อิทธิพลของวัฒนธรรมองค์การแบบสร้างสรรค์ต่อการเป็นองค์การแห่งการเรียนรู้ของพยาบาล วิชาชีพโรงพยาบาลแพร่
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาระดับของความเป็นองค์การแห่งการเรียนรู้ วัฒนธรรม องค์การแบบสร้างสรรค์และเพื่อศึกษาอำนาจการพยากรณ์ของวัฒนธรรมองค์การแบบสร้างสรรค์ต่อความ เป็นองค์การแห่งการเรียนรู้ของพยาบาลวิชาชีพ กลุ่มตัวอย่างเป็นพยาบาลวิชาชีพที่ปฏิบัติงานในโรงพยาบาล แพร่ จำนวน 212 คน เครื่องมือที่ใช้เป็นแบบสอบถาม 3 ส่วน ประกอบด้วยข้อมูลส่วนบุคคล วัฒนธรรม องค์การแบบสร้างสรรค์ และความเป็นองค์การแห่งการเรียนรู้ของพยาบาลวิชาชีพ ผ่านการตรวจสอบ ความตรงของเนื้อหาโดยผู้เชี่ยวชาญด้านบริหารการพยาบาล 5 ท่านและมีค่าความตรงตามเนื้อหา (IOC) ระหว่าง 0.80-1.00 ทดสอบความเที่ยงของแบบสอบถามโดยคำนวณหาค่าสัมประสิทธิ์แอลฟาของ ครอนบาคโดยแบบสอบถามความเป็นองค์การแห่งการเรียนรู้มีค่าแอลฟ่าเท่ากับ 0.96 และวัฒนธรรมองค์การ แบบสร้างสรรค์มีค่าแอลฟ่าเท่ากับ 0.82 วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบน มาตรฐาน และการวิเคราะห์การถดถอยพหุคูณเชิงเส้นตรงด้วยวิธีการคัดเลือกตัวแปรแบบขั้นตอน ผลการวิจัยพบว่าพยาบาลวิชาชีพโรงพยาบาลแพร่มีค่าเฉลี่ยของวัฒนธรรมองค์การแบบสร้างสรรค์ และค่าเฉลี่ยของความเป็นองค์การแห่งการเรียนรู้ โดยรวมอยู่ในระดับมาก ( = 3.90, SD = 0.36 และ = 3.73, SD = 0.40 ตามลำดับ) วัฒนธรรมองค์การแบบสร้างสรรค์สามารถพยากรณ์การเป็นองค์การ แห่งการเรียนรู้ได้ โดยมิติมุ่งบุคคลสามารถพยากรณ์การเป็นองค์การแห่งการเรียนรู้อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ได้สูงสุด ร้อยละ 56.50 (R2 = 0.56, p < .01) ส่วนมิติมุ่งไมตรีสัมพันธ์พยากรณ์การเป็นองค์การแห่งการ เรียนรู้ได้เพิ่มขึ้นร้อยละ 4 (R2change = 0.04, β = 0.22, p < .01) และมิติมุ่งความสำเร็จพยากรณ์การเป็น องค์การแห่งการเรียนรู้ได้เพิ่มขึ้นอีกร้อยละ 2.0 (R2change = 0.02, β = 0.15, p < .01)
Article Details
เอกสารอ้างอิง
ประจำปี ฝ่ายการพยาบาลโรงพยาบาลแพร่
2560.แพร่: โรงพยาบาลแพร่.
กลุ่มงานจิตเวช โรงพยาบาลแพร่. (2557). โครงการ
ได้งาน ได้สุข.แพร่:โรงพยาบาลแพร่.
จันทร์ฉาย ยมสูงเนิน. (2554). การวิเคราะห์ปัจจัยที่
ส่งผลต่อความเป็นองค์การแห่งการเรียนรู้ของ
สถานศึกษาขั้นพื้นฐาน. วารสารวิชาการ
มหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย, 5(1), 31-41.
จิรภา เพ็งฉาย. (2558). ความสัมพันธ์ระหว่างภาวะ
ผู้นำการเปลี่ยนแปลงของหัวหน้าหอผู้ป่วย
วัฒนธรรมองค์การแบบสร้างสรรค์กับความ
เป็นองค์การแห่งการเรียนรู้ตามการรับรู้ของ
พยาบาลประจำการโรงพยาบาลสังกัดกรมแพทย์
ทหารเรือ. วิทยานิพนธ์ พย.ม., มหาวิทยาลัย บูรพา,
ชลบุรี.
ชนิดา จิตตรุทธะ.(2559). วัฒนธรรมองค์การ:องค์กร
ปกครองส่วนท้องถิ่นไทยและปัจจัยกำหนด
ความสำเร็จทางวัฒนธรรม.กรุงเทพมหานคร:
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
ณรงค์วิทย์ แสนทอง. (2553). วัฒนธรรมองค์การคุณค่า
ที่หาซื้อไม่ได้แต่สร้างได้.กรุงเทพฯ: ไอซีดี พรี
เมียร์.
ทองดี ชัยพานิช. (2554). กลยุทธการสร้างองค์กรแห่ง
การเรียนรู้. กรุงเทพฯ:มหาวิทยาลัยสุโขทัย
ธรรมาธิราช.
นราภรณ์ พุกน้อย. (2555). การศึกษาความสัมพันธ์
ของปัจจัยที่ส่งเสริมการเป็นองค์การแห่งการ
เรียนรู้ กรณีศึกษา โรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช.
วิทยานิพนธ์วท.ม., มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์,
กรุงเทพฯ.
บุญใจ ศรีสถิตย์นรากูร. (2550). ภาวะผู้นำและกลยุทธ์
การจัดการองค์กรพยาบาลในศตวรรษที่ 21.
กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
บุญใจ ศรีสถิตย์นรากูร. (2553). ระเบียบวิธีวิจัยทาง
พยาบาลศาสตร์(พิมพ์ครั้งที่ 7). กรุงเทพฯ:
ยูแอนด์ไอ อินเตอร์มีเดีย.
บุญช่วย ศิริเกษ. (2560). การศึกษาวัฒนธรรมองค์การ
แบบสร้างสรรค์กับการเป็นองค์กรแห่งการ
เรียนรู้ในมหาวิทยาลัย มหามกุฏราชวิทยาลัย
วิทยาเขตศรีล้านช้าง. วารสารสมาคมนักวิจัย,
22(2), 65-69.
เพ็ญศรี ฉายสบัด. (2551). ปัจจัยที่มีผลต่อการเป็น
องค์การแห่งการเรียนรู้ของกลุ่มงานการ
พยาบาลโรงพยาบาลชุมชนเขต 7 สังกัดกระทรวง
สาธารณะสุข. วิทยานิพนธ์พย.ม.,มหาวิทยาลัย
สุโขทัยธรรมาธิราช,นนทบุรี.
ภัคสิริ แอนิหน. (2557). ปัจจัยที่มีผลต่อการเป็นองค์กร
แห่งการเรียนรู้ของโรงพยาบาลนครธน.
วิทยานิพนธ์ ศศ.ม., มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์,
กรุงเทพฯ.
โรงพยาบาลแพร่. (2560). รายงานประจำปี โรงพยาบาล
แพร่ 2560.แพร่:โรงพยาบาลแพร่.
วรรณวิมล คงสุวรรณ. (2553). รูปแบบความสัมพันธ์
เชิงสาเหตุองค์กรแห่งการเรียนรู้ทางการ
พยาบาลในโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยของรัฐ.
ดุษฎีนิพนธ์ ปร.ด., มหาวิทยาลัยคริสเตียน.
กรุงเทพฯ.
มาร์ควอร์ท, เอ็ม. เจ. (2557). การพัฒนาองค์การแห่งการ
เรียนรู้ (กานต์สุดา มาฆะศิรานนนท์, ผู้แปล).
กรุงเทพฯ: ส.เอเซียเพรส. (ต้นฉบับภาษาอังกฤษ
พิมพ์ ค.ศ. 2002).
สมนึก เอื้อจิระพงษ์พันธ์ และเพ็ญนภา ประภาวัต.
(2552). องค์การแห่งการเรียนรู้กรณีศึกษา:
โรงพยาบาลดอนสัก จังหวัดสุราษฎร์ธานี.
วารสารวิทยาการจัดการ,26(1), 33-56.
เสาวลักษณ์ จิรธรรมคุณ,อรุณรัตน์ เทพนา และธัญยรัชต์
องค์มีเกียรติ. (2559). การบริหารการพยาบาล
ยุค 4G.กรุงเทพฯ: TBS Product.
อังคณา หิรัณย์ภิญโญภาศ และกัญญดา ประจุศิลป.
(2559). ปัจจัยทำนายสมรรถนะพยาบาลวิชาชีพ
หน่วยผู้ป่วยวิกฤต หัวใจและหลอดเลือด.
วารสารพยาบาลโรคหัวใจและทรวงอก,27(2),
71-84.
Cooke,R.& Lafferty, J. (1989)..Level V: Organizational
culture inventory - form I.Plymouth MI: Human
Synergistics.
Cooke, R. A.&Szumal, J.L. (2000).Using the
organizational culture inventory to understand
the operating cultures of organizations. In
N. M.
Ashkanasy, C.,Chang, S.C. & Lee, M.S. (2007).A study
on relationship among leadership, organizational
culture, the operation of learning organization
and employees’ job satisfaction.The Learning
Organization, 14(2), 155-185.
Chang, S.C. & Lee, M.S. (2007). A study on relationship
among leadership, organizational culture, the
operation of learning organization and
employees’ job satisfaction. The Learning
Organization, 14 (2), 155-185.
Jeong, S.H., Lee, T., Kim, I.S., Lee, M.H.& Kim, M.J.
(2007).The effect of nurses’ use of the Principles
of learning organization on organizational
effectiveness.Journal of Advanced Nursing,
58(1), 53-62.
Kavita, S. (2010). An Analysis of Relationship Between
The Learning Organization and Organization
Culturein Indian Business Organization.
Organization and Market in Emerging
Economies, 1(1), 1-50.
Marquardt, M. J. (2002).Building the Learning
Organization: Mastering the 5 Elementsfor
Corporate Learning (2nded.). Palo Alto, CA:
Davies-Black.