การศึกษาเชิงพรรณนาผู้ป่วยโรคเบาหวานที่มีความเสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดหัวใจ และโรคหลอดเลือดสมองในคลินิกพิเศษ โรงพยาบาลไพศาลี อำเภอไพศาลี จังหวัดนครสวรรค์
คำสำคัญ:
ผู้ป่วยเบาหวาน, ความเสี่ยงโรคหลอดเลือดหัวใจ, ความเสี่ยงโรคหลอดเลือดสมองบทคัดย่อ
ผู้ป่วยที่เป็นโรคหลอดเลือดหัวใจและโรคหลอดเลือดสมองนั้นมีเพิ่มมากขึ้น สาเหตุที่ทำให้เกิดโรคเหล่านี้ ส่วนใหญ่นั้นมาจากโรคเบาหวาน ซึ่งเมื่อผู้ป่วยเกิดภาวะแทรกซ้อนแล้ว จะเป็นการเพิ่มปัญหาให้มีภาระงานในด้านการดำเนินงานสาธารณสุขเพิ่มมากขึ้น การดูแลผู้ป่วย การคัดกรองและป้องกันผู้ป่วยไม่ให้เกิดแทรกซ้อนในเรื่องของโรคหลอดเลือดหัวใจและโรคหลอดเลือดสมอง จึงเป็นสิ่งที่ควรทำ การวิจัยในครั้งนี้ เป็นการศึกษาเชิงพรรณนา (Descriptive Study) สถานที่คือ คลินิกพิเศษโรคเบาหวาน โรงพยาบาลไพศาลี อำเภอไพศาลี จังหวัดนครสวรรค์ กลุ่มตัวอย่าง คือผู้ป่วยโรคเบาหวานที่มารับการรักษาที่คลินิกพิเศษ นาน 6 เดือนขึ้นไปจำนวน 2,881 คน โดยการเก็บข้อมูลจากเวชระเบียนและโปรแกรม HOSxP แล้วนำข้อมูลที่ได้มาประเมินโอกาสเสี่ยงฯ 10 ปี (10-year CV risk score) โดยใช้โปรแกรม QRISK®2-2016 cardiovascular disease risk calculator ในช่วงเดือนพฤษภาคม 2558 ถึงเดือน เมษายน 2559 วิเคราะห์ข้อมูลด้วย สถิติเชิงพรรณนา ได้แก่ การแจกแจงความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบไคสแคว์
ผลการศึกษาพบว่ากลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เป็นเพศหญิงร้อยละ 72.33 อยู่ในวัยสูงอายุ อายุ 51 ถึง 60 ปี ร้อยละ 32.63 โดยมีอายุเฉลี่ย 60.21 ปี กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 99.21 เป็นเบาหวานชนิดที่ 2 ( DM Type II ) ค่าดัชนีมวลกาย อ้วนระดับ 2 ร้อยละ 38.70 ระยะเวลาเป็นเบาหวาน 1-5 ปี ร้อยละ 47.90 ภาวะแทรกซ้อนทางไต CKD Stage IV ,V ร้อยละ 2.82 ร้อยละ 1.84 ตามลำดับ มีภาวะโรคหัวใจเต้นผิดจังหวะ (AF) ร้อยละ 1.32 มีโรคความดันโลหิตสูง ร้อยละ 80.42 มีภาวะเจ็บหน้าอก (Chest Pain) ร้อยละ 1.25 กลุ่มตัวอย่าง มีระดับ HbA1c มากกว่า > 7 % ร้อยละ 49.01 ระดับโคเลสเตอรอลในเลือด มากกว่า 200 mg/dl ร้อยละ 42.87 ระดับ Triglyceride มากกว่า 150 mg/dl ร้อยละ 48.69 ความเสี่ยงของการเกิดโรคหลอดเลือดสมองและโรคหลอดเลือดหัวใจ CV risk score 20 - 30 (ความเสี่ยงสูง) ร้อยละ16.28 และ CV risk score > 30 (ความเสี่ยงสูงมากและอันตราย) ร้อยละ 12.81 การใช้ยาแอสไพลิน กลุ่มความเสี่ยงต่ำรับยา ASA ร้อยละ 67.55 กลุ่มความเสี่ยงปานกลาง ได้รับยา ASA ร้อยละ 72.31 และกลุ่มความเสี่ยงสูงมากและอันตราย ไม่ได้รับยา ASA ร้อยละ 27.11 สรุปได้ว่าการได้รับยา ASA ยังไม่มีความเหมาะสม ระดับTriglyceride ระดับ Microalbumin และระยะเวลา การเป็นเบาหวาน ของกลุ่มตัวอย่าง มีความสัมพันธ์กับความเสี่ยงของการเกิดโรคหลอดเลือดสมองและโรคหลอดเลือดหัวใจอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ
ข้อเสนอแนะการประเมินความเสี่ยงของการเกิดโรคหลอดเลือดสมองและโรคหลอดเลือดหัวใจยังคงมีปัจจัยอื่นๆ ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ฉะนั้นต้องรวบรวมข้อมูล ศึกษาเพิ่มเติม และนำผลที่ได้ ไปปรับใช้เพื่อการดูแลผู้ป่วยที่มีประสิทธิภาพต่อไป
เอกสารอ้างอิง
2. สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครสวรรค์.เอกสารสรุปผลการดำเนินงานประจำปี 2558.
[อินเตอร์เน็ต].2558 [เข้าถึงเมื่อ 1 มกราคม 2559].เข้าถึงได้จาก: http://www.nswo.moph.go.th
3. QRISK®2-2016 cardiovascular disease risk calculator in UK [ระบบออนไลน์]. (www.qrisk.org/lifetime/index.php)
4. กลุ่มโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง สำนักโรคไม่ติดต่อ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข. แนวทางการประเมินโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจและสมอง. กรุงเทพฯ : องค์กรการสงเคราะห์ทหารผ่านศึก ; 2557.
5.สมาคมโรคเบาหวานแห่งประเทศไทยในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี. แนวทางเวชปฏิบัติสำหรับโรคเบาหวาน . กรุงเทพฯ : อรุณการพิมพ์ ; 2557.
6. ธัญญารัตน์ ธีรพรเลิศรัตน์ . ความรู้เรื่องโรคไตสำหรับประชาชน . พิมพ์ครั้งที่ 1 . กรุงเทพฯ : บริษัทเฮลาเวิร์ด จำกัด ; 2556 .
7. Wannee Nitiyanant . A Survey study on Diabetes Management and Complication Status in Primary Care in Thailand . Siriraj Hospital Bangkok . J Med Assoc Thai 2007; 90 (Suppl 1): S65-71.
8. ทิพวรรณ แก้วบางพูด ,จอม สุวรรณโณ , ลัดดา เถียมวงศ์. ปัจจัยทำนายระดับความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ ใน10ปี ข้างหน้าของผู้สูงวัยชาวชนบท . วารสารการพยาบาลและการดูแลสุขภาพ. 2558 ; 33 (3) 174-84.
9.วัชรวรรณ ขอบคุณ . การเข้าถึงยาป้องกันภาวะแทรกซ้อนจากเบาหวานในโรงพยาบาลชุมชน.
เอกสารประกอบการบรรยาย The 6 th Annual Northeast Pharmacy Research Conference of 2014 Ubonratchathani University ; 2014.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ประกาศเกี่ยวกับลิขสิทธิ์
|
บทความที่เผยแพร่ในวารสารโรคและภัยสุขภาพสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 3 จังหวัดนครสวรรค์ ถือว่าเป็นผลงานทางวิชาการหรือการวิจัย และวิเคราะห์ ตลอดจนเป็นความเห็นส่วนตัวของผู้เขียน ไม่ใช่ความเห็นของสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 3 จังหวัดนครสวรรค์ หรือกองบรรณาธิการแต่ประการใด ผู้เขียนต้องรับผิดชอบต่อบทความของตน |
นโยบายความเป็นส่วนตัว
|
ชื่อและที่อยู่ อีเมล์ ที่ระบุในวารสารโรคและภัยสุขภาพสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 3 จังหวัดนครสวรรค์ จะใช้เพื่อระบุตามวัตถุประสงค์ของวารสารเท่านั้น และจะไม่นำไปใช้สำหรับวัตถุประสงค์อื่น หรือต่อบุคคลอื่น |


