การพัฒนาคุณภาพการป้องกันการพลัดตกหกล้มในผู้ป่วยสูงอายุ หอผู้ป่วยพิเศษอายุรกรรม โรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช

ผู้แต่ง

  • ศิริมา มณีโรจน์ กลุ่มงานการพยาบาลผู้ป่วยอายุรกรรม โรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช
  • รักชนก ชูเขียน กลุ่มงานการพยาบาลผู้ป่วยอายุรกรรม โรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช
  • วิชรา เสวกพรหม กลุ่มงานการพยาบาลผู้ป่วยอายุรกรรม โรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช
  • พรพนา อินทรสุวรรณ กลุ่มงานการพยาบาลผู้ป่วยอายุรกรรม โรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช
  • สุชานรี กิ่งรัตน์ กลุ่มงานการพยาบาลผู้ป่วยอายุรกรรม โรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช

คำสำคัญ:

การป้องกันการพลัดตกหกล้ม, การพัฒนาคุณภาพ

บทคัดย่อ

บทนำ :  การพลัดตกหกล้มในโรงพยาบาลเป็นเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ ส่งผลให้ผู้ป่วยได้รับบาดเจ็บ ระยะเวลานอนโรงพยาบาลนานขึ้นและมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น จำเป็นต้องมีการเฝ้าระวังอย่างเป็นระบบตามมาตรฐานของ 3P Safety เพื่อความปลอดภัยของผู้รับบริการ

วัตถุประสงค์ : เพื่อพัฒนาคุณภาพการป้องกันการพลัดตกหกล้มในผู้ป่วยสูงอายุ หอผู้ป่วยพิเศษ อายุรกรรม โรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช

วัสดุและวิธีการศึกษา : การพัฒนาคุณภาพครั้งนี้ใช้กระบวนการที่เรียกว่า โฟกัส พีดีเอสเอ 9 ขั้นตอน       กลุ่มตัวอย่างคือ 1) พยาบาลวิชาชีพ 25 คน และ 2) ผู้ป่วยสูงอายุที่รับไว้ในหอผู้ป่วยพิเศษอายุรกรรม 171 คน เก็บรวบรวมข้อมูล ม.ค.-มิ.ย. 2568 เครื่องมือ ประกอบด้วย 1) แบบสอบถามข้อมูลส่วนบุคคลของพยาบาล 2) แนวคำถามการสนทนากลุ่ม 3) แบบประเมินความเสี่ยงการพลัดตกหกล้ม I’M2 SA2F2E 4) แนวทางการป้องกันการพลัดตกหกล้ม CARE-ME model 5) แบบสอบถามความคิดเห็นของพยาบาล และ6) แบบบันทึกอุบัติการณ์การพลัดตกหกล้ม วิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณด้วยสถิติเชิงพรรณนา และเชิงคุณภาพด้วยการวิเคราะห์เนื้อหา 

ผลการศึกษา : พบว่าการประเมินความเสี่ยงการพลัดตกหกล้ม I’M2-SA2F2E (ฉันปลอดภัย) และแนวทางการป้องกันการพลัดตกหกล้มพัฒนาขึ้นคือ CARE-ME (ดูแลฉัน) ทำให้เกิดผลลัพธ์ที่ดี 1) ด้านกระบวนการ พบว่า คะแนนเฉลี่ยความเป็นไปได้ในการนำแนวทางไปใช้อยู่ในระดับมาก (M= 4.60, S.D.=0.40) 2) ด้านผลลัพธ์พบว่าอัตราการพลัดตกหกล้มลดลงเป็นศูนย์ (zero event) และความพึงพอใจโดยรวมของพยาบาล อยู่ในระดับมาก (M= 4.38, S.D.=0.32)

สรุป : การพัฒนาคุณภาพในครั้งนี้ ทำให้มีแบบประเมินความเสี่ยงและแนวทางการป้องกันการพลัดตกหกล้มที่ชัดเจน พยาบาลนำไปปฏิบัติได้สะดวก ผู้ป่วยได้รับบริการที่มีมาตรฐานส่งผลต่อมิติคุณภาพคือความปลอดภัย (safety) จึงควรนำแนวทางดังกล่าวไปใช้ในหอผู้ป่วยอื่น ๆ

เอกสารอ้างอิง

สถาบันรับรองคุณภาพสถานพยาบาล (องค์กรมหาชน). มาตรฐานโรงพยาบาลและบริการสุขภาพ ฉบับที่ 5. พิมพ์ครั้งที่ 2. นนทบุรี: ก.การพิมพ์เทียนกวง จำกัด; 2565.

Alamgir, H., Muazzam, S., Nasrullah, M. Unintentional falls mortality among elderly in the United States: time for action. Injury, 2012; 43 (12): 2065-071.

ฟาอิส วาเลาะแต, ศิริพันธุ์ ศิริพันธุ์. แนวทางปฏิบัติการป้องกันการพลัดตกหกล้มของผู้ป่วยสูงอายุ

ในโรงพยาบาล. วารสารมหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์. 2565; 14(2): 282-96.

Centers for Disease Control and Prevention (CDC). Older adults fall 2019. Cited 2025 Jan 20. Available : from https://www.cdc.gov/homeandrecreationalsafety/falls/index.htm

รัตนาพร ทามี พวงทิพย์ ชัยพิบาลสฤษดิ์ และปานตา อภิรักษ์นภานนท์. ความสัมพันธ์ระหว่าง ปัจจัยคัดสรรกับการพลัดตกหกล้มของผู้ป่วยในโรงพยาบาลเอกชน.วชิรสารการพยาบาล. 2561; 20(1): 12-25.

นันธิดา พันธุศาสตร์, สุรีพร กุมภคาม, วลัยพร นันท์ศุภวัฒน์ และกนกกานต์ วงศ์แสนสี. (2556).ประสิทธิผลของการใช้แนวปฏิบัติการเฝ้าระวัง/ป้องกันการพลัดตกหกล้ม “I’M SAFE”. วารสารสมาคมพยาบาลฯสาขาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ. 2556; 31(2): 111-22.

Mc Launghlin, C.P., Kaluzny, A.D. Continuous quality improvement in health care: Theory, implementation, and application. Maryland: Aspen; 1999.

Limpawattana P. Geriatric syndromes and interesting health issues. 2nd ed. Department of Medicine, Faculty of Medicine, Khon Kaen University. Klungnana vitthaya press ;2018: 203-18.

Chung, H., Coralic, A. A multidisciplinary assessment instrument to predict fall risk in hospitalized patients: A prospective matched pair care study. Journal of Nursing Education and Practice. 2016; 6 (6): 1-7.

Lecktip C, Woratanarat T, Bhubhanil S, Lapmanee S. Risk factors for falls in elderly. Journal of Medicine and Health Science. 2019; 26(1): 85-103.

Hignett, S., Sands, G., Youde, J., Griffiths, P. Targeting environmental factors to reduce elderly in-patient falls. In Proceedings of the 1st International Conference on Human Factors and Ergonomics in Healthcare/ 3rd International Conference on Applied Human Factors and Ergonomics [AHFE], 17-20 July 2010, Miami, USA. Cited 2025 Jan 15. Available : from http://dspace.Iboro.ac.uk/dspace

Assantachai P. Fall ascension in the elderly and prevention In: Assantachai P, editors. Common health problems in the elderly and prevention. 2nd ed. Bangkok: Department of Preventive and Social Medicine Siriraj Hospital Mahidol University; 2011: 51-66.

วรรณภา พฤกษะวัน, อรชร กันจีน๊ะ, ประไพศรี ปัญญาอิ่นแก้ว, เสาวณีย์ ฤดี และเยาวภา พรเวียง.การพัฒนารูปแบบการนิเทศทางคลินิกเพื่อป้องกันพลัดตกหกล้มของผู้ป่วยมะเร็งที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล. วารสารวิชาการวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนีสุพรรณบุรี. 2565; 5(1): 113-29.

เยาวเรศ ก้านมะลิ. การพัฒนารูปแบบบริการพยาบาลเพื่อป้องกันการพลัดตกหกล้มของผู้ป่วยที่รับรักษาในโรงพยาบาล. วารสารกองการพยาบาล. 2564; 48(1): 1-19.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2025-12-30

รูปแบบการอ้างอิง

1.
มณีโรจน์ ศ, ชูเขียน ร, เสวกพรหม ว, อินทรสุวรรณ พ, กิ่งรัตน์ ส. การพัฒนาคุณภาพการป้องกันการพลัดตกหกล้มในผู้ป่วยสูงอายุ หอผู้ป่วยพิเศษอายุรกรรม โรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช. MNST Med J [อินเทอร์เน็ต]. 30 ธันวาคม 2025 [อ้างถึง 31 ธันวาคม 2025];9(2):92-104. available at: https://he01.tci-thaijo.org/index.php/MNSTMedJ/article/view/284999

ฉบับ

ประเภทบทความ

นิพนธ์ต้นฉบับ