การศึกษาความต้องการแก้ไขปัญหาการติดเกม และความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยส่วนบุคคลกับการรับรู้พฤติกรรมการติดเกมของเด็กวัยเรียน ในเขตอำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก
Article Sidebar
Main Article Content
บทคัดย่อ
การศึกษานี้เป็นการวิจัยเชิงพรรณนามีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาการรับรู้พฤติกรรมการติดเกมและความต้องการแก้ไขปัญหาการติดเกมของเด็กวัยเรียนและผู้ปกครอง และ2) ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรของปัจจัยส่วนบุคคลกับการรับรู้พฤติกรรมการติดเกมของเด็กวัยเรียน กลุ่มตัวอย่าง คือ เด็กนักเรียน อายุ 10-15 ปี ที่ศึกษาอยู่ในภาคการศึกษาที่ 2 ปีการศึกษา 2564 ในโรงเรียนขยายโอกาส เขตอำเภอเมืองจังหวัดพิษณุโลก จำนวน 250 คน และผู้ปกครองของเด็ก จำนวน 250 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แบบสอบถามข้อมูลทั่วไป แบบสอบถามการรับรู้พฤติกรรมการติดเกมฉบับเด็กและฉบับผู้ปกครอง (เครื่องมือมาตรฐาน) มีค่าความเที่ยงเท่ากับ 0.87 และ 0.89 ตามลำดับ แบบสอบถามความต้องการการแก้ไขปัญหาเด็กติดเกมฉบับเด็กและฉบับผู้ปกครอง ซึ่งผ่านการตรวจความตรงเชิงเนื้อหามีค่าเท่ากับ 0.78 และ 0.82 และความเที่ยงมีค่าเท่ากับ 0.81 และ 0.86 ตามลำดับ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติหาค่าความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน สหสัมพันธ์อีต้า และสหสัมพันธ์สเปียร์แมน
ผลการวิจัยพบว่า 1) เด็กวัยเรียนส่วนใหญ่มีการรับรู้พฤติกรรมการติดเกมอยู่ในระดับปกติ ร้อยละ 65.2 โดยเด็กวัยเรียนเพศหญิงมีการรับรู้พฤติกรรมการติดเกมระดับคลั่งไคล้ ร้อยละ 20.6 และน่าจะติดเกม ร้อยละ 14.0 สอดคล้องกับเด็กวัยเรียนเพศชายที่มีการรับรู้พฤติกรรมการติดเกมระดับคลั่งไคล้ ร้อยละ 28.1 และน่าจะติดเกมร้อยละ 7.0 และพบว่าความต้องการแก้ไขปัญหาเด็กติดเกมในเด็กนักเรียน มีความต้องการด้านการสนับสนุนทางอารมณ์มากที่สุด ซึ่งแตกต่างจากผู้ปกครองของเด็กที่มีการรับรู้พฤติกรรมการติดเกมของเด็กระดับน่าจะติดเกม ร้อยละ 20.0 และระดับระดับคลั่งไคล้ ร้อยละ 18.8 และมีความต้องการแก้ไขปัญหาของเด็กติดเกมด้านการสนับสนุนด้านการให้การประเมินมากที่สุด ได้แก่ การให้ข้อมูลป้อนกลับ และ 2) จากการศึกษาความสัมพันธ์ตัวแปร พบว่า เพศ ระดับการศึกษา อายุ แหล่งการเข้าถึงอินเตอร์เน็ตของเด็กมีความสัมพันธ์กับการรับรู้พฤติกรรมการติดเกมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (η = .35, p< .01; p = -.17, p< .01; p = -.15, p< .05; η = .12, p< .05) แต่การอาศัยอยู่กับบิดามารดาไม่มีความสัมพันธ์กับการรับรู้พฤติกรรมการติดเกมของเด็กวัยเรียน จากผลการศึกษานี้พบว่า เด็กวัยเรียนเริ่มมีปัญหาน่าจะติดเกมและคลั่งไคล้ในการเล่นเกม ดังนั้นบุคลากรทางสุขภาพและผู้ที่เกี่ยวข้องควรมีการวางแผนเพื่อช่วยเหลือ และเฝ้าระวังป้องกันปัญหาการติดเกม โดยคำนึงถึงความต้องการแก้ไขปัญหาทั้งในกลุ่มเด็กวัยเรียนและผู้ปกครองและตัวแปรที่เกี่ยวข้องดังกล่าว
Article Details
อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เอกสารอ้างอิง
Apisitwasana, N., Srichairattanakull, J., & Thiammok, M. (2021). Game addiction situation and factors affecting to game addiction among primary school student under NakhonPathom primary educational service area office 2. Journal of health and nursing research, 37(3), 254-266. [In Thai].
Aunjaroenkul, W., & Teaukul, S. (2016). Game addiction ammong the primary school students under the Bangkok Metropolitan Education office in Sathorn district. Journal of Clinical Psychology, 48(1), 1-12. [In Thai].
Baysak, E., Yertutanol, F. D. K., Dalgar, I., & Candansayar, S. (2018). How game addiction rates and related psychosocial risk factors change within 2-Years: A follow-up study. Psychiatry Investigation, 15(10), 984-990. doi:10.30773/pi.2018.08.16
Charoenwanit, S. (2014). Game addiction behaviors: Impacts and preventions. Thai Science and Technology Journal, 22(6), 871-879. [In Thai].
Chachvarat, P., & Pechkwang, D. (2013). Factors related to game addiction among teenagers. Kasalongkham Research Journal, 7(1), 39-48. [In Thai].
Chung, T., Sum, S., Chan, M., Lai, E., & Cheng, N. (2019). Will esports result in a higher prevalence of problematic gaming? A review of the global situation. Journal of Behavioral Addictions, 8(3), 384-394. doi:10.1556/2006.8.2019.46
House, J.S. (1981).The nature of social support. In M.A.Reading (Ed.), Work stressand social support. California: Addison–Wesley.
Kolkijkovin, V., Wisitpongaree, C., Techakasem, P., Pornnoppadol P., & Supawattanabodee, B.. (2015). Computer game addiction: Risk and protective factors in students in Dusit District, Bangkok. Vajira Medical Journal, 59(3), 1-13. [In Thai].
Nakon, A., & Kumruangrit, S. (2020). Factors related to game addiction among Prathom Suksa 4-6 School children. Journal of Social Sciences and Humanities, 46(2), 111-141. [In Thai].
Nontachot., P. (2015). The development of the prevention models of computer game addiction problems for the youth by community participation in Muang Uttaradit Municipality. Journal of Social Academic, 8(1), 1-13. [In Thai].
Pengpan, K. (2017). Preventing health problems of childhood addicted to online games.
Journal of Ratchathani Innovative Health Sciences, 1(1), 16-32. [In Thai].
Pornnoppadon, C. (2018). Internet gaming disorder. In S. Sucharitpong, R. Roongpraiwan, T. Hansakunachai, B. Benjasuwantep, A. Fuengfoo, J. Chuthapisith, & P. Rojmahamongkol (Eds.). Child development and behavior volume 4 (pp. 645-661). Bangkok: PA Living.
Saunders, J. B., Hao, W., Long, J., King, D. L., Mann, K., Fauth-Bühler, M., . . . Poznyak, V. (2017). Gaming disorder: Its delineation as an important condition for diagnosis, management, and prevention. Journal of Behavioral Addictions, 6(3), 271-279. doi:10.1556/2006.6.2017.039
Theeranate, C. (2011). The impact of media on children and adolescents' health. In T. Hansakunachai, R. Roongpraiwan, C. Theeranate, A. Fuengfoo, S. Sucharitpong, & P. Noipayak (Eds.). Child development and behavior for general practice (pp. 268-284). Bangkok: Beyond Enterprise.
Taechoyotin, P., Tongrod, P., Thaweerungruangkul, T., Towattananon, N., Teekapakvisit, P., Aksornpusitpong, C., . . . Piyaraj, P. (2020). Prevalence and associated factors of internet gaming disorder among secondary school students in rural community, Thailand: A cross-sectional study. BMC research notes, 13(1), 1-7. doi:10.1186/s13104-019-4862-3
Visanuyothin, T., Wanpen W., Wichai S., Arunruang, P., Yothinchatchawan C., Thiamsaeng, T.,…Late, N..(2013). A survey of risk behavior problems and game addiction among students in pilot schools of the student support system. Retrieved from http://new.smartteen.net/_admin/file-downloadlist/FM-441-1559223711.pdf
Varma, P., & Cheasakul U. (2016). The influence of game addiction and internet addiction among university students on depression stress and anxiety mediated by self-regulation and social support. Journal of Business Administration, 5(2), 45-57. [In Thai].
