Knowledge in Depressive Disorder between Two Villages in Hangdong District
Main Article Content
Abstract
Abstract
Objective: To study the difference of knowledge about depression disorder between two villages in Hangdong district
Method: This descriptive study used a questionnaire about knowledge about depressive disorder. 136 peoples in Mu 6 and 77 peoples from Mu 9 in Hangdong participated in ;October 2015. Chi square was used to analyzed data.
Result: Mu 6 had 171 household. Mu9 had 202 household. Most people from both village had similaries demographic data such as agriculture, beliefs, traditions and basic moral values . The significant factors between two villages were documented. One is knowledge depression about number (1323) second is text recognition which account for 33.33% from all.
Conclusion: Knowledge of depressive disorder from two studied village was different in some dimension.
Keyword: Depressive disorder, Knowledge, Hangdong
วัตถุประสงค์: ศึกษาความแตกต่างของความรู้โรคซึมเศร้าของ 2 หมู่บ้าน
วิธีการศึกษา: เชิงพรรณนา (Descriptive study) ด้วยแบบสอบถามถามความรู้ โรคซึมเศร้ามาจากประชาชนหมู่ 6 จำนวน 136 ราย หมู่ 9 จำนวน 77 ราย ในตำบลหางดง จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อ ตุลาคม 2558 สถิติใช้ไควแสวร์
ผลการศึกษา: หมู่ 6 มีจำนวนครัวเรือน 171 หลังคาเรือน หมู่ 9 มีจำนวนครัวเรือน 202 หลังคาเรือน ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรมเหมือนกัน มีความเชื่อ ประเพณีท้องถิ่นคล้ายคลึงกัน และมีที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ คือ ศรัทธาวัดเดียวกัน พื้นที่ส่วนใหญ่ของทั้งสองหมู่บ้านเป็นอาชีพเกษตรกรรมอยู่ ปัจจัยที่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ได้แก่ การมีเอกสารความรู้ไว้ในครอบครัว และ การรู้จักเบอร์โทรศัพท์ 1323 ส่วนข้อความรู้ที่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ คิดเป็น 33.33 % ของข้อความรู้ที่ควรรู้ทั้งหมด
สรุป: ประชาชนหมู่ 6, หมู่ 9 ตำบลหางดง จังหวัดเชียงใหม่ มีความรู้โรคซึมเศร้าแตกต่างกันบางด้าน
คำสำคัญ : โรคซึมเศร้า, ความรู้, หางดง
Article Details
บทความหลังผ่านการปรับแก้จากกองบรรณาธิการแล้ว เป็นลิขสิทธ์ของวารสารจิตเวชวิทยาสาร โรงพยาบาลสวนปรุง กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข ห้ามเผยแพร่เพื่อประโยชน์ทางการค้าโดยไม่ได้รับอนุญาต แต่อนุญาตให้เผยแพร่บทความดังกล่าวเพื่อประโยชน์ทางการศึกษาแก่ประชาชนทั่วไป ทั้งนี้กองบรรณาธิการไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยกับบทความหรือข้อคิดเห็นใดๆ ที่ปรากฏในวารสารสวนปรุง