โมเดลความสัมพันธ์เชิงสาเหตุต่อความเข้มแข็งของครอบครัวในบริบทสังคมไทย

ผู้แต่ง

  • อุษา ศรีจินดารัตน์ สถาบันวิจัยพฤติกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
  • ประทีป จินงี่ สถาบันวิจัยพฤติกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
  • ลัดดาวัลย์ เกษมเนตร ข้าราชการเกษียณอายุราชการ
  • ประณต เค้าฉิม ข้าราชการเกษียณอายุราชการ
  • ชูศรี วงศ์รัตนะ ข้าราชการเกษียณอายุราชการ
  • ยุทธนา ไชยจูกุล สถาบันวิจัยพฤติกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
  • ทัศนา ทองภักดี ข้าราชการเกษียณอายุราชการ
  • สิทธิพร ครามานนท์ สถาบันวิจัยพฤติกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
  • พวงรัตน์ เกษรแพทย์ ข้าราชการเกษียณอายุราชการ

คำสำคัญ:

โมเดลความสัมพันธ์เชิงสาเหตุ, ความเข้มแข็งของครอบครัว, ปัจจัยที่มีผลต่อความเข้มแข็งของครอบครัว

บทคัดย่อ

งานวิจัยเรื่องนี้มีวัตถุประสงค์สำคัญ เพื่อการพัฒนาโมเดลความสัมพันธ์เชิงสาเหตุที่มีผลต่อความเข้มแข็งของครอบครัวในบริบทของสังคมไทย ซึ่งหมายถึงสภาพแวดล้อมและความเป็นอยู่ของคนไทยในช่วงปี พ.ศ. 2520 ถึงปัจจุบัน โดยใช้วิธีการวิจัยเชิงปริมาณ กลุ่มตัวอย่างที่ศึกษาคือ หัวหน้าครอบครัวที่มีอายุระหว่าง 40-70 ปี ที่มีภูมิลำเนาอยู่ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล จำนวน 300 คน โดยมีตัวแปรปัจจัยเชิงสาเหตุ จำนวน 11 ตัวแปร และตัวแปรตามจำนวน 1 ตัวแปร เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบสอบถามที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น จำนวน 12 ฉบับ ซึ่งมีค่าความเชื่อมั่นระหว่าง .64 - .98 วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้การวิเคราะห์โมเดลสมการโครงสร้าง (SEM) ด้วยโปรแกรมสำเร็จรูป ผลการวิจัยหลังการปรับโมเดล พบว่า โมเดลมีความสอดคล้องกับข้อมูลเชิงประจักษ์ ซึ่งอธิบายความแปรปรวนความเข้มแข็งของครอบครัวได้ร้อยละ 96 โดยพบว่า ความเข้มแข็งของครอบครัวได้รับอิทธิพลทั้งทางตรงและทางอ้อมจากตัวแปรปัจจัยภายนอกและภายในอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .001 รวมทั้งหมด 6 ตัวแปร ได้แก่ การสนับสนุนทางสังคม การได้รับโอกาสในการสร้างความเข้มแข็งของครอบครัวการเห็นแบบอย่างความเข้มแข็งของครอบครัว ภาวะผู้นำในครอบครัว เจตนาในการทำให้ครอบครัวเข้มแข็ง และการตระหนักต่อการเปลี่ยนแปลงทางสังคม.

เอกสารอ้างอิง

จรวยพร สุภาพ. (2552). ครอบครัวไทย ความสุข ความเข้มแข็ง. บทความในการประชุมวิชาการอนามัยครอบครัวแห่งชาติ ครั้งที่ 6 เรื่อง ครอบครัวไทย ความหลากหลายสู่ความสมดุล ความสุข และความเข้มแข็ง. กรุงเทพ: ภาควิชาอนามัยครอบครัว มหาวิทยาลัยมหิดล.

ดุษฎี โยเหลา, งามตา วนินทานนท์, ชัยวัฒน์ วงศ์อาษา, และ ทัศนา ทองภักดี. (2545). ความเข้มแข็งของครอบครัว : ครอบครัวสุขภาพดี. วารสารพฤติกรรมศาสตร์, 8(1), 1-10.

ทิพย์วัลย์ สุรินยา. (2550). รูปแบบการเสริมสร้างความเข้มแข็งของครอบครัวไทย. วารสารการพยาบาลจิตเวรและสุขภาพจิต, 21, 26-37.

ประทีป จินงี่, ลัดดาวัลย์ เกษมเนตร, ประณต เค้าฉิม,ชูศรี วงศ์รัตนะ, ยุทธนา ไชยจูกุล, ทัศนา ทองภักดี, ...พวงรัตน์ เกสรแพทย์. (2564). การสร้างองค์ประกอบความเข้มแข็งของครอบครัวตามบริบทสังคมไทย. วารสารพฤติกรรมศาสตร์, 27(1), 18-40

พระมหาอนันต์ อนุตฺตโร (อันวิเศษ), และพระสุชาติ อาภสฺสโร (ผึ่งผาย). (2564). กรรมในพุทธปรัชญาเถรวาท. วารสารวิชาการ สถาบันวิทยาการจัดการแห่งแปซิฟิค, 7(1), 117 – 128

รุจา ภู่ไพบูลย์, สาวิตรี ทยานศิลป์, ระพีพรรณ คำหอม, วรรณี เดียวอิศเรศ, ดารุณี จงอุดมการณ์, จิตตินันท์ เดชะคุปต์, ... นิทัศน์ ภัทรโยธิน. (2562). การศึกษาครอบครัวไทยแบบบูรณาการตามวงจรชีวิตครอบครัว. กรุงเทพฯ: สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย.

วัชรินทร์ จามจุรี. (2550). ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยภายในกับปัจจัยภายนอกที่ส่งผลต่อพฤติกรรมก้าวร้าวของเด็กชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร(ฝ่ายประถม). (ปริญญานิพนธ์).กรุงเทพฯ, มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.

Jöreskog, K. G., & Sörbom, D. (1985). Simultaneous analysis of longitudinal data from several cohorts. InW. M. Mason & S. E. Fienberg (Eds). Cohort analysis in social research(pp. 323-341). NY: Springer, https://doi.org/10.1007/978-1-4613-8536-3_10

Thoits, P. A. (1982). Conceptual, methodological, and theoretical problems in studying social support as a buffer against life stress. Journal of Health and Social Behavior, 23(2), 145-159. https://doi.org/10.2307/2136511

Tichy, N. M., & Devanna, M. A. (1986). The transformational leader. Training& Development Journal. 40(7), 19-32

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2022-06-29

รูปแบบการอ้างอิง

ศรีจินดารัตน์ อ., จินงี่ ป., เกษมเนตร ล., เค้าฉิม ป., วงศ์รัตนะ ช., ไชยจูกุล ย., ทองภักดี ท., ครามานนท์ ส., & เกษรแพทย์ พ. (2022). โมเดลความสัมพันธ์เชิงสาเหตุต่อความเข้มแข็งของครอบครัวในบริบทสังคมไทย. วารสารสุขภาพกับการจัดการสุขภาพ, 8(1), 179–193. สืบค้น จาก https://he01.tci-thaijo.org/index.php/slc/article/view/253176

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิจัย