การพัฒนาชุมชนต้นแบบเฝ้าระวังและรับเรื่องร้องเรียนเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กรณี 7 ชุมชนนำร่อง และ 1 เครือข่าย

บทคัดย่อ

การพัฒนาชุมชนนำร่องเฝ้าระวังและรับเรื่องร้องเรียนเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ จาก 7 ชุมชน และ 1 เครือข่าย ในกรุงเทพมหานคร มีส่วนช่วยหนุนเสริมฐานทุนเดิมของชุมชนให้เข้มแข็งและมีพลังมากขึ้น ชุมชนสามารถบรูณาการงานเดิมของชุมชนร่วมกับการดำเนินงานเป็นชุมชนนำร่องในการเฝ้าระวังและรับเรื่องร้องเรียนเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ มีผลทำให้ร้านขายของชำ/โชว์ห่วยในชุมชนกระทำผิดกฎหมายลดลง เนื่องจากเป็นร้านที่อยู่ในชุมชน จึงสามารถใช้กลไกแกนนำชุมชนเฝ้าระวังฯ ที่มีทั้งผู้นำทางธรรมชาติ กลุ่มคนมีใจที่อาสาทำงานเพื่อชุมชน ช่วยกันบอกกล่าวตักเตือน สร้างการเรียนรู้ในมาตรการและกฎหมายให้ร้านค้าในชุมชนเกิดความเข้าใจ และให้ความร่วมมือในการปฏิบัติตามกฎหมายได้เป็นอย่างดี ส่วนกลุ่มผับ/เธค/บาร์/คาราโอเกะ ร้านเหล้าปั่น ร้านเร่ขาย/รถเข็น ร้านยาดองเหล้า และร้านสะดวกซื้อ มีสัดส่วนการกระทำผิดเพิ่มขึ้น แสดงให้เห็นว่า ผู้ที่ดื่มพยายามหาช่องทางในการซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จากช่องทางอื่นเพิ่มขึ้น เพื่อทดแทนช่องทางเดิมที่เคยซื้อได้อย่างสะดวกจากร้านค้าในชุมชน กลุ่มร้านค้าเหล่านี้ แกนนำชุมชนเฝ้าระวังฯ สามารถเข้าถึงได้ยาก เนื่องจากส่วนใหญ่เจ้าของร้านเป็นนายทุนหรือคนนอกชุมชน ทำให้ไม่รู้สึกมีความเป็นเจ้าของร่วมในชุมชน จึงต้องอาศัยพลังจากหน่วยงานภายนอก อาทิ สำนักงานเขตพื้นที่ ตำรวจ เป็นต้น ในการช่วยเสริมหนุนการทำงานเฝ้าระวังฯ ของชุมชน ช่วยสร้างการเรียนรู้ ตลอดจนบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง เพื่อให้ร้านค้ากลุ่มนี้ปฏิบัติตามกฎหมายมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ในการทำงานสร้างความเข้มแข็งชุมชน จำเป็นต้องได้รับความร่วมมือจากภาคีสหวิชาชีพที่เกี่ยวข้องอย่างแท้จริง คิดแบบ "บูรณาการ" ในการสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการสร้างสุขภาวะที่ดี ลดพื้นที่เสี่ยงในชุมชน ไม่ว่าจะเป็นการดำเนินงานเฝ้าระวังฯ การทำกิจกรรมกลุ่ม การรณรงค์ประชาสัมพันธ์ และการสื่อสารอย่างทั่วถึงกับทุกกลุ่มในชุมชน