ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมการป้องกันการติดเชื้อวัณโรคของแรงงานข้ามชาติชาวเมียนมาในเขตกรุงเทพมหานคร

เอกลักษณ์  ฟักสุข; กัญชรีย์ พัฒนา; อนงค์นุช สารจันทร์; นันทวัน สุวรรณรูป; อรพรรณ โตสิงห์

ผู้แต่ง

เอกลักษณ์ ฟักสุข คณะพยาบาลศาสตร์ วิทยาลัยวิทยาศาสตร์การแพทย์เจ้าฟ้าจุฬาภรณ์ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์
กัญชรีย์ พัฒนา คณะพยาบาลศาสตร์ วิทยาลัยวิทยาศาสตร์การแพทย์เจ้าฟ้าจุฬาภรณ์ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์
อนงค์นุช สารจันทร์ คณะพยาบาลศาสตร์ วิทยาลัยวิทยาศาสตร์การแพทย์เจ้าฟ้าจุฬาภรณ์ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์
นันทวัน สุวรรณรูป คณะพยาบาลศาสตร์ วิทยาลัยวิทยาศาสตร์การแพทย์เจ้าฟ้าจุฬาภรณ์ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์
อรพรรณ โตสิงห์ คณะพยาบาลศาสตร์ วิทยาลัยวิทยาศาสตร์การแพทย์เจ้าฟ้าจุฬาภรณ์ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์

คำสำคัญ:

การติดเชื้อวัณโรค, พฤติกรรมการป้องกัน, แรงงานข้ามชาติชาวเมียนมา

บทคัดย่อ

การศึกษาครั้งนี้เป็นการวิจัยพรรณนาเชิงทำนายโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมการป้องกันการติดเชื้อวัณโรคของแรงงานข้ามชาติชาวเมียนมา กลุ่มตัวอย่าง คือ แรงงานข้ามชาติชาวเมียนมาจำนวน 161 คน ที่ทำงานในเขตกรุงเทพมหานครเก็บข้อมูล ระหว่างเดือนตุลาคม 2563 ถึงเดือนสิงหาคม 2564 เก็บข้อมูลโดยใช้แบบสอบถามข้อมูลส่วนบุคคล ความรู้เกี่ยวกับเชื้อวัณโรค และการป้องกันการติดเชื้อวัณโรคการรับรู้โอกาสเสี่ยงต่อการติดเชื้อวัณโรค การรับรู้ความรุนแรงจากการติดเชื้อวัณโรค การรับรู้ประโยชน์ในการป้องกันการติดเชื้อวัณโรค การรับรู้อุปสรรคในการป้องกันการติดเชื้อวัณโรค การรับรู้สมรรถนะแห่งตนในการป้องกันการติดเชื้อวัณโรค การรับรู้ข้อมูล และช่องทางการรับรู้ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับเชื้อวัณโรค และการป้องกันการติดเชื้อวัณโรค พฤติกรรมการป้องกันการติดเชื้อวัณโรค วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติการบรรยายและการวิเคราะห์ถดถอยพหุคูณแบบการเลือกแบบลำดับขั้น

ผลการวิจัย พบว่า พฤติกรรมการป้องกันการติดเชื้อวัณโรคของแรงงานข้ามชาติชาวเมียนมา ในเขตกรุงเทพมหานครอยู่ในระดับดี ( $gif.latex?\bar{x}$ = 29.00, SD = 2.07) ปัจจัยทำนายพฤติกรรมการป้องกันการติดเชื้อวัณโรคของแรงงานข้ามชาติชาวเมียนมาในเขตกรุงเทพมหานคร ได้แก่ การรับข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับเชื้อวัณโรค และการป้องกันการติดเชื้อวัณโรค (β= .31 ,p<.05) การรับรู้อุปสรรคในการป้องกันการติดเชื้อวัณโรค (β=.26, p<.05) การรับรู้ความรุนแรงจากการติดเชื้อวัณโรค (β= .19, p<.05) การรับรู้สมรรถนะแห่งตนในการป้องกันการติดเชื้อวัณโรค (β= .17, p<.05) สามารถร่วมทำนายพฤติกรรมการป้องกันการติดเชื้อวัณโรคของแรงงานข้ามชาติชาวเมียนมาในเขตกรุงเทพมหานครได้ระดับต่ำร้อยละ 36

จากการศึกษาครั้งนี้สามารถนำข้อมูลไปใช้ในการวางแผนส่งเสริม และจัดการให้แรงงานข้ามชาติชาวเมียนมาเกิดพฤติกรรมการป้องกันการติดเชื้อวัณโรค เน้นส่งเสริมการเข้าถึงข้อมูล วิธีการป้องกันการติดเชื้อวัณโรคที่ถูกต้อง และส่งเสริมให้เกิดการรับรู้ความรุนแรงจากการติดเชื้อวัณโรค และปรับลดอุปสรรคต่างๆ ในการป้องกันการติดเชื้อวัณโรค เสริมสร้างการรับรู้สมรรถนะแห่งตนในการป้องกันการติดเชื้อวัณโรค และเป็นแนวทางในการวิจัยเชิงทดลองต่อไป

เอกสารอ้างอิง

กรมการจัดหางาน. (2563). แบบแจ้งการทำงานคนต่างด้าวและแบบแจ้งการเข้ามาทำงานของคนต่างด้าว. สืบค้นเมื่อ 2 ตุลาคม 2563, จาก https://www.doe.go.th/prd/alien/statistic/param/site/152/cat/82/sub/0/pull/category/view/list-label

กองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข. (2563). แนวทางคัดกรองโรคในแรงงานต่างด้าวในศูนย์บริการเบ็ดเสร็จ. สืบค้นเมื่อ 30 ตุลาคม 2564, จาก https://ddc.moph.go.th/dcd/news.php?news=10968&deptcode=

กองวัณโรค กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข. (2562). แผนงานวิจัยด้านการป้องกันควบคุมโรคและภัยสุขภาพ พ.ศ. 2562-2564. สืบค้นเมื่อ 2 พฤศจิกายน 2564, จาก https://ddc.moph.go.th/uploads/ckeditor/d3d9446802a44259755d38e6d163e820/ files/22032562.pdf

กองวัณโรค กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข. (2564). รายงานสถานการณ์และการเฝ้าระวังวัณโรคประเทศไทย. สืบค้นเมื่อ 17 พฤศจิกายน 2564, จาก https://www.tbthailand.org/download/form/รายงานสถานการณ์วัณโรคประเทศไทย%20Oct%202020-%20Feb%202021_pp%20edit%203.pdf

ขวัญใจ มอนไธสง, จีราภรณ์ กรรมบุตร และวนลดา ทองใบ. (2560). ปัจจัยทำนายพฤติกรรมการป้องกันวัณโรคของผู้สัมผัสร่วมบ้านกับผู้ป่วยวัณโรคปอดที่พักอาศัยในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล. วารสารพยาบาลทหารบก, 18 (ฉบับพิเศษ), 306-313.

จรณิต แก้วกังวาน และประตาป สิงหศิวานนท์. (2561). ขนาดกลุ่มตัวอย่างในการวิจัยทางคลินิก. ใน พรรณี ปิติสุทธิธรรม, ชยันต์ พิเชียรสุนทร (บ.ก.), ตำราวิจัยทางคลินิก (น.107-144). กรุงเทพมหานคร: บริษัทอมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์พับลิชชิ่ง จำกัด (มหาชน).

ชัชวาล วงค์สารี, ภพธรรม วิชาดี และเฉลิมพล ก๋าใจ. (2562). บทบาทพยาบาลกับการสร้างความเข้มแข็งอดทนของผู้สูงอายุที่พักอาศัยในศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมโดยประยุกต์ใช้ทฤษฎีความสามารถแห่งตน. วารสารสุขภาพกับการจัดการสุขภาพ, 5(1), 9-21.

นงนุช เสือพูมี. (2556). ความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยส่วนบุคคล ความรู้กับพฤติกรรมการป้องกัน วัณโรคปอดของประชาชน ตำบลสวนกล้วย อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี. วารสารพยาบาลกระทรวงสาธารณสุข, 23(2), 79-92.

นวพรรณ เมธชนัน. (2560). รายงานผลการทบทวนข้อมูลเพื่อความเข้าใจสถานการณ์วัณโรคในกลุ่มแรงงาน ต่างด้าวในประเทศไทย. วารสารวิจัยระบบสาธารณสุข, 11(4), 608-623.

บุญใจ ศรีสถิตย์นรากูร. (2553). ระเบียบการวิจัยทางการพยาบาล. พิมพ์ครั้งที่ 5. กรุงเทพมหานคร: ยู แอนด์ ไอ อินเตอร์ มีเดีย.

พรศิริ พันธสี และกาญจนา ศรีสวัสดิ์. (2563). ความสัมพันธ์ระหว่างความเชื่อด้านสุขภาพกับพฤติกรรมสุขภาพตามหลัก 3อ.2ส. ของผู้สูงอายุ สมาคมแต้จิ๋วแห่งประเทศไทย แขวงวัดดอน เขตสาทร กรุงเทพมหานคร. วารสารสุขภาพกับการจัดการสุขภาพ, 6(1), 45-57.

ภาวิณี มนตรี, ยุทธนา กลิ่นจันทร์, กาญจนา คงศักดิ์ตระกูล, ศุภรดา มณฑาทิพย์, วรัญญา ชูเนตร และจักรกฤษณ์ พลราชม. (2563). การศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างแหล่งช่องทางการรับรู้ข้อมูลข่าวสารกับพฤติกรรม การป้องกันควบคุมโรคและภัยสุขภาพในพื้นที่สํานักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 4 จังหวัดสระบุรี พ.ศ. 2561. วารสารกรมควบคุมโรค, 46(1), 32-41.

เอกลักษณ์ ฟักสุข, ปรีย์กมล รัชนกุล และวนลดา ทองใบ. (2562). ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการป้องกันการติดเชื้อเอชไอวีของเยาวชนแรงงานข้ามชาติชาวเมียนมา. วารสารพยาบาลศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 31(3), 60-73.

Aung, Y. W. & Panza, A. (2014). Knowledge, attitude, barriers and preventive behaviors of tubercolosis amomg Myanmar migrants at Hua Fai village, Mae sot district, Tak province, Thailand. Joural of Health Research, 28, 55–61.

Best, J.W. (1981). Research in education (4 th ed.) New Jersey: Prentice-Hall.

Bloom, B.S. (1971). Handbook on Formative and summation Evaluation of student learning. New York: Mc Graw Hall.

Cohen, J. (1998). Statistical Power Analysis for the Behavioral Sciences. New York: Lawerence Enlbaum associates publishers.

Faul, F., Erdfelder, E., Bucher, A. & Lang, A.G. (2009). Statistical power analyses using Gpower 3.1: Test for correlation and regression analyses. Behavioral Research Methodology, 41(4), 1149-1160.

Kasl, S.A. & Cobb, S. (1996). Health and illness behavior. Archives of Environmental Health, 12, 246-266.

Polit, D.F. & Beck, C.T. (2008). Nursing research: Generating and assessing evidence for nursing practice (8th ed.). Philadelphia: Lippincott.

Rosenstock, I. M., Strecher, V. J. & Becker, M. H. (1988). Social Learning Theory and the Health Belief Model. Health Education Quarterly, 15(2), 175-183.

Sreechat, S. & Hongsranagon, P. (2013). Assessment of knowledge, attitude and preventive behavior of pulmonary tuberculosis among Myanmar refugees in Ban mai nai soi temporary shelter, Mae hong son, Thailand. Journal of Health Research, 27(6), 391-398.

Thwin, H. T. & Chapman, R. S. (2009). Preventive behaviors of tubercolosis amomg myanmar migrants at Muang district, Phuket province, Thailand. Journal Health Research, (suppl), 65-67.

World Health Organization. (2018). Fact sheet tuberculosis. Retrieved September 8, 2019, from https://www.who.int/en/news-room/fact-sheets/detail/tuberculosis

World Health Organization. (2021). Global tuberculosis report. Retrieved December 2, 2021, https://www.who.int/teams/global-tuberculosis-programme/tb-reports

Win Aung, Y. & Panz, A. (2014). Knowledge, Attitude, Barriers and preventive behaviors of tuberculosis among Myanmar migrants at Hua Fai village,Mae sot distric, Tak province, Thailand. Journal of Health Research, 28, 55-61.