ผลของโปรแกรมการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมต่อความรู้และพฤติกรรม การนับลูกดิ้นของหญิงตั้งครรภ์ชาวไทใหญ่ โรงพยาบาลหางดง จังหวัดเชียงใหม่

ผู้แต่ง

  • กัญญาพัชญ์ จาอ้าย คณะพยาบาลศาสตร์แมคคอร์มิค มหาวิทยาลัยพายัพ
  • จีระภา บุษยาวรรณ คณะพยาบาลศาสตร์แมคคอร์มิค มหาวิทยาลัยพายัพ
  • ภัสธารีย์ นินเจริญวงษ์ โรงพยาบาลหางดง

คำสำคัญ:

โปรแกรมการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วม, พฤติกรรมการนับลูกดิ้น และหญิงตั้งครรภ์, ความรู้การนับลูกดิ้น

บทคัดย่อ

การนับลูกดิ้นด้วยตนเอง เป็นสิ่งหนึ่งในการประเมินภาวะสุขภาพของทารกในครรภ์ของ หญิงตั้งครรภ์ ซึ่งสามารถป้องกันการเสียชีวิตของทารกในครรภ์ได้ การวิจัยกึ่งทดลองนี้มี วัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาผลของโปรแกรมการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมต่อความรู้และพฤติกรรมการ นับลูกดิ้นของหญิงตั้งครรภ์ชาวไทใหญ่กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ เป็นหญิง ตั้งครรภ์ชาวไทใหญ่ โรงพยาบาลหางดง จังหวัดเชียงใหม่จำนวน 70 คน โดยเลือกกลุ่มตัวอย่าง แบบเจาะจง คือเป็นกลุ่มทดลอง 35 คน กลุ่มควบคุม 35 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบ ด้วยโปรแกรมการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วม แบบสอบถามแบ่งเป็น 3 ส่วน คือ ส่วนที่ 1 แบบ สัมภาษณ์ข้อมูลส่วนบุคคล ส่วนที่ 2 แบบวัดความรู้เกี่ยวกับการนับลูกดิ้นในครรภ์ ส่วนที่ 3 แบบประเมินการบันทึกลูกดิ้นในครรภ์ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติทดสอบไคสแควร์ สถิติเชิง พรรณนา และสถิติทดสอบค่าที

ผลการวิจัย พบว่าหญิงตั้งครรภ์ชาวไทใหญ่กลุ่มที่ได้รับโปรแกรมการเรียนรู้แบบมีส่วน ร่วมมีคะแนนเฉลี่ยของความรู้และพฤติกรรมการนับลูกดิ้นสูงกว่าหญิงตั้งครรภ์ชาว ไทใหญ่กลุ่มที่ไม่ได้รับโปรแกรมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p< .001) และหญิงตั้งครรภ์ชาวไท ใหญ่กลุ่มที่ได้รับโปรแกรมการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมมีคะแนนเฉลี่ยของความรู้และพฤติกรรมการ นับลูกดิ้นสูงกว่าก่อนได้รับโปรแกรมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p< .001) จากผลการวิจัยครั้งนี้ สรุปได้ว่า โปรแกรมการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมช่วยพัฒนาความรู้ในการดูแลตนเองขณะตั้งครรภ์ สำหรับหญิงตั้งครรภ์ชาวไทใหญ่ได้

เอกสารอ้างอิง

Mangesi L, Hofmeyr GJ.[Online].Fetal movement counting for assessment of fetal wellbeing. Cochrane Database of Systematic Reviews.[cited 2014 January 29]. Available from: http://www.azdhs.gov/als/midwife/documents/reports/ resources/horfmeyr-et-al. pdf.

Cohen Jacob.[Online].Effect size table. [cited 2012April 12]. Available from:http://psych. unl.edu/hoffman/Sheets/Workshops/Power_Tables.pdf.

วิลัยรัตน์ พลางวัน, และสมพร วัฒนนุกูลเกียรติ. ผลของโปรแกรมการส่งเสริมการรับรู้ความสามารถของ ตนเองต่อพฤติกรรมสุขภาพด้านโภชนาการของหญิงตั้งครรภ์วัยรุ่น. วารสารสมาคมพยาบาลแห่ง ประเทศไทย สาขาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 2550; 30(2): 16-22.

สมฤทัย บุญชูดวง, วิภารัตน์ จุฑาสันติกุล, อำพรรณ จันทรโรกร และวิรัตน์ วคินวงศ์. การใช้สื่อวิดีทันศ์ เรื่องการฝึกการหายใจแบบมีประสิทธิภาพเพื่อการเตรียมตัวผู้ป่วยก่อนได้รับยาระงับความรู้สึก. ศรีนครินทร์เวชสาร 2555; 27(2): 139-146.

เปมิกา บุตรจันทร์, วิรัติ ปานศิลา, สุระ วิเศษศักดิ์. การเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมโดยใช้สื่อผสมเพื่อการ ส่งเสริมสุขภาพหญิงตั้งครรภ์วัยรุ่นที่ตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์ โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชเลิงนกทา จังหวัดยโสธร. วารสารโรงพยาบาลมหาสารคาม 2558; 12(2): 93-99.

วรารัตน์ แย้มโสภี. ผลของโปรแกรมการเยี่ยมโดยการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมต่อความรู้และพฤติกรรมใน หญิงตั้งครรภ์ที่ได้รับยาระงับความรู้สึกแบบทั่วไปเพื่อการผ่าตัดคลอด ในสถาบันบำราศนราดูร. วารสารกองการพยาบาล 2553; 37(2): 50-63.

บุญมี ภูด่านงัว. บทบาทพยาบาลในการส่งเสริมการดูแลตนเองของหญิงตั้งครรภ์ต่อการนับและบันทึก ลูกดิ้น. วารสารพยาบาลศาสตร์และสุขภาพ 2557; 37(1):135-146.

วัฒนาพร ระงับทุกข์. แผนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง.กรุงเทพฯ: วัฒนาพานิช; 2543.

กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข. คู่มือฝึกอบรมแบบมีส่วนร่วม. พิมพ์ครั้งที่ 4. กรุงเทพฯ: วงศ์กมลโปรดักชั่น จำกัด; 2544.

ประภาเพ็ญ สุวรรณและ สวิง สุวรรณ. พฤติกรรมศาสตร์ พฤติกรรมสุขภาพและสุขศึกษา. กรุงเทพฯ: คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล; 2536.

สร้อย อนุสรณ์ธีรกุล, และพัชรี จันทอง. ผลของโปรแกรมการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมต่อพฤติกรรมการควบคุม อาหารของหญิงตั้งครรภ์ที่เป็นโรคเบาหวาน. วารสารพยาบาลศาสตร์และสุขภาพ 2557; 37(1): 51-59.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2017-06-01

รูปแบบการอ้างอิง

จาอ้าย ก., บุษยาวรรณ จ., & นินเจริญวงษ์ ภ. (2017). ผลของโปรแกรมการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมต่อความรู้และพฤติกรรม การนับลูกดิ้นของหญิงตั้งครรภ์ชาวไทใหญ่ โรงพยาบาลหางดง จังหวัดเชียงใหม่. วารสารสมาคมพยาบาลแห่งประเทศไทยฯ สาขาภาคเหนือ, 23(1), 32–42. สืบค้น จาก https://he01.tci-thaijo.org/index.php/jnorthnurse/article/view/195686

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิจัย