ผลของโปรแกรมพัฒนาความรอบรู้ด้านสุขภาพ 3อ. 2ส. ยุคดิจิตอล 4.0 ต่อพฤติกรรมการป้องกันโรคอ้วนลงพุงของคนวัยทำงานในสถานประกอบการ

ผู้แต่ง

  • ปราณปริยา สินเธาว์ หลักสูตรพยาบาลศาสตรมหาบัณฑิต คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
  • ปิยะธิดา นาคะเกษียร คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
  • เสาวรส มีกุศล คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล

คำสำคัญ:

โรคอ้วนลงพุง, ความรอบรู้ด้านสุขภาพ, 3อ. 2ส.พฤติกรรมการป้องกันโรคอ้วนลงพุง, คนวัยทำงานที่ทำงานในสถานประกอบการ

บทคัดย่อ

การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเปรียบเทียบความแตกต่างของคะแนนเฉลี่ยพฤติกรรมการป้องกันโรคอ้วนลงพุงของคนวัยทำงานตอนปลายในกลุ่มทดลองก่อนและหลังการได้รับโปรแกรมพัฒนาความรอบรู้ด้านสุขภาพ 3อ. 2ส. และเพื่อเปรียบเทียบความแตกต่างของคะแนนเฉลี่ยพฤติกรรมการป้องกันโรคอ้วนลงพงุ ของคนวัยทำ งานตอนปลายระหว่างกลุ่มทดลองที่ได้รับโปรแกรมพัฒนาความรอบรู้ด้านสุขภาพ 3อ. 2ส. กับกลุ่มควบคุมที่ไม่ได้รับโปรแกรมฯ ภายหลังการทดลอง กลุ่มตัวอย่าง คือ คนวัยทำงานตอนปลาย อายุ 45-59 ปี ทั้งเพศชายและหญิง ทำงานในสถานประกอบการขนาดกลางในพื้นที่กรุงเทพมหานคร อย่างน้อย 1 ปี เป็นผู้มีภาวะสุขภาพดีทั้งกายและจิตใจคัดเลือกกลุ่มตัวอย่างด้วยการสุ่มแบบหลายขั้นตอน และการสุ่มอย่างง่าย จำนวน 71 คน แบ่งเป็นกลุ่มทดลอง 34 คน และกลุ่มควบคุม 37 คน กลุ่มทดลองได้รับโปรแกรมเป็นระยะเวลา 8 สัปดาห์ เก็บข้อมูลโดยใช้ แบบสอบถามข้อมูลทั่วไป แบบสอบถามเรื่องพฤติกรรมการป้องกันโรคอ้วนลงพุง และแบบประเมินความรอบรู้ด้านสุขภาพและพฤติกรรมสุขภาพ ตาม 3อ.2ส. การตรวจตวามตรงเชิงเนื้อหามีค่าเท่ากับ 0.9 และความสอดคล้องของโปรแกรมฯ มีค่าเท่ากับ 1.0 ค่าความเชื่อมั่น (Reliability) ของเครื่องมือ ได้ค่าเท่ากับ .86 และ .90 ตามลำดับ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงบรรยาย ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และใช้สถิติเชิงพรรณนา ได้แก่ Paired t-test และ Independent t-test ผลการวิจัยพบว่า ตัวอย่างกลุ่มทดลองมี คะแนนเฉลี่ยพฤติกรรมการป้องกันโรคอ้วนลงพุงหลังได้รับโปรแกรม (equation = 78.35, SD = 5.88) สูงกว่าก่อนได้รับโปรแกรมฯ (equation = 70.70, SD = 4.58) และคนวัยทำงานกลุ่มทดลองมีคะแนนเฉลี่ยพฤติกรรมการป้องกันโรคอ้วนลงพุง (equation = 78.35, SD = 5.88) มากกว่ากลุ่มควบคุม (equation = 66.48, SD = 5.26) ที่ไม่ได้รับโปรแกรมฯ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

เอกสารอ้างอิง

กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข. (2561). รายงานประจำปี 2561 กลุ่มพัฒนาระบบบริหาร กรมควบคุมโรค. สืบค้นจาก https://ddc.moph.go.th/psdg/journal_detail.php?publish=4441

กรรณิการ์ บัวทะเล, และทิวากรณ์ ราชูธร. (2566). ผลของโปรแกรมส่งเสริมความรอบรู้ด้านสุขภาพพนักงานขับรถบรรทุกที่เป็นกลุ่มเสี่ยงโรคความดันโลหิตสูงในจังหวัดนครราชสีมา. วารสารสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 7 ขอนแก่น, 30(2), 121-130.

ชญานิศ เมฆอากาศ, นิทรา กิจธีระวุฒิวงษ์, และพัฒนาวดี พัฒนถาบุตร. (2561). ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อภาวะอ้วนลงพุงของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านในจังหวัดสุโขทัย. วารสารการพยาบาลและสุขภาพ, 12(ฉบับพิเศษ), 47-57.

ณัฐปัณฑ์ แก้วเงิน, พูลสุข เจนพานิชย์ วิสุทธิพันธ์, และอนันต์นิตย์ วิสุทธิพันธ์. (2565). ผลของโปรแกรมควบคุมการชักผ่านแอปพลิเคชันไลน์ต่อความรอบรู้ด้านสุขภาพเเละพฤติกรรมสุขภาพของผู้ป่วยโรคลมชัก. รามาธิบดีพยาบาลสาร, 28(1), 109-126.

ทิพรดา ประสิทธิแพทย์, กุหลาบ รัตนสัจธรรม, ชิงชัย เมธพัฒน์, และอนามัย เทศกะทึก. (2561). ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อ ภาวะอ้วนลงพุงของพนักงานสถานประกอบการขนาดใหญ่ ในเขตภาพตะวันออก. วารสารวิชาการสาธารณสุข, 27(5), 792-799.

นงลักษณ์ ตุ่นแก้ว, ศรินญาภรณ์ จันทร์ดีแก้วสกุล และพิมพ์ใจ อุ่นบ้าน. (2561). ผลของโปรแกรมการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพตามแนวทาง 3อ 2ส 1ย และการใช้ปิงปองจราจรชีวิต 7 สี ต่อความรู้ พฤติกรรมสุขภาพ และระดับนํ้าตาลในเลือดของผู้ป่วยเบาหวาน. วารสารสมาคมพยาบาลแห่งประเทศไทยฯ สาขาภาคเหนือ, 24(2), 83-95.

พลอยฌญารินทร์ ราวินิจ, และอดิศักดิ์ สัตย์ธรรม.(2559). ปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับภาวะอ้วนลงพุง ในประชากร ตำบลชะแมบ อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา. สมาคมสถาบันอุดมศึกษาเอกชนแหงประเทศไทย, 5(2), 33-47.

ภัทราพร ชูศร. (2563). ความชุกและปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับภาวะอ้วนลงพุงในวัยทำงาน (15-59 ปี) อำเภอกุดจับ จังหวัดอุดรธานี. วารสารวิจัยสาธารณสุขศาสตร์มหาวิทยาลัยขอนแก่น, 13(2), 26-35.

รุ่งนภา อาระหัง, สุธีรา ฮุ่นตระกูล, และศศิธร รุจนเวช. (2561). ผลของโปรแกรมการส่งเสริมความรอบรู้ด้านสุขภาพในการป้องกันโรคความดันโลหิตสูงสำหรับกลุ่มเสี่ยงโรคความดันโลหิตสูงที่ชุมชนแห่งหนึ่งในจังหวัดนครปฐม. วารสารแพทย์นาวี, 45(3), 509-526.

ศศิมา พึ่งโพธิ์ทอง, ทิพวรรณ ตั้งวงษ์กิจ, อรนุช นุ่นละออง, มยุรี บุญทัด, และนันท์ซวัล คณาสุริยพัฒน์. (2562). ประสิทธิผลของโปรแกรมการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพตามหลัก 3อ.2ส. ผู้สูงอายุโรคความดันโลหิตสูง อำเภอสรรคบุรี จังหวัดชัยนาท. วารสารแพทย์นาวี, 46(3), 581-591.

สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงานเลขานุการของคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ. (2561). ยุทธศาสตร์ชาติ พ.ศ. 2561-2580 (พิมพ์ครั้งที่2). กรุงเทพฯ: สำนักงานเลขานุการของคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ.

อติญาณ์ ศรเกษตริน, รุ่งนภา จันทรา, รสติกร ขวัญชุม, และลัดดา เรือด้วง. (2560). ผลของโปรแกรมปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพตามแนวทาง 3อ.2ส. ของอาสาสมัครสาธารณสุข ประจำหมู่บ้าน (อสม.) ต.คลองฉนาก อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี. วารสารเครือข่ายวิทยาลัยพยาบาลและสาธารณสุขภาคใต้, 4(1), 253-264.

อัจฉรา จิตรใจเย็น, ศศิธร รุจนเวช, และนงพิมล นิมิตรอานันท์. (2563). ศึกษาผลผลของโปรแกรมการส่งเสริมความรอบรู้ด้านสุขภาพต่อความรอบรู้ด้านสุขภาพและพฤติกรรมการป้องกันโรคของกลุ่มเสี่ยงโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ในชุมชนแห่งหนึ่ง จังหวัดสมุทรสาคร. วารสารพยาบาลทหารบก, 22(1), 321-330.

อาภาพร เผ่าวัฒนา, สุรินธร กลัมพากร, สุนีย์ ละกำปั่น, และขวัญใจ อำนาจสัตย์ซื่อ. (2556). การสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรคในชุมชน: การประยุกต์แนวคิดและทฤษฎีสู่การปฏิบัติ (พิมพ์ครั้งที่ 3). กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์คลังนานาวิทยา.

เอื้อจิต สุขพูล, ชลดา กิ่งมาลา, ภาวิณี แพงสุข, ธวัชชัย ยืนยาว, และวัชรีวงค์ หวังมั่น. (2563). ผลของโปรแกรมการพัฒนาความรอบรู้ด้านสุขภาพและพฤติกรรมสุขภาพสำหรับประชาชนกลุ่มวัยทำงาน. วารสารวิชาการสาธารณสุข, 29(3), 219-249.

Anderson, C. (2010). Presenting and evaluating qualitative research. American journal of pharmaceutical education, 74(8), 141. doi: 10.5688/aj7408141

Faul, F., Erdfelder, E., Lang, A. G., & Buchner, A. (2007). G* Power 3: A flexible statistical power analysis program for the social, behavioral, and biomedical sciences. Behavior research methods, 39(2), 175-191. doi: 10.3758/bf03193146

Nutbeam, D. (2008). The evolving concept of health literacy. Social science & medicine, 67(12), 2072-2078. doi: 10.1016/j.socscimed.2008.09.050

World Obesity. (2022). World Obesity Atlas 2022. Retrieve from https://www.worldobesity.org/resources/resource-library/world-obesityatlas-2022

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2025-06-29

รูปแบบการอ้างอิง

สินเธาว์ ป., นาคะเกษียร ป., & มีกุศล เ. (2025). ผลของโปรแกรมพัฒนาความรอบรู้ด้านสุขภาพ 3อ. 2ส. ยุคดิจิตอล 4.0 ต่อพฤติกรรมการป้องกันโรคอ้วนลงพุงของคนวัยทำงานในสถานประกอบการ. วารสารสุขภาพกับการจัดการสุขภาพ, 11(1), 140–152. สืบค้น จาก https://he01.tci-thaijo.org/index.php/slc/article/view/275747

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิจัย