คุณภาพชีวิตและความพึงพอใจต่อการรักษาของผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 ที่เข้าร่วมโครงการหวาน ชื่นใจเพื่อส่งเสริมและให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับโรคเบาหวานและสร้างทักษะเพื่อการดูแลตนเอง ของโรงพยาบาลศูนย์สระบุรี โดยเปรียบเทียบกับผู้ป่วยที่ไม่ได้เข้าร่วมโครงการ

Main Article Content

วิชญ์พล พิทักษ์สินพานิชย์

บทคัดย่อ

การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาคุณภาพชีวิตและความพึงพอใจต่อการรักษาของผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 ที่เข้าร่วมโครงการหวานชื่นใจ เพื่อส่งเสริมและให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับโรคเบาหวานและสร้างทักษะเพื่อการดูแลตนเอง (Diabetes self-management education and support) ของโรงพยาบาลศูนย์สระบุรี เปรียบเทียบกับผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 ที่ตรวจรักษาที่โรงพยาบาลศูนย์สระบุรีและไม่ได้เข้าร่วมโครงการดังกล่าว โดยมีรูปแบบการวิจัยเป็น การศึกษาเชิงวิเคราะห์แบบตัดขวาง (Cross-sectional analytical study) โดยศึกษาในกลุ่มตัวอย่างจำนวน 206 คน โดยได้แบ่งกลุ่มตัวอย่างออกไปสองกลุ่ม ได้แก่ กลุ่มที่เข้าร่วมโครงการหวานชื่นใจเพื่อส่งเสริมและให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับโรคเบาหวานและสร้างทักษะเพื่อการดูแลตนเองอย่างน้อย 3 เดือน และกลุ่มที่ไม่ได้เข้าร่วมโครงการดังกล่าว เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แบบสอบถามเกี่ยวกับคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยเบาหวาน Audit of Diabetes Dependent Quality of Life 19 (ADDQoL19) และแบบสอบถามเกี่ยวกับความพึงพอใจต่อการรักษาโรคเบาหวานของผู้ป่วย Diabetes Treatment Satisfaction Questionnaire (DTSQ) ผลการศึกษาพบว่าผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 ที่ตรวจรักษาเบาหวานที่โรงพยาบาลศูนย์สระบุรี ที่เข้าร่วมหวานชื่นใจ เพื่อส่งเสริม และให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับโรคเบาหวานและสร้างทักษะเพื่อการดูแลตนเอง (Diabetes Self-Management Education and Support; DSME/S) มีค่าเฉลี่ยระดับน้ำตาลในเลือดหลังอดอาหารดีกว่ากลุ่มที่ไม่ได้เข้าโครงการ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p<0.001) ค่าเฉลี่ยน้ำตาลสะสมย้อนหลังดีกว่ากลุ่มที่ไม่ได้เข้าโครงการอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p<0.001) นอกจากนี้ผู้ป่วยที่เข้าร่วมโครงการ มีค่าเฉลี่ยและค่ากลางของคุณภาพชีวิต โดยรวมดีกว่ากลุ่มที่ไม่ได้เข้าร่วมโครงการอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p<0.001) และพบว่าความพึงพอใจจากการรักษา โดยรวมมากกว่าผู้ที่ไม่ได้เข้าร่วมกิจกรรม (p<0.001) ดังนั้นแพทย์และบุคลากรที่เกี่ยวข้องควรให้ความรู้กับผู้ป่วยเบาหวานและเสริมสร้างทักษะการดูแลโรคเบาหวาน ในผู้ป่วยเบาหวานร่วมกับการรักษาเบาหวานทั่วไป เพื่อให้ผู้ป่วยมีการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้ได้ตามเป้าหมาย มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น มีความพึงพอใจต่อการรักษาโรคเบาหวานที่เป็นอยู่และลดการเกิดภาวะแทรกซ้อนในอนาคตของผู้ป่วย

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
1.
พิทักษ์สินพานิชย์ ว. คุณภาพชีวิตและความพึงพอใจต่อการรักษาของผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 ที่เข้าร่วมโครงการหวาน ชื่นใจเพื่อส่งเสริมและให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับโรคเบาหวานและสร้างทักษะเพื่อการดูแลตนเอง ของโรงพยาบาลศูนย์สระบุรี โดยเปรียบเทียบกับผู้ป่วยที่ไม่ได้เข้าร่วมโครงการ. JMPH4 [อินเทอร์เน็ต]. 11 มีนาคม 2020 [อ้างถึง 5 ธันวาคม 2025];10(2):22-33. available at: https://he01.tci-thaijo.org/index.php/JMPH4/article/view/248424
ประเภทบทความ
นิพนธ์ต้นฉบับ (บทความวิชาการ)

เอกสารอ้างอิง

1. สำนักโรคไม่ติดต่อ. ข้อมูลโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง. สถานการณ์โรคเบาหวาน. [บทความ].2562 [เข้าถึงเมื่อ 12 มีนาคม 2562]: เข้าถึงได้จาก: http://www.thaincd.com/2016/mission/documents-detail.php?id=13684&tid=32&gid=1-020

2. สมาคมโรคเบาหวานแห่งประเทศไทย. แนวทางเวชปฏิบัติสำหรับโรคเบาหวาน. [บทความ].2560. [เข้าถึงเมื่อ 12 มีนาคม 2562]: เข้าถึงได้จาก:https://www.dmthai.org/index.php/knowledge/healthcare-providers/cpg/810-diabetes-care-2019

3. Brunisholz KD, Briot P, Hamilton S, et al. Diabetes self-management education improves quality of care and clinical outcomes determined by a diabetes bundle measure. J Multidiscip Healthc 2014;7:533–542.

4. Cochran J, Conn VS. Meta-analysis of quality of life outcomes following diabetes self-management training. Diabetes Educ. 2008; 34 (5):815–23.

5. H wee W. Health-related quality of life in people with diabetes mellitus perspective from a multi-ethnic asian population [In PhD Thesis] Singapore: National University of Singapore; 2005.

6. Bradley, C. Todd, C. Gorton, T. Symonds, E. Martin, A. Plowright, R. The development of an individualised questionnaire measure of perceived impact of diabetes on quality of life: The ADDQoL. Qual. Life Res. 1999; 8(1-2): 79–91.

7. Bradley, C. Diabetes Treatment Satisfaction Questionnaire (DTSQ). In Handbook of Psychology and Diabetes: A Guide to Psychological Measurement in Diabetes Research and Practice, Bradley, editors. C. New York: Harwood Academic Publishers; 1994. p.111-112.

8. Stone DB. A study of the incidence and course of poor control in patient with diabetes
mellitus. Am J Med Sci.1961;24:436-444.

9. Rusdiana, Savira M, Amelia R. The effect of diabetes self-management education on Hba1c level and fasting blood sugar in type 2 diabetes mellitus patients in primary health care in binjai city of north Sumatera, Indonesia. Open Access Maced J Med Sci. 2018;6(4):715–8.

10. Cunningham AT, Crittendon DR, White N, Mills GD, Diaz V, Lanoue MD. The effect of diabetes self-management education on HbA1c and quality of life in African-Americans: A systematic review and meta-analysis. BMC Health Serv Res. 2018;18(1).

11. Kargar Jahromi M, Ramezanli S, Taheri L. Effectiveness of diabetes self-management education on quality of life in diabetic elderly females. Glob J Health Sci. 2015;7(1):10–5.