การปรับขนาดยาต้านจุลชีพสำหรับผู้ป่วยในที่มีภาวะไตบกพร่อง ณ โรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช
คำสำคัญ:
ภาวะไตบกพร่อง, ยาต้านจุลชีพ, การปรับขนาดยาบทคัดย่อ
บทนำ: ผู้ป่วยที่มีค่า e-GFR < 60 ml/min/1.73 m2 ต้องได้รับการทบทวนแนวทางการปรับขนาดยาต้านจุลชีพในโรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช เพื่อให้ผู้ป่วยเกิดความปลอดภัยในการใช้ยา
วัตถุประสงค์: 1) เพื่อศึกษาร้อยละของจำนวนครั้งการปรับขนาดยาต้านจุลชีพสำหรับผู้ป่วยในที่มีการติดตามระดับค่า e-GFR < 60 ml/min/1.73 m2 ตามสภาวะการทำงานของไต โดยอ้างอิงแนวทางการปรับขนาดยาต้านจุลชีพในผู้ป่วยที่มีภาวะไตบกพร่อง โรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช 2) เพื่อศึกษามูลค่ายาต้านจุลชีพเปรียบเทียบเมื่อปรับขนาดยาและไม่ปรับขนาดยาต้านจุลชีพสำหรับผู้ป่วยในที่มีภาวะไตบกพร่อง e-GFR < 60 ml/min/1.73 m2
วัสดุและวิธีการศึกษา: ทบทวนประวัติการใช้ยาต้านจุลชีพจากเวชระเบียนและฐานข้อมูลโปรแกรม HOS4 โรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช เก็บรวบรวมข้อมูลตั้งแต่เดือนเมษายน พ.ศ. 2562 จนถึงเดือนกันยายน พ.ศ. 2562 ในผู้ป่วยอายุ 18 ปีขึ้นไปที่นอนรักษาตัวในโรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราชซึ่งได้รับยาต้านจุลชีพและมีการติดตามค่า e-GFR < 60 ml/min/1.73 m2 อย่างน้อยจำนวน 1 ครั้งขณะนอนรักษา
ผลการศึกษา: จากการวิจัย พบว่าผู้ป่วยที่นอนรักษาในโรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราชได้รับการสั่งปรับขนาดยาต้านจุลชีพในผู้ป่วยที่มีภาวะไตบกพร่อง ค่า e-GFR < 60 ml/min 1.73 m2 คิดเป็นร้อยละ 94.19 (778/826 ราย) 1) ผู้ป่วยได้รับยาที่มีการปรับขนาดยาต้านจุลชีพอย่างเหมาะสม คิดเป็นร้อยละ 79.89 (9,953/12,459 ครั้ง) 2) มูลค่ายาต้านจุลชีพเมื่อปรับขนาดยาเทียบกับไม่ปรับขนาดยา คิดเป็น 141,922.46 บาท และ 232,757.52 บาท ตามลำดับ คาดว่าลดลงร้อยละ 39.02 คิดเป็นมูลค่า 90,835.06 บาท
สรุป: ทีมสหวิชาชีพควรตระหนักในการปรับขนาดยาต้านจุลชีพให้เหมาะสมแก่ผู้ป่วยแต่ละราย เพื่อให้เกิดความปลอดภัยในการใช้ยาและลดต้นทุนค่ายาให้แก่โรงพยาบาล
Downloads
เผยแพร่แล้ว
How to Cite
ฉบับ
บท
License
เนื้อหาและข้อมูลในบทความที่ลงตีพิมพ์ในมหาราชนครศรีธรรมราชเวชสาร ถือเป็นข้อคิดเห็นและความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความโดยตรงซึ่งกองบรรณาธิการวารสาร ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย หรือร่วมรับผิดชอบใด ๆ
บทความ ข้อมูล เนื้อหา รูปภาพ ฯลฯ ที่ได้รับการตีพิมพ์ในมหาราชนครศรีธรรมราชเวชสาร ถือเป็นลิขสิทธิ์ของมหาราชนครศรีธรรมราชเวชสาร หากบุคคลหรือหน่วยงานใดต้องการนำทั้งหมดหรือส่วนหนึ่งส่วนใดไปเผยแพร่ต่อหรือเพื่อกระทำการใด จะต้องได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากวารสารมหาราชนครศรีธรรมราชเวชสาร ก่อนเท่านั้น