การพัฒนาศักยภาพคณะกรรมการพัฒนาคุณภาพชีวิตและระบบสุขภาพอำเภอ เพื่อดูแลสุขภาพผู้สูงอายุจังหวัดอุตรดิตถ์
คำสำคัญ:
การพัฒนา, ศักยภาพ, การดูแลสุขภาพผู้สูงอายุ, คณะกรรมการพัฒนาคุณภาพชีวิตและระบบสุขภาพอำเภอบทคัดย่อ
งานวิจัยนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาศักยภาพคณะกรรมการพัฒนาคุณภาพชีวิตและระบบสุขภาพอำเภอจังหวัดอุตรดิตถ์ในการดูแลสุขภาพผู้สูงอายุจังหวัดอุตรดิตถ์ งานวิจัยนี้ใช้รูปแบบการวิจัยและพัฒนา โดยประยุกต์ใช้วิธีวิทยาแบบผสานวิธี (Mixed method) ทั้งรูปแบบการวิจัยเชิงปริมาณ และการวิจัยเชิงคุณภาพ เครื่องมือในการรวบรวมข้อมูล คือ แบบสอบถาม แบบสัมภาษณ์ การจัดเวทีประชุม การวิเคราะห์ SWOT กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ ผู้สูงอายุ และคณะกรรมการพัฒนาคุณภาพชีวิตและระบบสุขภาพอำเภอ (District Health Board : DHB) คัดเลือกแบบเจาะจง จำนวนกลุ่มตัวอย่างการวิจัยเชิงปริมาณ จำนวน 765 คน จำนวนกลุ่มตัวอย่างการวิจัยเชิงคุณภาพจำนวน 9 ราย การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณใช้สถิติร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน วิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพใช้แบบอุปมัย หาลักษณะร่วมและความสัมพันธ์ของข้อมูล
ผลการศึกษา พบว่า ผู้สูงอายุมีความคิดเห็นและความต้องการในการพัฒนาคุณภาพชีวิตและดูแลสุขภาพ สูงสุด 3 อันดับแรก ในเรื่องการประกันรายได้ ความมั่นคงปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินความมั่นคงทางสังคม และสุขภาพอนามัย องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีศักยภาพการพัฒนาคุณภาพชีวิตได้ดีในเรื่องกองทุนชุมชนเพื่อสวัสดิการภาคประชาชนภายใต้เงื่อนไขต้องได้รับการเสริมศักยภาพภาวะผู้นำ และบูรณาการงานกับเครือข่าย การพัฒนาศักยภาพคณะกรรมการพัฒนาคุณภาพชีวิตและระบบอำเภอ (District Health Board : DHB) มีกระบวนการพัฒนา 4 กระบวนการ 1) กระบวนการพัฒนาศักยภาพบุคลากร 2) กระบวนการส่งเสริมการมีส่วนร่วม 3) กระบวนการพัฒนาระบบการดำเนินงาน 4) กระบวนการสร้างสิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อการดูแลสุขภาพ ซึ่งจะทำให้เกิดผลลัพธ์การเปลี่ยนแปลง ได้แก่ บุคคลมีความพร้อม มีความรู้ มีความเชื่อมั่นในศักยภาพมากขึ้น เรียนรู้ความล้มเหลวและเรียนรู้การพัฒนาการทำงานใหม่ มีแรงจูงใจในการทำงาน ปฏิบัติงานได้เต็มศักยภาพมากขึ้นโดยการนำข้อมูลผู้สูงอายุมาใช้ประโยชน์ ร่วมกันกับการจัดสิ่งแวดล้อมในชุมชนให้เอื้อต่อการส่งเสริมสุขภาพผู้สูงอายุ เพื่อสนับสนุนการดูแลสุขภาพระยะยาว ผลการศึกษาจากงานวิจัยนี้สามารถใช้บทบาทของคณะกรรมการพัฒนาคุณภาพชีวิตและระบบอำเภอ มาขับเคลื่อนงานดูแลสุขภาพกลุ่มวัยอื่นๆได้ โดยการกำหนดวาระปัญหาร่วมกันตามสภาพบริบทของพื้นที่อำเภอ
เอกสารอ้างอิง
2. ยงยุทธ พงษ์สุภาพ. การจัดการเรียนเพื่อเสริมสมรรถนะการบริหารจัดการระบบสุขภาพอำเภอ (District Health System Management Learning : DHML). พิมพ์ครั้งที่1.กรุงเทพมหานคร. : สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ; 2557.
3. สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข. คลินิกหมอครอบครัว Primary Care Cluster แนวทางการดำเนินงานคลินิกหมอครอบครัวสำหรับหน่วยบริการ. มปป.
4. สุรเกียรติ อาชานานุภาพ. การพัฒนาระบบสุขภาพอำเภอ (DHS) ความเหมือนที่แตกต่าง. พิมพ์ครั้งที่ 1. กรุงเทพมหานคร. : สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ; 2557.
5. สุพัตรา ศรีวณิชชากร และคณะ. การจัดการระบบสุขภาพอำเภอเพื่อดูแลกลุ่มประชากร. พิมพ์ ครั้งที่ 1. กรุงเทพมหานคร. : บริษัทพี.เอ.ลีฟวิ่งจำกัด. 2556.
6. หนังสือราชการกระทรวงสาธารณสุข ที่ สธ 0231/ว 494 ลงวันที่ 16 มิถุนายน 2559. แนวทางการพัฒนาคณะกรรมการพัฒนาคุณภาพชีวิตและระบบสุขภาพอำเภอ. 2559.
7. สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดอุตรดิตถ์. รายงานประจำปี 2559. มปป.
8. กระทรวงสาธารณสุข. รายงานประจำปี 2542. กรุงเทพมหานคร. สำนักนโยบายและยุทธศาสตร์.
9. Sashkin, M., & Burke, W.W. Organisational development in the 1980’s. Journal of Management 1987 ; 13(2) : 393-417.
10. Pender, N. J. Health Promotion in Nursing Practice. 3rd ed. New York : Appleton & Lange ; 2006
11. อรจิตต์ บำรุงสกุลสวัสดิ์ และคณะ. คู่มือสนับสนุนการบริหารจัดการระบบบริการดูแลระยะยาวด้านสาธารณสุขสำหรับผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิงในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ.พิมพ์
ครั้งที่ 1. กรุงเทพมหานคร : สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ; 2559.
12. เดชา แซ่หลี และคณะ. การขับเคลื่อนระบบสุขภาพอำเภอ (รสอ.) District Health System (DHS) ฉบับประเทศไทย. พิมพ์ครั้งที่1. กรุงเทพมหานคร : โครงการการพัฒนากลไกสนับสนุน
เครือข่ายสุขภาพระดับอำเภอเพื่ออำเภอสุขภาวะ มูลนิธิแพทย์ชนบทภายใต้การสนับสนุนจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ ; 2557.
13. สำนักงานบริหารยุทธศาสตร์สุขภาพดีวิถีชีวิตไทย สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข. แนว ทางการดำเนินงานของคณะกรรมการพัฒนาคุณภาพชีวิตและระบบสุขภาพอำเภอ (District
Health Board : DHB) โดยใช้พื้นที่เป็นฐาน ประชาชนเป็นศูนย์กลางตามแนวทาง “ประชารัฐ”. มปป.
14. ระพีพรรณ คำหอม และคณะ. โครงการประเมินผลการจ่ายเงินสงเคราะห์เพื่อการยังชีพผู้สูงอายุ. กรุงเทพมหานคร : สำนักพิมพ์บางกอกบล็อก จำกัด
15. สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดอุตรดิตถ์. เอกสารอัดสำเนาจำนวนสมาชิกชมรมผู้สูงอายุจังหวัดอุตรดิตถ์ ปี 2560.
16. กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์. พระราชบัญญัติผู้สูงอายุ พ.ศ. 2546.พิมพ์ครั้งที่ 8. กรุงเทพมหานคร : สำนักพิมพ์ชุมชุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย.
2554.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ประกาศเกี่ยวกับลิขสิทธิ์
|
บทความที่เผยแพร่ในวารสารโรคและภัยสุขภาพสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 3 จังหวัดนครสวรรค์ ถือว่าเป็นผลงานทางวิชาการหรือการวิจัย และวิเคราะห์ ตลอดจนเป็นความเห็นส่วนตัวของผู้เขียน ไม่ใช่ความเห็นของสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 3 จังหวัดนครสวรรค์ หรือกองบรรณาธิการแต่ประการใด ผู้เขียนต้องรับผิดชอบต่อบทความของตน |
นโยบายความเป็นส่วนตัว
|
ชื่อและที่อยู่ อีเมล์ ที่ระบุในวารสารโรคและภัยสุขภาพสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 3 จังหวัดนครสวรรค์ จะใช้เพื่อระบุตามวัตถุประสงค์ของวารสารเท่านั้น และจะไม่นำไปใช้สำหรับวัตถุประสงค์อื่น หรือต่อบุคคลอื่น |


