การประเมินผลการนำนโยบาย โครงการราชทัณฑ์ปันสุข ทำความดี เพื่อชาติ ศาสตร์ กษัตริย์ ไปปฏิบัติ ในเขตสุขภาพที่ 3 ปีงบประมาณ 2563
คำสำคัญ:
การประเมินผล, ราชทัณฑ์, ความดี, เขตสุขภาพที่3บทคัดย่อ
การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อ ประเมินผลสำเร็จในการนำนโยบายโครงการราชทัณฑ์ปันสุข ทำความดี เพื่อชาติ ศาสตร์ กษัตริย์ ในเขตสุขภาพที่ 3 ปีงบประมาณ 2563 และเพื่อได้ข้อเสนอแนะ เชิงนโยบายและเชิงปฏิบัติไปใช้ในการพัฒนาปรับปรุงไปปฏิบัติให้เหมาะสมกับพื้นที่ โดยใช้แนวคิดการประเมินผลนโยบายและองค์ประกอบสำคัญของการพัฒนาระบบบริการสาธารณสุขในเรือนจำ เป็นการวิจัยประเมินผล ที่ใช้ข้อมูลทั้งเชิงปริมาณและข้อมูลเชิงคุณภาพ ศึกษาระหว่างเดือน กุมภาพันธ์ 2563 – เดือน มิถุนายน 2563 ประชากร คือ ผู้เกี่ยวข้องในการดำเนินการพัฒนาระบบบริการสาธารณสุขในเรือนจำในเขตสุขภาพที่ 3 โดยศึกษาจาก กลุ่มตัวอย่าง 3 กลุ่ม คือ 1) ผู้รับผิดชอบโครงการราชทัณฑ์ฯ ระดับเขต จังหวัด โรงพยาบาล และเรือนจำ ในเขตสุขภาพที่ 3 (5 จังหวัด ได้แก่ นครสวรรค์ กำแพงเพชร อุทัยธานี พิจิตร และชัยนาท) จำนวน 26 คน 2) ผู้บัญชาการเรือนจำ รวม 6 คน 3) ผู้ต้องขังในเรือนจำ 5 แห่ง และทัณฑสถาน 1 แห่ง รวม 6 แห่ง จำนวน 1,388 คน เครื่องมือที่ใช้มี 8 ชุด คือ แบบสอบถามออนไลน์ฯ สำหรับเจ้าหน้าที่ แบบสัมภาษณ์เชิงลึกสำหรับผู้บัญชาการเรือนจำ แบบสนทนากลุ่ม แบบสอบถามสำหรับผู้ต้องขัง แบบรายงาน รจ.1 รจ.2 และ แบบรายงาน รจ.101 รจ.102 วิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณด้วยสถิติเชิงพรรณนา และวิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพด้วยการวิเคราะห์เนื้อหา (content analysis) ผลการศึกษา พบว่า การประเมินผลการนำนโยบายไปปฏิบัติที่สำเร็จ ได้แก่ สภาพทางการเมืองที่สนับสนุนนโยบายนี้ ลักษณะหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการนำนโยบายไปปฏิบัติที่เป็นเครือข่ายการทำงานตั้งแต่ระดับประเทศจนถึงระดับปฏิบัติในพื้นที่ การติดต่อสื่อสารที่รวดเร็วทันท่วงทีทางแอบปลิเคชั่นไลน์ (ร้อยละ 92.31) ความร่วมมือของเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง (ร้อยละ 80.77) การติดตามผลการดำเนินงาน (ร้อยละ 100.00) ผู้ต้องขังรับรู้ว่ามีโครงการราชทัณฑ์ปันสุขฯ (ร้อยละ 85.88) และการให้บริการสาธารณสุขสำหรับผู้ต้องขังในเรือนจำครบ 6 องค์ประกอบ (ร้อยละ 85.45) สำหรับการนำนโยบายสู่การปฏิบัติที่ไม่สำเร็จ คือ ความชัดเจนของนโยบายและแนวทางปฏิบัติในระดับมาก (ร้อยละ 67.31) ทรัพยากรที่เพียงพอต่อการดำเนินโครงการราชทัณฑ์ปันสุขฯในระดับมาก (ร้อยละ 68.27) ความพึงพอใจของเจ้าหน้าที่ต่อโครงการราชทัณฑ์ปันสุขฯในระดับมากร้อยละ (73.08) และ ความพึงพอใจของผู้ต้องขังต่อโครงการราชทัณฑ์ปันสุขฯในระดับมาก (ร้อยละ 66.86) คณะผู้ศึกษาได้ให้ข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย ข้อเสนอแนะสำหรับผู้ปฎิบัติและข้อเสนอแนะจากผู้ต้องขังเพื่อให้นโยบายนำไปปฏิบัติอย่างมีประสิทธิผลและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นและเหมาะสมตามบริบทของพื้นที่ต่อไป
เอกสารอ้างอิง
ทรงเปิดราชทัณฑ์ปันสุข.หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์.[อินเทอร์เน็ต] 2562 [เข้าถึงเมื่อ 28 พ.ค.2563].เข้าถึงได้จาก https://www.thaipost.net/main/detail/53455
กองบริหารการสาธารณสุขสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข. แนวทางการพัฒนาระบบบริการสาธารณสุขสำหรับผู้ต้องขังในเรือนจำ. กรุงเทพฯ : บริษัท บอร์น ทู บี พับลิชชิ่ง จำกัด ; 2562.
Mihail Nikolaevich Dudin, Evgenia Evgen’ev-na Frolova , Natalie Vladimirovna Gryzunova and Elena Borisovna Shuvalova. The Deming Cycle (PDCA) Concept as an Efficient Tool for Con-tinuous Quality Improvement in the Agribusiness .Asian Social Science; 2015.:239-246.
กองบริหารการสาธารณสุขสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข. แนวทางการพัฒนาระบบบริการสาธารณสุขสำหรับผู้ต้องขังในเรือนจำ. กรุงเทพฯ :บริษัท บอร์น ทู บี พับลิชชิ่ง จำกัด ; 2562.
สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข. คำสั่งสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ที่1/2563 เรื่องแต่งตั้งคณะทำงานตรวจราชการสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 3 ประจำปี 2563. คณะทำงานตรวจราชการประเด็นโครงการพระราชดำริ. สั่ง ณ วันที่ 2 มกราคม 2563 ลงนามโดย นายบุญชัย ธีระกาญจน์ ผู้ตรวจราชการกระทรวง ปฏิบัติราชการแทนปลัดกระทรวง. นครสวรรค์ : สำนักงานเขตสุขภาพที่ 3 นครสวรรค์ ; 2563.
วิชัย รูปขำดี. (2543). “นโยบายและการวางแผน” เอกสารประกอบคำสอน วิชาพื้นฐานนโยบายสังคมและการวางแผน สถาบันเทคโนโลยีสังคม (เกริก). (อัดสำเนา)
กองบริหารการสาธารณสุขสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข. แบบรายงาน สธ.รจ.101 และแบบรายงาน สธ.รจ.102 ประจำปี 2563. คณะทำงานตรวจราชการประเด็นโครงการพระราชดำริ. สั่ง ณ วันที่ 3 ธันวาคม 2562 ลงนามโดย นายยงยศ ธรรมวุฒิ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข.:สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข. นนทบุรี ; 2562.
ฮาบีบ๊ะ สังข์นุ้ย. การนำนโยบายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุมาปฏิบัติ : กรณีศึกษาเทศบาลตำบลหารเทา อำเภอปากพะยูน จังหวัดพัทลุง. วิทยานิพนธ์คณะรัฐศาสตร์มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร[อินเทอร์เน็ต].2558 [เข้าถึงเมื่อ 30 ก.ค.2563];1-92. เข้าถึงได้จาก http://intra.polsci.pn.psu.ac.th/edu_sha/filesha/04-06-2015_11-09-02_2-11.pdf
นฤนาท ญาณวิริโย. การนำนโยบายไปปฏิบัติด้านการส่งเสริมฟื้นฟู และพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวของเทศบาลตำบลสามชุก จังหวัดสุพรรณบุรี. วิทยานิพนธ์รัฐประศาสน ศาสตร์มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราช วิทยาลัย [อินเทอร์เน็ต].2555 [เข้าถึงเมื่อ 30 ก.ค.2563].เข้าถึงได้จาก http://sb.mcu.ac.th/site/thesiscontent_desc.php?ct=1&t_id=1786
ประณยา ชัยรังสีและคณะ.การนำนโยบายการพัฒนาสังคมไปปฏิบัติ : กรณีศึกษา สำนักงานปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์. วารสารการจัดการสมัยใหม่ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช[อินเทอร์เน็ต].2558 [เข้าถึงเมื่อ 30 ก.ค.2563] ; 11 : 151-156 . เข้าถึงได้จาก https://so04.tci-thaijo.org/index.php/stou-sms-pr/ar-ticle/view/16946
อมรรัตน์ ผิวทอง. การนำนโยบายโครงการคาราวานแก้จนไปปฏิบัติ : กรณีศึกษาอำเภอเมืองชัยนาท จังหวัดชัยนาท. วิทยานิพนธ์มหาวิทยาลัยบูรพา.[อินเทอร์เน็ต].2550 [เข้าถึงเมื่อ 30 ก.ค.2563] เข้าถึงได้จาก
http://www2.gspa.buu.ac.th/library/is/mpa48/48932693.pdf
ชรินทร์ ห่วงมิตร พงศ์ประณต ตองอ่อน และฐิติภัทร จันเกษม. การประเมินผลการนำนโยบายเร่งรัดการค้นหาผู้ป่ วยวัณโรคในเรือนจำสู่การปฏิบัติในพื้นที่ เขตสุขภาพที่ 3 พ.ศ.2560. นครสวรรค์ : สำนักงานป้ องกันควบคุมโรคที่ 3 จังหวัดนครสวรรค์ ; 2561.
รัชยา รัตนถาวร. รูปแบบการนำนโยบายส่งเสริมสุขภาพไปปฏิบัติในสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน.วารสารวิชาการมหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย ฉบับสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์[อินเทอร์เน็ต].2558 [เข้าถึงเมื่อ 30 ก.ค.2563];281-293 เข้าถึงได้จาก
https://so01.tcithaijo.org/index.php/EAUHJSocSci/article/download/44711/37064/
เศรษฐวัฒน์ โชควรกุล. นโยบายการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในเขตจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ. วารสารรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏกาฬสินธุ์[อินเทอร์เน็ต].2555 [เข้าถึงเมื่อ 30 ก.ค.2563];1:146-165.5) เข้าถึงได้จาก http://gjournal.ksu.ac.th/file/20150728_1149990765.pdf
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2020 วารสารโรคและภัยสุขภาพ สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 3 จังหวัดนครสวรรค์

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
ประกาศเกี่ยวกับลิขสิทธิ์
|
บทความที่เผยแพร่ในวารสารโรคและภัยสุขภาพสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 3 จังหวัดนครสวรรค์ ถือว่าเป็นผลงานทางวิชาการหรือการวิจัย และวิเคราะห์ ตลอดจนเป็นความเห็นส่วนตัวของผู้เขียน ไม่ใช่ความเห็นของสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 3 จังหวัดนครสวรรค์ หรือกองบรรณาธิการแต่ประการใด ผู้เขียนต้องรับผิดชอบต่อบทความของตน |
นโยบายความเป็นส่วนตัว
|
ชื่อและที่อยู่ อีเมล์ ที่ระบุในวารสารโรคและภัยสุขภาพสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 3 จังหวัดนครสวรรค์ จะใช้เพื่อระบุตามวัตถุประสงค์ของวารสารเท่านั้น และจะไม่นำไปใช้สำหรับวัตถุประสงค์อื่น หรือต่อบุคคลอื่น |


