การประเมินความเสี่ยงต่อสุขภาพในการทำงานของแรงงานนอกระบบ (กลุ่มเย็บผ้า และผลิตภัณฑ์จากผ้า) จังหวัดอุทัยธานี
คำสำคัญ:
แรงงานนอกระบบ, การวิเคราะห์และประเมินความเสี่ยง, ทอผ้า เย็บผ้า และผลิตภัณฑ์จากผ้าบทคัดย่อ
การศึกษานี้เป็นการวิจัยเชิงสำรวจเพื่อวิเคราะห์และประเมินความเสี่ยงต่อสุขภาพในการทำงานของแรงงานนอกระบบ กรณีศึกษากลุ่มเย็บผ้าและผลิตภัณฑ์จากผ้า จังหวัดอุทัยธานี และศึกษาความต้องการสิ่งสนับสนุนในการลดความเสี่ยง มีกลุ่มตัวอย่างจำนวน 220 คน เก็บข้อมูลโดยแบบประเมินความเสี่ยงต่อสุขภาพในการทำงานของกลุ่มแรงงานนอกระบบ กรมควบคุมโรค วิเคราะห์ข้อมูลด้วยจำนวน ร้อยละ Chi-square test และ Fisher’s exact test ผลการศึกษา พบว่าแรงงานนอกระบบกลุ่มดังกล่าว ส่วนใหญ่เป็นเพศหญิงร้อยละ 99.09 อยู่ในกลุ่มอายุ 50-59 ปี ร้อยละ 46.36 พบสิ่งที่ก่อให้เกิดการบาดเจ็บ/เจ็บป่วย ร้อยละ 71.28 ส่วนใหญ่มีความตระหนักคิดต่อการบาดเจ็บ/เจ็บป่วยของตัวเองและผู้ร่วมงาน ร้อยละ 50.91 มีการจัดสภาพการทำงานให้เหมาะสมเพื่อป้องกันอันตราย ร้อยละ 49.55 กลุ่มแรงงานส่วนใหญ่ไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ร้อยละ 60 ไม่สูบบุหรี่ ร้อยละ 96.36 และมีโรคประจำตัว ร้อยละ 39.55 ส่วนใหญ่เป็นโรคความดันโลหิตสูงและโรคเบาหวาน เคยประสบอุบัติเหตุเล็กน้อย โดยไม่ต้องหยุดงาน มากถึงร้อยละ 80 และไม่มีการใช้อุปกรณ์ป้องกันอันตรายส่วนบุคคลขณะทำงาน มากถึงร้อยละ 89.55 เมื่อประเมินระดับความเสี่ยง พบว่า ส่วนใหญ่มีความเสี่ยงอยู่ในระดับปานกลาง ร้อยละ 64.55 พบสภาพการทำงาน เช่น ทำงานในท่าทางที่ทำให้เกิดอาการปวดเมื่อย สัมผัสฝุ่น และปัญหาเกี่ยวกับสายตา มีผลทำให้แรงงานมีอาการเจ็บป่วยอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ มีความต้องการสิ่งสนับสนุน เช่น การตรวจสุขภาพ ความรู้ และอุปกรณ์ป้องกันอันตรายส่วนบุคคล มากถึงร้อยละ 98.18 นอกจากนี้ทีมผู้วิจัยมีการจัดทำแผนการดำเนินงานเพื่อให้การสนับสนุนและจัดการความเสี่ยงดังกล่าวอย่างเป็นรูปธรรม
เอกสารอ้างอิง
2. สำนักงานสถิติแห่งชาติ. (2550). รายงานการสำรวจการ รับงานมาทำที่บ้านฉบับสมบูรณ์. เข้าถึงเมื่อ 25 พฤศจิกายน 2560, จาก http://service.nso.go.th /nso/nsopublish/service/survey/HomeRep 50.pdf.
3. สำนักงานสถิติแห่งชาติ. (2555). ความหมายการรับงานไปทำที่บ้าน. เข้าถึงเมื่อ 25 พฤศจิกายน 2560, จาก
http://statstd.nso.go.th/definition/projectdetail .aspx?periodId=66&defprodefId=816.
4. สำนักงานสถิติแห่งชาติ. (2550). บทสรุปผู้บริหาร-การรับงานมาทำที่บ้าน. เข้าถึงเมื่อ 25 พฤศจิกายน 2560,
จาก http://service.nso.go.th/nso/nsopublish/service/survey/HomeExc_50.pdf
5. ประชาชาติธุรกิจออนไลน์. (2558). ชะตาสิ่งทอ-เครื่องนุ่งห่มไทย ลุ้น "FTA" ก่อนเวียดนามกลืนตลาด
ยุโรป. สืบค้นเมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2558, http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1423648115
6. วรรธนะ ชลายนเดชะ. ปัจจัยเสี่ยงบาดเจ็บจากการทำงาน.นิตยสารหมอชาวบ้าน 2548; 311.
7. สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดอุทัยธานี, สถิติข้อมูลกลุ่ม แรงงานนอกระบบ, 2560.
8. Krejcie RV, Morgan DW.Determining sample size for research activities.Edu Psycho Meas 1970; 30: 607–610.
9. คู่มือการบริหารจัดการกองทุนหลักประกันสุขภาพในระดับท้องถิ่นหรือพื้นที่สำหรับการดูแลสุขภาพแรงงานนอกระบบ, 2559.
10. อุมาพร เคนศิลา และ ดารุณี จงอุดมการณ์. คุณภาพชีวิตครอบครัวและความพึงพอใจต่ออาชีพเย็บผ้าโหลตามการรับรู้ของสตรีเย็บผ้าโหล: กรณีศึกษาจังหวัดอุดรธานี. ไทย
เภสัชศาสตร์และวิทยาการสุขภาพ. 2554;6:282-289.
11. สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ. ผล การสำรวจการสูบบุหรี่และการดื่มสุรา ปี 2550. สืบค้นเมื่อวันที่ 17 มกราคม 2561, จาก
http://www.thaihealth.or.th/Content/20317-ผลการสำรวจการสูบบุหรี่และการดื่มสุรา%20ปี% 202550.html
12. ปภาวีย์ หมั่นกิจการ. ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับอาการ ระบบทางเดินหายใจของกลุ่มผู้รับงานไปทำที่บ้าน: กรณีศึกษาแรงงานทำดอกไม้ประดิษฐ์จากสำลี อำเภอ
พรหมบุรี จังหวัดสิงห์บุรี. วารสารความปลอดภัยและสุขภาพ. 2560;36:34-45.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ประกาศเกี่ยวกับลิขสิทธิ์
|
บทความที่เผยแพร่ในวารสารโรคและภัยสุขภาพสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 3 จังหวัดนครสวรรค์ ถือว่าเป็นผลงานทางวิชาการหรือการวิจัย และวิเคราะห์ ตลอดจนเป็นความเห็นส่วนตัวของผู้เขียน ไม่ใช่ความเห็นของสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 3 จังหวัดนครสวรรค์ หรือกองบรรณาธิการแต่ประการใด ผู้เขียนต้องรับผิดชอบต่อบทความของตน |
นโยบายความเป็นส่วนตัว
|
ชื่อและที่อยู่ อีเมล์ ที่ระบุในวารสารโรคและภัยสุขภาพสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 3 จังหวัดนครสวรรค์ จะใช้เพื่อระบุตามวัตถุประสงค์ของวารสารเท่านั้น และจะไม่นำไปใช้สำหรับวัตถุประสงค์อื่น หรือต่อบุคคลอื่น |


