การพัฒนาวิธีการคุ้มครองสุขภาพผู้ไม่สูบบุหรี่ในสถานบริการสาธารณสุขจากการได้รับควันบุหรี่มือสอง
Article Sidebar
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาสถานการณ์การสูบบุหรี่และการได้รับควันบุหรี่มือสองในสถานบริการสาธารณสุข ศึกษาความรู้ ทัศนคติ และการพัฒนาวิธีการคุ้มครองสุขภาพผู้ไม่สูบบุหรี่ในสถานบริการสาธารณสุขจากการได้รับควันบุหรี่มือสอง เป็นการวิจัยและพัฒนา แบ่งออกเป็น 2 ระยะ คือ ระยะที่ 1 การศึกษาสถานการณ์การได้รับควันบุหรี่มือสองภายในสถานบริการสาธารณสุข ใช้แบบสัมภาษณ์เก็บข้อมูลกลุ่มตัวอย่างโดยวิธีการสุ่มแบบบังเอิญ จำนวน 372 คน ระยะที่ 2 การพัฒนาวิธีการคุ้มครองสุขภาพผู้ไม่สูบบุหรี่ในสถานบริการสาธารณสุข กลุ่มตัวอย่างสุ่มแบบเจาะจงโดยวิธีการการสนทนากลุ่ม วิเคราะห์ข้อมูลด้วยค่าเฉลี่ย ร้อยละ และการวิเคราะห์เนื้อหา ผลการวิจัยพบว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เป็นเพศชาย ร้อยละ 51.2 มีอายุเฉลี่ย 41 ปี จบการศึกษาระดับประถมศึกษา ร้อยละ 35.8 ประกอบอาชีพเกษตรกรรม ร้อยละ 30.1 มี กลุ่มตัวอย่างสูบบุหรี่ ร้อยละ 26.6 เคยสูบบุหรี่ในสถานบริการสาธารณสุข ร้อยละ 28.28 ได้รับควันบุหรี่มือสองในสถานบริการสาธารณสุข ร้อยละ 37.63 และพบเห็นการสูบบุหรี่ ร้อยละ 45.17 กลุ่มตัวอย่างมีระดับความรู้และทัศนคติเรื่องอันตรายของบุหรี่และควันบุหรี่มือสองอยู่ในระดับปานกลาง วิธีการคุ้มครองสุขภาพผู้ไม่สูบบุหรี่ในสถานบริการสาธารณสุขจากการได้รับควันบุหรี่ คือ 1)สร้างกฎระเบียบทางสังคม การเพิ่มมาตรการณ์ความเข้มงวดทางกฎหมาย 2)รณรงค์ให้ความรู้ ปลูกฝังจิตสำนึก ตามสื่อต่างๆของชุมชน 3)สร้างคลินิกอดบุหรี่ สนับสนุนการเลิกบุหรี่ 4) สร้างสิ่งแวดล้อมใหม่ในสถานบริการสาธารณสุขป้องกันการสูบบุหรี่
Article Details
เอกสารอ้างอิง
Bureau of Tobacco Control, Department of Health, Ministry of Public Health. (2014). Tobacco products control act B.E. 2560-2664. Retrieved 17 February 2019 from http://lan.ddc.moph.go.th/ meeting 30_1augsep/meetting30_1 /Documents/7.%20 NATI/3 แผนงานควบคุมการบริโภคยาสูบ.pdf . [In Thai].
Center for Disease Control and Prevention. (2014). Smoking and heart disease and stroke. Retrieved 20 August 2015 from https://www.cdc.gov/tobacco/basic_information/secondhand_smoke/index.htm. [In Thai].
Kengganpanich, M., & Kengganpanich, T. (2016). Health promotion strategies and tobacco control with community based intervention. Retrieved 20 August 2015 from file:///C:/Users/anukool.ma /Downloads/175722-Article%20Text-497738-1-10-20190304%20 (12).pdf. [In Thai].
Pitayarangsarit, S. (2012). Tobacco consumption statistics report of Thailand, 2018. Bangkok. PPhasi haroen: M.K. Press. [In Thai].
Pitayarangsarit, S., & Punkrajang P. (2018). Tobacco consumption statistics report of Thailand, 2018. Bangkok. PPhasi haroen: M.K. Press. [In Thai].
Pun-ai, W, Pattanathaburt, P., & Nimpitakpong, P. (2018). Actions in compliance with the non-smoker’s health protection act B. E. 2535 among the headlLeaders of government’s premises in Phitsanulok province. Journal of Nursing Science & Health, 12(1), 161-172. [In Thai]
Suwanwaiphatthana, W., Waithayavongkorn, N., & Aunjangwanga, W. (2013). The relationship between knowledge and attitude of cigarette smokers toward protecting family members from secondhand smoke. Journal of Boromarajonani College of Nursing, Nakhonratchasima, 19(1), 31-41. [In Thai]
Thajang, S., Daenseekaew, S., & Thanomsup, R. (2017). Review of minimizing cigarette smoke exposure for hypertensive patients. Retrieved 17 February 2019 from http://jes.rtu.ac.th/rtunc2017/pdf/. [In Thai].
Thajang, S., & Daenseekaew, S. (2016). Empowerment of people with hypertension in minimizing cigarette smoke exposure. Journal of Nursing and Health Care, 34(4), 87-94.
Thaihealth. (2015). About Thaihealth. Retrieved 20 August 2018 from https://www.Thaihealth.or./Content/42932-ผลของควันบุหรี่มือสอง%20ต่อสุขภาพของผู้ได้รับควันบุหรี่.html. [In Thai].
Vathesatogkit, K. (2012). Nurse and cigarette. Bangkok: Pimdee Press. [In Thai]
World Health Organization. (2019). Make everyday Word no tobacco day. Retrieved 16 September 2017 from https://www.who.int/tobacco/wntd/en/. [In Thai].
Yamane, T. (1973). Statistics: An introduction analysis (2nded.). New Yok: Harper & Row.
