ผลของโปรแกรมการสร้างเสริมสุขภาพต่อพฤติกรรมสร้างเสริมสุขภาพ และอัตราการกรองของไตในผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังระยะที่ 3
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยกึ่งทดลองนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลของโปรแกรมการสร้างเสริมสุขภาพต่อพฤติกรรมสร้าง เสริมสุขภาพและอัตราการกรองของไต ในผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังระยะที่ 3 กลุ่มตัวอย่างเป็นผู้ป่วยโรคไตเรื้อรัง ระยะที่ 3 จำนวน 60 คน คัดเลือกตามคุณสมบัติที่กำหนด และจับคู่ให้มีคล้ายคลึงกัน ในด้านเพศ อายุ และ อัตราการกรองของไต แบ่งเป็นกลุ่มทดลอง และกลุ่มควบคุม กลุ่มละ 30 คน กลุ่มทดลองได้รับโปรแกรมการ สร้างเสริมสุขภาพ เป็นเวลา 12 สัปดาห์ ส่วนกลุ่มควบคุมได้รับการดูแลตามปกติ เก็บข้อมูลโดยใช้แบบสอบ ถามข้อมูลส่วนบุคคล แบบสอบถามพฤติกรรมสร้างเสริมสุขภาพ และวัดอัตราการกรองของไตใช้เครื่องตรวจ วิเคราะห์โดยEnzymatic ทางห้องปฏิบัติการคำนวณ eGFR ใช้สูตร CKD-EPI วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติ เชิงบรรยาย Independent t-test และ Paired t-test ผลการวิจัยพบว่า ภายหลังได้รับโปรแกรมการสร้างเสริมสุขภาพ กลุ่มทดลองมีค่าคะแนนเฉลี่ย พฤติกรรมสร้างเสริมสุขภาพ ด้านความรับผิดชอบต่อสุขภาพ กิจกรรมทางกาย โภชนาการ สัมพันธ ภาพระหว่างบุคคล พัฒนาทางจิตวิญญาณ การจัดการความเครียด และพฤติกรรมสร้างเสริมสุขภาพโดยรวม สูงกว่าก่อนได้รับโปรแกรม และสูงกว่ากลุ่มควบคุมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิตที่ระดับ .05 เช่นเดียวกับ ค่าเฉลี่ย อัตราการกรองของไตในกลุ่มทดลอง หลังการทดลองสูงกว่าก่อนการทดลองอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และสูงกว่ากลุ่มควบคุมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05การวิจัยแสดงให้เห็นว่า โปรแกรมการสร้าง เสริมสุขภาพ ส่งผลต่อพฤติกรรมสร้างเสริมสุขภาพ ด้านความรับผิดชอบต่อสุขภาพ กิจกรรมทางกาย โภชนาการ สัมพันธภาพระหว่างบุคคล พัฒนาทางจิตวิญญาณ การจัดการความเครียด และอัตราการกรองของไตดีขึ้น จึงสามารถนำไปใช้เป็นแนวทางในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสร้างเสริมสุขภาพในกลุ่มผู้ป่วย โรคไตเรื้อรัง ระยะที่ 3 ได้
Article Details
เอกสารอ้างอิง
ผลของโปรแกรมส่งเสริมสุขภาพต่อดัชนีมวลกาย
เส้นรอบเอวและระดับฮีโมโกลบินเอวันซีใน
ผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ที่พึ่งได้รับการวินิจฉัย.
วารสารการพยาบาลและการดูแลสุขภาพ (Journal
of Nursing and Health Care), 32(2), 47-56.
กมลธร วัสสา, และวิพร เสนารักษ์. (2559). ผลของ
โปรแกรมส่งเสริมสุขภาพต่อระดับความดันโลหิต
ดัชนีมวลกายและเส้นรอบเอวในผู้ที่มีภาวะ
Prehypertension The Effect of Health
Promoting Program on Blood Pressure, Body
Mass Index and Waist Circumference in
Prehypertensive Person. วารสารการพยาบาล
และการดูแลสุขภาพ (Journal of Nursing and
Health Care),33(4), 65-73.
กาญจนา เหลี่ยมการค้า. (2556). ผลของโปรแกรมการ
สร้างเสริมสุขภาพต่อพฤติกรรมสุขภาพและ
ปัจจัยเสี่ยงที่ปรับเปลี่ยนได้ในประชาชนกลุ่ม
เสนี่ยงโรคหลอดเลือดหัวใจ. (วิทยานิพนธ์
พยาบาลศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชา การพยาบาล
เวชปฏิบัติชุมชน). บัณฑิตวิทยาลัย, มหาวิทยาลัย
นเรศวร.
จรูญรัตน์ รอดเนียม, สกุนตลา แซ่เตียว, และวรวรรณ
จันทวีเมือง. (2557). การรับรู้ประโยชน์การรับรู้
อุปสรรคและการรับรู้ความสามารถของตนเอง
กับพฤติกรรมสร้างเสริมสุขภาพและภาวะ
สุขภาพของนักศึกษาพยาบาล.วารสารพยาบาล
กระทรวง สาธารณสุข (Nursing Journal of The
Ministry of Public Health),23(3), 88-97.
ทิศนา แขมมณี. (2555).14 วิธีสอนสำหรับครูมืออาชีพ
พิมพ์ครั้งที่ 11.กรุงเทพฯ : จุฬาลงกรณ์
มหาวิทยาลัย.
เนวรัตน์ นวกุลพันธ์. (2555). ผลของโปรแกรมการ
สร้างเสริมสุขภาพต่อพฤติกรรมสุขภาพและ
การควบคุมโรคหลอดเลือดสมองของประชาชน
กลุม่ เสี่ยง. (วิทยานิพนธพ์ ยาบาลศาสตร มหาบัณฑิต
สาขาวิชาการพยาบาลเวชปฏิบัติชุมชน) บัณฑิต
วิทยาลัย, มหาวิทยาลัยนเรศวร.
เปรมใจ สุขศิริ และคณะ. (2553). การประยุกต์แบบแผน
การส่งเสริมสุขภาพของเพนเดอร์ในการลดภาวะ
ไขมันในเลือดของกำลังพล กองทัพเรือ.
วารสารพยาบาลสาธารณสุข, 24(1), 28-35.
พงศธร คชเสนี. (2558). Essentials in hemodialysis.
กรุงเทพฯ: สมาคมโรคไตแห่งประเทศไทย.
วิยะการ แสงหัวช้าง. (2556). ผลของการให้ความรู้โดยใช้
กระบวนการกลุ่มและการติดตามทางโทรศัพท์
ต่อความรู้และพฤติกรรมการป้องกันโรคหลอด
เลือดสมองในผู้สูงอายุเจ็บป่วยเรื้อรัง.วารสาร
ศูนย์การศึกษาแพทย์ศาสตร์คลินิกโรงพยาบาล
พระปกเกล้า (The Journal of Prapokklao
Hospital Clinical Medical Education),30
(4), 260-273.
สมาคมโรคไตแห่งประเทศไทย. (2558). แนวทางเวช
ปฏิบัติสำหรับโรคไตเรื้อรังก่อนการบำบัด
ทดแทนไต. (พิมพ์ครั้งที่1). กรุงเทพฯ: สมาคม
โรคไตแห่งประเทศไทย.
สิริชยา อังกูรขจรและสุนิดา ปรีชาวงศ์. (2557). ผลของ
โปรแกรมการสร้างเสริมสุขภาพตามแนวคิด
ของเพนเดอร์ต่อความร่วมมือในการรับประทาน
อาหารและยาของผู้ป่วยวัยผู้ใหญ่ที่มีภาวะหัวใจ
ล้มเหลว.วารสารพยาบาลโรคหัวใจและทรวงอก
(Journal of Nursing and Health Care), 25(2),
77-89.
สุปราณี กิติพิมพ์, วันเพ็ญ ภิญโญภาสกุล, และอรวมน
ศรียุกตศุทธ. (2013). ปัจจัยทำนาย พฤติกรรม
สร้างเสริมสุขภาพในผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังระยะ
แรกและระยะปานกลาง. วารสารพยาบาล (Thai
Journal of Nursing),62(4), 35-42.
สุนันทา คำพอ. (2540). การติดต่อสื่อสารกับผู้ป่วย และ
ครอบครัวทางโทรศัพท์.ใน ชนิตา มณีวรรณ
(บรรณาธิการ), คู่มือการปฏิบัติการพยาบาล
ที่บ้าน (หน้า 197-200). กรุงเทพฯ: บรรณศิลป์
พริ้นติ้ง
สุพิมพ์ อุ่นพรม. (2550). ผลของโปรแกรมการให้ความรู้
ด้านสุขภาพต่อพฤติกรรมสร้างเสริมสุขภาพ
ของประชาชนกลุ่มเสี่ยงโรคเบาหวานวัยผู้ใหญ่.
วารสารพยาบาลศาสตร์มหาวิทยาลัยนเรศวร.
1(1), 100-111.
อิษณี พุทธิมนตรี. (2550). Role of Nurse in CKD
Prevention. ในชมรมการพยาบาลโรคไตแห่ง
ประเทศไทย(บรรณาธิการ), Management of
Diabetic Patients with Chronic Kidney Disease,
(หน้า 1-12). กรุงเทพฯ: ชมรมการพยาบาลโรคไต
แห่งประเทศไทย.
Health Data Center.(2560). กลุ่มรายงานข้อมูลเพื่อตอบ
สนอง service plan สาขาไต. Retrieved from
https://hdcservice.moph.go.th/hdc/main/
index_pk.php
Lozano, R., Naghavi, M., Foreman, K., Lim, S., Shibuya,
K., Aboyans, V., &AlMazroa, M. A. (2013).
Global and regional mortality from 235 causes
of death for 20 age groups in 1990 and 2010: a
systematic analysis for the Global Burden of
Disease Study 2010. The Lancet, 380(9859),
2095-212
Pender,N.J.,Murdaugh,C.L.,andParsons,M.A. (2011).
Health Promotion In Practice.(6thed). Upper
saddle River,NJ:Pearson Education