Health Literacy and Self-care Behavior among Post Valvular Heart Surgery Patients
Abstract
The purpose of this descriptive study was to examine the relationship between health literacy and self-care behavior among post valvular heart surgery patients. The subjects were 128 patients with post valvular heart surgery who attended at thoracic surgery clinic, Outpatient Department of Sapprasitthiprasong Hospital, Ubonratchathani. The subjects were recruited by simple random sampling according to the inclusion criteria. Research instruments consisted of the demographic data questionnaire, the assessment of health literacy and the self-care behavior questionnaire. The data were analyzed by using descriptive statistics and Pearson’s product moment correlation coefficient. The results revealed that, post valvular heart surgery patients had marginal health literacy ( =14.73, SD=3.12), self-care behavior scores were at a high level ( =3.47, SD=.28) and health literacy had low positive significant relationship with selfcare behavior (r = .24, p < .01). The results of this study can possibly considered as appropriate strategies to promote self-care behavior among post valvular heart surgery patients by enhancing their health literacy. Consequently, these strategies may prevent or delay post valvular heart surgery complications.
References
2. กนกกาญจน์ กอบกิจสุมงคล, เพิ่มสุข เอื้ออารี, นพวรรณ แสนเจริญสุทธิกุล และวิศาล คันธารัตนกุล. การศึกษาคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยหลังผ่าตัดหัวใจในโรงพยาบาลรามาธิบดี. วารสารพยาบาลโรคหัวใจและทรวงอก [ออนไลน์]. 2552 [เข้าถึงเมื่อ 2560/08/28];20(1):46–56. เข้าถึงได้จาก: https://tci-thaijo.org/index.php/journalthaicvtnurse/article/view/8504
3. ภมร แช่มรักษา, ศิริลักษณ์ ประวีณวรกุล และทัศนันท์ ศิริเสถียรรุจ. คุณภาพชีวิตของผู้ป่วยหลังผ่าตัดเปลี่ยนลิ้นหัวใจ. วารสารมหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์[ออนไลน์]. 2554 [เข้าถึงเมื่อ 2560/08/28];3(2):1–14.เข้าถึงได้จาก: http://journal.pnu.ac.th/ojs/index.php/pnujr/article/view/78/0
4. สมาคมศัลยแพทย์ทรวงอกแห่งประเทศไทย. สถิติการผ่าตัดหัวใจในประเทศไทยตั้งแต่ปีพ.ศ.2544-ปัจจุบัน [ออนไลน์].2560[เข้าถึงเมื่อ 2560/10/17]. เข้าถึงได้จาก: http://thaists.org/news_detail.php?news_id=212
5. โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์. สถิติการผ่าตัดหัวใจโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ อุบลราชธานี; 2561
6. Orem, D.E. Nursing concepts of practice. 6thed. St.Louis: Mosby; 2001. อ้างถึงในพร้อมจิตร ห่อนบุญเหิม. ทฤษฎีการพยาบาลของโอเร็ม แนวคิดและการประยุกต์. มหาสารคาม: อภิชาติการพิมพ์; 2553.
7. เพ็ญแข สุธรรม. ปัจจัยทีมี่ผลต่อพฤติกรรมการดูแลตนเองของผู้ป่วยหลังผ่าตัดโรคหัวใจแบบเปิดในโรงพยาบาลสรรพสิทธประสงค์ อุบลราชธานี. วิทยานิพนธ์สาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต. อุบลราชธานี: มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี; 2555.
8. Nutbeam, D. Health literacy as a public health goal: a challenge for contemporary health education and communication strategies into the 21st century. Health Promotion International [online]. 2000 [cited 2018/08/22]; 15(3): 259 – 267. Available from: https://academic.oup.com/heapro/article/15/3/259/551108
9. อังศินันท์ อินทรกำแหง. ความรอบรู้ด้านสุขภาพ: การวัดและการพัฒนา. กรุงเทพฯ: สุขุมวิท การพิมพ์; 2560.
10. นงลักษณ์ แก้วทอง, ลักขณา เติมศิริกุลชัย, ประสิทธิ์ ลีระพันธ์, ธราดล เก่งการพานิช และขวัญเมือง แก้วดำเกิง. ความรอบรู้ด้านสุขภาพในกลุ่มเสี่ยงโรคความดันโลหิตสูง โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลหนองหอย จังหวัดสระแก้ว. วารสารวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี กรุงเทพ [ออนไลน์]. 2557 [เข้าถึงเมื่อ 2561/06/25]; 30(1): 45–56.เข้าถึงได้จาก: https://tci-thaijo.org/index.php/bcnbangkok/article/download/29276/25168/
11. แสงเดือน กิ่งแก้ว และนุสรา ประเสริฐศรี. ความสัมพันธ์ระหว่างความฉลาดทางสุขภาพและพฤติกรรมสุขภาพของผู้สูงอายุที่เป็นโรคเรื้อรังหลายโรค. วารสารพยาบาลกระทรวงสาธารณสุข [ออนไลน์]. 2558 [เข้าถึงเมื่อ 2560/09/01]; 25(3): 43–54.เข้าถึงได้จาก: https://www.tcithaijo.org/index.php/tnaph/article/view/47244
12. หทัยกานต์ ห้องกระจก. อิทธิพลของความรอบรู้ด้านสุขภาพ การรับรู้สมรรถนะแห่งตน และการสื่อสารระหว่างผู้ป่วยกับบุคลากรสุขภาพต่อพฤติกรรมการดูแลตนเองของผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูง ปฐมภูมิ. วิทยานิพนธ์พยาบาลศาสตรมหาบัณฑิต. ชลบุรี: มหาวิทยาลัยบูรพา; 2559.
13. Cohen, J. Statistical power analysis for the behavioral sciences Hillsdale, NJ: Lawrence Erlbaum Associates; 1987. quoted in Polit, D. F., & Hungler, B. P. Nursing research: principles and methods (6thed.). Philadelphia: Lippincott; 1999.
14. บุญใจ ศรีสถิตย์นรากูร. ระเบียบวิธีวิจัยทางพยาบาลศาสตร์.พิมพ์ครั้งที่ 5. กรุงเทพฯ: ยู แอนด์ ไอ อินเตอร์มีเดีย จำกัด; 2553.
15. Parker, R. M., Baker, D. W., Williams, M. V., & Nurss, J. R. The Test of Functional Health Literacy in Adults: A new instrument for measuring patients’ literacy skills. Journal of General Internal Medicine,10(10),537-541;1995.
16. วนิดา พิมทา, จิราพร ศิริโชค, จิตอารีย์ ตันติยาสวัสดิกุล, รุ่งฤดี ถวิลวงษ์ และสมภพ พระธานี. พฤติกรรมการดูแลตนเองของผู้ป่วยภายหลังผ่าตัดเปลี่ยนลิ้นหัวใจในโรงพยาบาลศรีนครินทร์. ศรีนครินทร์เวชสาร [ออนไลน์]. 2557 [เข้าถึงเมื่อ 2560/08/25]; 29(3): 256–262. เข้าถึงได้จาก: http://www.smj.ejnal.com/e-journal/showdetail/showpdf.php?file_pdf=1868_6_Wanida.pdf&art_id=1868
17. วรันณ์ธร โพธารินทร์, ชวนพิศ ทำนอง และวิลาวรรณ พันธ์พฤกษ์. ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมส่งเสริมสุขภาพของผู้ป่วยภายหลังเปลี่ยนลิ้นหัวใจเทียม. วารสารการพยาบาลและการดูแลสุขภาพ[ออนไลน์]. 2557 [เข้าถึงเมื่อ 2560/08/28];32(1):31–39.เข้าถึงได้จาก: https://tcithaijo.org/index.php/jnat-ned/article/view/18972
18. ดวงกมล ศรีประเสริฐ. อ?ำนาจแพทย์ และรูปแบบความสัมพันธ์ระหว่างแพทย์กับผู้ป่วย. วารสารธรรมศาสตร์ [ออนไลน์]. 2561 [เข้าถึงเมื่อ 2561/04/25]; 37(1): 78 – 95. เข้าถึงได้จาก: https://www.tci-thaijo.org/index.php/tujo/article/download/119827/91555
19. สำนักงานสถิติแห่งชาติ. การสำรวจพฤติกรรมการบริโภคอาหารของประชากร พ.ศ.2560 [ออนไลน์]. [เข้าถึงเมื่อ 2561/06/24]. เข้าถึงได้จาก: http://www.nso.go.th/sites/2014/DocLib13/.pdf
Downloads
Published
How to Cite
Issue
Section
License
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของสมาคมพยาบาลแห่งประเทศไทยฯ สาขาภาคเหนือ
เนื้อหาและข้อคิดเห็นใดๆ ที่ตีพิมพ์ในวารสารสมาคมพยาบาลฯ ถือเป็นความรับผิดชอบของผู้เขียนเท่านั้น ผู้เขียนบทความต้องศึกษารายละเอียดหลักเกณฑ์การจัดทำต้นฉบับตามที่วารสารกำหนด และเนื้อหาส่วนภาษาอังกฤษต้องได้รับการตรวจสอบจากเจ้าของภาษามาแล้ว