ความสัมพันธ์ระหว่าง ผลประเมินการอ่านสไลด์เสมหะย้อมสีทนกรด กับลักษณะสเมียร์เสมหะ ในกลุ่มโรงพยาบาลที่เข้าร่วมโครงการประเมินคุณภาพ LQAS
คำสำคัญ:
การย้อมสีทนกรด, การประเมินคุณภาพการอ่านสไลด์วัณโรคด้วยกล้องจุลทรรศน์, ลักษณะสเมียร์เสมหะบทคัดย่อ
การประเมินคุณภาพการตรวจเสมหะเพื่อหาเชื้อวัณโรคโดยวิธี Lot Quality Assurance Sampling (LQAS) เป็นวิธีสุ่มตรวจสไลด์เสมหะย้อมสีทนกรดอย่างเป็นระบบจากห้องปฏิบัติการของโรงพยาบาลต่างๆเพื่อประเมินผลการตรวจอีกครั้งโดยเจ้าหน้าที่ผู้มีความชำนาญ และรายงานผลเป็น 2 ประการ ประการแรกได้แก่ อัตราของการอ่านผลตรงกัน (%Agreement rate) ซึ่งมีเกณฑ์ยอมรับไม่น้อยกว่า 90% และต้องไม่พบผลประเมินที่ผิดพลาดรุนแรง (Major error) ประการที่สองได้แก่ อัตราของลักษณะสเมียร์เสมหะที่ยอมรับได้ (%Acceptable smear) ได้แก่ รูปแบบการสเมียร์เสมหะ (Pattern) คุณภาพเสมหะ (Quality) การย้อมสี (Staining) ความสะอาด (Cleanliness) ความหนาบาง (Thickness) ขนาด (Size) และความสม่ำเสมอ (Evenness) ซึ่งมีเกณฑ์ยอมรับไม่น้อยกว่า 80% งานวิจัยนี้เป็นการศึกษาแบบภาคตัดขวาง (Cross-sectional study) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างผลประเมินการอ่านสไลด์เสมหะย้อมสีทนกรดกับลักษณะ สเมียร์เสมหะในด้านต่างๆ กำหนดกลุ่มตัวอย่างเพื่อทำการวิเคราะห์ข้อมูล โดยเลือกตัวอย่างสไลด์ที่มีผลประเมินผิดพลาด (Error) ชนิดที่รุนแรง (Major error) กับชนิดที่ไม่รุนแรง (Minor error) รวมทั้งหมด 73 แผ่น และกำหนดขนาดของกลุ่มตัวอย่างสไลด์ที่ผลประเมินตรงกัน (Correct) จำนวน 400 แผ่น ผลการวิจัยพบว่า ผลประเมินการอ่านสไลด์เสมหะย้อมสีทนกรดมีความสัมพันธ์อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 กับความสะอาดของสเมียร์เสมหะ (p-value < 0.010) โดยพบว่ากลุ่มสเมียร์เสมหะที่ไม่สะอาดจะพบสัดส่วนของผลประเมินที่ตรงกันลดลง (64.5%) แต่พบสัดส่วนของผลประเมินที่ผิดพลาดรุนแรงเพิ่มขึ้น (29.0%) และพบความสัมพันธ์ในลักษณะเดียวกันกับขนาดของสเมียร์เสมหะ (p-value < 0.010) โดยพบว่ากลุ่มสเมียร์เสมหะที่มีขนาดเล็กจะพบสัดส่วนของผลประเมินที่ตรงกันลดลง (73.8%) แต่พบสัดส่วนของผลประเมินที่ผิดพลาดรุนแรงเพิ่มขึ้น (23.1%) ดังนั้นการเตรียมสเมียร์เสมหะให้มีความสะอาดและขนาดที่เหมาะสม จะช่วยลดโอกาสการเกิดผลประเมินที่ผิดพลาดรุนแรง ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการตรวจวินิจฉัยวัณโรคโดยวิธีย้อมสีทนกรดอย่างถูกต้องยิ่งขึ้น
เอกสารอ้างอิง
2. World Health Organization. Quality assurance of sputum microscopy in DOTS programs. Manila: United Nations Avenue; 2003.
3. ศิริวรรณ แย้มนิ่มนวล และคณะ. คู่มือการตรวจหา Acid fast bacilli (AFB) ด้วยกล้องจุลทรรศน์. สระบุรี: โรงพิมพ์ไทยศิริ; 2555.
4. ศิรินภา จิตติมณี. ไพฑูรย์ สุขเกษม. สุขสันต์ จิตติมณี. จิรวัฒน์ วรสิงห์. ชนัฎตรี บุญอินทร์. พิริยา เหรียญไตรรัตน์ และคณะ. คู่มือประเมินมาตรฐานโรงพยาบาลคุณภาพการดูแลรักษาวัณโรค ปี 2560. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์อักษรกราฟิคแอนด์ดีไซน์; 2560.
5. Selvakumar N, Murthy BN, Prabhakaran E, Sivagamasundari S, Vasanthan S, Perumal M, et al. Lot quality assurance sampling of sputum Acid-Fast Bacillus smears for assessing sputum smear microscopy center. Journal of Clinical Microbiology 2015;43:913-5.
6. Nnaji GA, Chukwu JN. Comparative analysis of error in reading sputum smear microscopy by supervisor and peripheral laboratory technicians in southeastern Nigeria. Tropical Journal of Medical Research 2015;18:80-4.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ประกาศเกี่ยวกับลิขสิทธิ์
|
บทความที่เผยแพร่ในวารสารโรคและภัยสุขภาพสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 3 จังหวัดนครสวรรค์ ถือว่าเป็นผลงานทางวิชาการหรือการวิจัย และวิเคราะห์ ตลอดจนเป็นความเห็นส่วนตัวของผู้เขียน ไม่ใช่ความเห็นของสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 3 จังหวัดนครสวรรค์ หรือกองบรรณาธิการแต่ประการใด ผู้เขียนต้องรับผิดชอบต่อบทความของตน |
นโยบายความเป็นส่วนตัว
|
ชื่อและที่อยู่ อีเมล์ ที่ระบุในวารสารโรคและภัยสุขภาพสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 3 จังหวัดนครสวรรค์ จะใช้เพื่อระบุตามวัตถุประสงค์ของวารสารเท่านั้น และจะไม่นำไปใช้สำหรับวัตถุประสงค์อื่น หรือต่อบุคคลอื่น |


