์ 2557; 21: 108-23.
7. เติมศรี ชำนิจารกิจ. สถิติประยุกต์ทางการแพทย์. พิมพ์ครั้งที่ 6 ฉบับปรับปรุงแก้ไข. กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย; 2544.
8. Hinkle, D.E, William, W. & Stephen G. J. Applied Statistics for the Behavior Sciences. 4th ed. New York: Houghton Mifflin; 1998.
9. วิไล ตั้งปนิธานดี, จันทรา แก้วภักดี, สุขฟอง วงศ์สถาพรพัฒน์ และนพวรรณ เปียซี่. การศึกษาเปรียบเทียบความคิดเห็นตามความคาดหวังกับความคิดเห็นตามสภาพที่เป็นจริงต่อการเรียนการสอนด้วยภาษาอังกฤษของนักศึกษาพยาบาล. รามาธิบดีพยาบาลสาร 2556; 19(3): 417-427.
10. ไพรินทร์ สุคนธ์ตระกูล และปราณี ป้องเรือ. สมรรถนะการฝึกปฏิบัติการพยาบาลบนคลินิกสูติกรรม: ความสัมพันธ์ระหว่างการประเมินของนักศึกษาและการประเมินของอาจารย์. รามาธิบดีพยาบาลสาร 2557; 20(2): 259-270.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของสมาคมพยาบาลแห่งประเทศไทยฯ สาขาภาคเหนือ
เนื้อหาและข้อคิดเห็นใดๆ ที่ตีพิมพ์ในวารสารสมาคมพยาบาลฯ ถือเป็นความรับผิดชอบของผู้เขียนเท่านั้น ผู้เขียนบทความต้องศึกษารายละเอียดหลักเกณฑ์การจัดทำต้นฉบับตามที่วารสารกำหนด และเนื้อหาส่วนภาษาอังกฤษต้องได้รับการตรวจสอบจากเจ้าของภาษามาแล้ว