การดูแลผู้สูงอายุในชุมชนที่ป่วยเป็นโรคเรื้อรังอย่างต่อเนื่องตามมาตรฐานการบริการด้านสุขภาพขององค์การอนามัยโลก

วาสนา รุ่งโรจน์วัฒนา; จินตนา อาจสันเที๊ยะ

ผู้แต่ง

วาสนา รุ่งโรจน์วัฒนา คณะพยาบาลศาสตร์ วิทยาลัยเซนต์หลุยส์
จินตนา อาจสันเที๊ยะ คณะพยาบาลศาสตร์ วิทยาลัยเซนต์หลุยส์

คำสำคัญ:

การดูแลอย่างต่อเนื่องในชุมชน, ผู้สูงอายุที่เจ็บป่วยด้วยโรคเรื้อรัง, องค์การอนามัยโลก

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงสำรวจ เพื่อศึกษาการดูแลอย่างต่อเนื่องสำหรับการเจ็บป่วยด้วยโรคเรื้อรังของผู้สูงอายุในชุมชน โดยใช้กรอบแนวคิดตามมาตรฐานการบริการด้านสุขภาพขององค์การอนามัยโลก กลุ่มตัวอย่างเป็น ผู้สูงอายุที่เจ็บป่วยด้วยโรคเรื้อรังในชุมชนเมือง จำนวน 53 ราย เก็บข้อมูลด้วยแบบสอบถามมีค่าความเที่ยงตรงและความเชื่อมั่นของเครื่องมือผ่านผู้ทรงคุณวุฒิ 3 ท่าน ได้ค่าความสอดคล้อง (IOC) 0.98 ค่าสัมประสิทธิ์แอลฟาของครอนบาคเท่ากับ 0.96 วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติเชิงพรรณนา ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบน

ผลการวิจัยพบว่า การรับรู้ของผู้สูงอายุที่เจ็บป่วยด้วยโรคเรื้อรังด้านการรับรู้เกี่ยวกับการดูแลต่อเนื่องตามกรอบแนวคิดตามมาตรฐานการบริการด้านสุขภาพขององค์การอนามัยโลก ฉบับ 2018 พบว่า สัมพันธภาพระหว่างผู้ดูแลและผู้รับบริการในภาพรวมมีค่าเฉลี่ยรายด้านในระดับดีที่ค่าเฉลี่ย 4.03 จากระดับคะแนนเต็ม 5 ด้านการดูแลต่อเนื่องระยะยาว พบว่า ภาพรวมมีค่าเฉลี่ยรายด้านในระดับพอใช้มีค่าเฉลี่ย 3.90 ด้านข้อมูลข่าวสารเพื่อการสนับสนุนการดูแลต่อเนื่องพบว่า ภาพรวมมีค่าเฉลี่ยรายด้านในระดับพอใช้มีค่าเฉลี่ย 3.95 ส่วนการรับรู้ของ ผู้สูงอายุด้านระดับการรับรู้ของผู้รับบริการ ต่อการได้รับการดูแลต่อเนื่องโดยยึดผู้รับบริการเป็นศูนย์กลาง พบว่า ค่าเฉลี่ยรายด้านรวมอยู่ในระดับดีมีค่าเฉลี่ย 4.07 นอกจากนี้ในภาพรวมของระดับความพึงพอใจในบริการด้าน การดูแลต่อเนื่องที่ผู้สูงอายุได้รับอยู่ในระดับดีมีค่าเฉลี่ย 4.21

ดังนั้นจากผลการวิจัยการดูแลอย่างต่อเนื่องในชุมชนของผู้สูงอายุที่เจ็บป่วยด้วยโรคเรื้อรังตามกรอบแนวคิดตามมาตรฐานการบริการด้านสุขภาพขององค์การอนามัยโลกจะเป็นข้อมูลพื้นฐานสำหรับทีมสุขภาพเพื่อนำไปพัฒนารูปแบบการดูแลต่อเนื่องตามมาตรฐานองค์การอนามัยโลกต่อไป

เอกสารอ้างอิง

จินตนา อาจสันเที๊ยะ และรัชณีย์ ป้อมทอง. (2561). บทบาทพยาบาล: กรณีศึกษาการดูแลด้านจิตใจของผู้ดูแลผู้ป่วยระยะท้าย. วารสารพยาบาลทหารบก, 19(1), 1-8.

จินตนา อาจสันเที๊ยะ และพรนภา คำแพรว. (2557). รูปแบบการดูแลสำหรับผู้สูงอายุในชุมชน (Modality of care for the older adults in community). วารสารพยาบาลทหารบก, 15(3), 123-127.

จินตนา อาจสันเที๊ยะ, สมศรี สุเมธ และสุภาพร ดาวดี. (2563). ความต้องการการดูแลแบบประคับประคอง สำหรับผู้เจ็บป่วยด้วยโรคเรื้อรังในชุมชน:ในมุมมองศาสนาของวัฒนธรรมไทย. Journal of Health and Health Management, 6(1), 10-18.

ธวัชชัย วรพงศธร และสุรีย์พันธุ์วรพงศธร. (2561). การคำนวณขนาดตัวอย่างสำหรับงานวิจัย โดยใช้โปรแกรมสำเร็จรูป G*Power Retrieve on January 20, 2019. ค้นเมื่อ 20 พฤศจิกายน 2564, จาก http://advisor.anamai.moph.go.th/download/Journal_health//2561HEALTH41_/2HEALTH_Vol41No2_.02pdf .

หน่วยบริการปฐมภูมิเครือข่ายโรงพยาบาลมหาสารคาม. (2560). คู่มือการดูแลต่อเนื่องระดับปฐมภูมิเครือข่ายโรงพยาบาลมหาสารคาม. ค้นเมื่อ 20 พฤศจิกายน 2564, จาก http://mkho.moph.go.th/mko/frontend/web/uploads/72078288e1c6024d072d1fa07f76b859.pdf

หน่วยการพยาบาลต่อเนื่องโรงพยาบาลศิริราช. (2559 ). การดูแลต่อเนื่อง. เอกสารประกอบการบรรยายการดูแลต่อเนื่องโรงพยาบาลศิริราช. ค้นเมื่อ 20 พฤศจิกายน 2564, จาก https://www.si.mahidol.ac.th/Th/division/nursing/NDivision/N_OPD/admin/download_files/3_61_1.pdf

วาสนา สวัสดีนฤนาท, อมรพันธุ์ ธานีรัตน์ และธารทิพย์ วิเศษธาร. (2014). The Development of a Palliative Care Model for Terminal Cancer Patients at Maharaj Nakhon Si Thammarat Hospital. Nursing. Journal of the Ministry of Public Health, 144-156. (In Thai).

Alonso, J., Ferrer, M., Gandeck, B., & et al. (2004). Health-related quality of life associated with chronic conditions in eight countries: results from the International Quality of Life Assessment (IQOLA) project. Qual Life Res, 13 282–298.

Jumneansuk, A., Detboon, P., Mingmai, K., Phophak, S., Phoha, S., & Phanitcharoen, S. (2017). Quality of Life among Elderly who are Living with Chronic Diseases, Srichomphu District. Khon Khan Province Ratchaphruek Journal, 15(2), 16-26. (In Thai)

Department of Economic and Social Affairs of the United Nations. (2017). World population ageing. World Health Organization.

Emmett B Keeler. (2005). Assessing the Implementation of the Chronic Care Model in Quality Improvement Collaboratives. Health Serv Res. Aug 2005, 40(4), 978–996. doi: 10.1111/j.1475-6773.2005.00397.

Kaewyoo, R., Niamkerd, P., & Promsukhan, S. (2020). The Relationship Between Social Support, Health Care Behavior and Quality of Life Among the Older People with Chronic Illness in the Community. Journal of Prachomklao College of Nursing, Phetchaburi Province, (2), 166-177. (In Thai)

Srithamrongsawat, S., Bundhamcharoen, K., Sasat, S., & Amnatsatsue, K. (2009). Community Care Model for Older People in Thailand. The Thai Journal of Primary Care and Family Medicine, 22-31. (In Thai)

World Health Organization. (2018). Continuing Care Health Service Standard ISBN 978-1-4601-3844-1(Online) Government of AlbertaCreated by: Alberta Health, Continuing Care.

World Health Organization. (2016). Global strategy on people-centred and integrated health services. Interim report. Geneva: World Health Organization; 2016 .